วันฉลองนักบุญทั้งหลายมีที่มาจากการฉลองมรณสักขีทั้งหลายในศตวรรษที่
4 ที่ฉลองในสัปดาห์แรกหลังวันพระจิตเสด็จลงมา ต่อมาพระสันตะปาปาโบนีฟาสที่ 4
(St. Boniface IV: 608-615) ได้บูรณะวิหาร (Pantheon) ของชาวโรมันให้เป็นวิหารแห่งพระชนนีพระเจ้าและบรรดามรณสักขีผู้ศักดิ์สิทธิ์
เพื่อเก็บรักษาอัฐิของบรรดามรณสักขี โดยทำการฉลองในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 610 ในอีกร้อยปีต่อมาพระสันตะปาปาเกรโกรีที่
3 (Gregory III:731-741) ได้สร้างวัดน้อยในมหาวิหารนักบุญเปโตรอุทิศให้นักบุญทั้งหลาย
และกำหนดให้ฉลองในวันที่ 1 พฤศจิกายน ก่อนที่วันฉลองนี้จะแพร่หลายไปทั่วพระศาสนจักรในเวลาต่อมา
มีผู้คนจำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนักบุญ
ที่หลงคิดว่านักบุญคือผู้ที่ไม่เคยทำบาป หรือไม่เคยกระทำความผิดเลยในชีวิต
เป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง จิตใจดีงาม เข้มแข็งอดทน และสุภาพถ่อมตน ไม่เคยคิดถึงตนเอง
คิดถึงแต่พระเจ้าและผู้อื่น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ความจริง
นักบุญคือผู้ที่มีความพยายามที่จะกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน
แต่เป็นผลมาจากความมานะพยายามและการต่อสู้เอาชนะน้ำใจตนเองด้วยความเจ็บปวด
การเปลี่ยนแปลงจิตใจที่เราเรียกว่า “การกลับใจ” คือสิ่งที่เห็นอย่างเด่นชัดในชีวิตของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่
อย่าง นักบุญเปโตร นักบุญเปาโล นักบุญเอากุสติน นักบุญฟรังซิสอัสซีซี
นักบุญอิกญาซีโอ ฯลฯ บรรดานักบุญเหล่านี้มีช่วงเวลาแห่งชีวิตที่ได้สัมผัสกับความรักของพระเจ้า
และกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเอง สิ่งนี้เองที่ทำให้ชีวิตของบรรดานักบุญท้าทายชีวิตเรา
ทำให้เราคิดถึงความเป็นจริงแห่งชีวิตที่เป็นคนบาป
และเป้าหมายสุดท้ายแห่งชีวิตของเราที่จะต้องมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์ครบครัน
นั่นคือการเป็น “นักบุญ”
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ
ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ
ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น