พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การสวดภาวนาคือแสงสว่างของวิญญาณ

คำเทศน์ของนักบุญยอห์น คริสซอนโตม (พระสังฆราช)
การสวดภาวนาเป็นแสงสว่างของวิญญาณ
การสวดภาวนาและการสนทนากับพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดียิ่ง (....)  ข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึงการสวดภาวนาแต่เพียงภายนอกเท่านั้น  แต่หมายถึงการสวดภาวนาจากหัวใจซึ่งไม่จบสิ้นในเวลาใดเวลาหนึ่ง  แต่ต่อเนื่องกันไปตลอดวันและคืน
วิญญาณของเราต้องรวดเร็วในการขึ้นไปหาพระเจ้า  ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่เราเพ่งพิจารณาไตร่ตรอง  ซึ่งกระทำด้วยจิตใจไม่ใช่เป็นหน้าที่  เราสดับฟังพระองค์ตรัสด้วยความกระหาย  เรากระทำกิจการด้วยความรักความเมตตา  รับใช้ผู้อื่นอย่างดี  จิตวิญญาณของเราควรโหยหาพระเป็นเจ้า  และเรียกหาพระองค์ในจิตใจ  เพื่อที่การงานของเราจะได้มีรสชาติด้วยความรักของพระเป็นเจ้า  และบังเกิดความเอร็ดอร่อยเมื่อถวายงานนั้นแด่องค์พระเจ้าจอมจักรวาล
จิตวิญญาณ....เป็นเหมือนเด็กทารกกำลังร้องไห้ฟูมน้ำตาหามารดาของเขาเพราะหิวนม  ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงจัดเตรียม  เด็กทารกได้รับสมความปรารถนาของเขา  และได้รับของขวัญมากมายจากโลกแห่งธรรมชาติ (....)  ข้าพเจ้าพูดถึงการสวดภาวนาที่ไม่ใช่คำพูด  แต่เป็นการโหยหาพระเป็นเจ้า.....ของขวัญมิใช่มาจากมนุษย์แต่มาจากพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า  อัครสาวกเปาโลกกล่าวว่า “เราไม่รู้ว่าจะสวดาภาวนาอย่างไร  แต่พระจิตเจ้าทรงวอนขอเพื่อเรา  (....)
            จงฝึกฝนการสวดภาวนาตั้งแต่เริ่มต้น  จงทาสีบ้านของท่านด้วยสีแห่งความถ่อมตนและสุภาพเรียบง่าย  ทำให้บ้านส่องสว่างด้วยแสงแห่งความยุติธรรม  ประดับบ้านด้วยใบไม้สีทองแห่งกิจการที่ดีงาม  ตกแต่งบ้านด้วยกำแพงและศิลาแห่งความเชื่อและความรุ่งเรือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น