พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2562

ประชาชนเวเนซูเอลาเข้าโบสถ์มากขึ้น

          เนื่องจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองและมนุษยธรรม ประเทศเวเนซูเอลาซึ่งมีผู้ที่ศรัทธาในศาสนาน้อยกำลังเปลี่ยนเป็นประเทศที่มีความศรัทธาความเชื่อในพระคริสต์ ในขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองมีความชะงักงัน จากการปะทะกันระหว่างประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร Nicolás Maduro และผู้นำฝ่ายค้านนาย ฮวน กัวโด Juan Guaidó ฝ่ายมาดูโร พยายามทุกวิถีทางที่จะบดขยี้นายกัวโด เป็นเวลานานนับเดือน ทำให้เกิดการขาดแคลนไฟฟ้า, อาหารและน้ำ ประชาชนหลายพันคนต้องเสียชีวิต ผู้ป่วยในโรงพยาบาลขาดยารักษา เด็กที่เพิ่งเกิดต้องตายเพราะไม่มีนมและไฟฟ้าสำหรับใช้ในการฟื้นตัว ประชาชนทุกคนต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดไปวันๆ ในวิกฤตการณ์เช่นนี้ประชาชนไม่มีที่ไหนจะพึ่งพาได้ พวกเขาค้นหาความบรรเทาใจและแสวงหาคำตอบของชีวิตที่ทุกข์ยากนี้ 
             Rev. Jesús Godoyพระสงฆ์คาทอลิกประจำโบสถ์ Good Shepherd ในเขต Chacao ของคารากัสกล่าวว่า “พิธีมิสซาในโบสถ์ของพ่อ มีผู้มาร่วมพิธีจนเต็มซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ท่านบอกว่าท่านเห็นคนมากกว่า 2,000 คนในแต่ละอาทิตย์สุดสัปดาห์ “ พวกเขามาสวดภาวนาขอความช่วยเหลือ” คุณพ่อ Godoy กล่าว “พวกเขาต้องการให้พระเจ้าประทานสิ่งที่ช่วยพวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในภาวะวิกฤติ”
             คุณพ่อ Godoy พยายามช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ตามท้องถนนทางด้าน การงาน, อาหาร, ที่พัก, และการปลอบบรรเทาใจ เท่าที่จะทำได้
            นาง Leidy Villegas บอกว่าความเชื่อคาทอลิกทำให้เธอสามารถเผชิญหน้ากับความเป็นจริงได้ เธอหาอาหารสำหรับครอบครัวได้บ้าง เธอหาน้ำได้ในบางวัน แต่ในท่ามกลางความทุกข์ยากนี้ เธอได้พบกับบางอย่างที่ใหญ่และทรงอำนาจมากกว่าวิกฤตการณ์ของประเทศ เธอสามารถร้องเพลงในโบสถ์ของเมืองปาตาเร
             “เราได้พบกับความบรรเทาใจเพียงไม่กี่ชั่วโมงและกลับบ้านอย่างมีความสุข เราลืมแม้กระทั่งความทุกข์ที่ประสบอยู่” เธอกล่าว Leidy อายุ 34ปี และมีลูก 4 คน
              “เรารู้ว่าเรากำลังเดินอยู่บนหนทางแห่งความยากลำบากในวันนี้ แต่เราก็ทำเหมือนในวันก่อน เราหลบภัยมาพึ่งพาพระเจ้า”
              Rev. Manuel Zapata พระสงฆ์เยซูอิต กล่าวว่า “เป็นเรื่องใหม่สำหรับผม ที่เห็นประชาชนมากมายออกจากบ้านมาที่โบสถ์ในวันอาทิตย์ ประชาชนมีความต้องการฝ่ายจิตใจอย่างมากมายในปีนี้”
              Rev. Alfredo Infante พระสงฆ์เยซูอิตในคาราคัส รู้สึกดีใจที่ประชาชนได้ค้นพบความเชื่อของเขาใหม่อีกครั้ง “แต่ผมรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศ เวลานี้พวกเด็กๆกลัวว่าจะไม่มีอะไรกินและต้องลี้ภัยไปยังประเทศอื่น เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากที่เด็กๆกำลังสูญเสียความเป็นเด็กไป”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น