พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

พระศาสนจักรในฮ่องกง

              Hong Kong (AsiaNews) – พระศาสนจักรในฮ่องกงเตรียมต้อนรับคริสตชนใหม่จำนวน 2,800 คนในวันอิสเตอร์ที่จะมาถึงนี้
               Fr Giorgio Pasini อธิการใหญ่ของคณะ Pontifical Institute for Foreign Missions (PIME) ในฮ่องกง ได้บอกกับทาง AsiaNews ว่า จะมีการประกอบพิธีสาบานตนของผู้จะรับศีลล้างบาปขึ้นที่โบสถ์ St Francis of Assisi’s Church, in Shek Kip Mei โดยมีพระคาร์ดินัล John Tong Hon เป็นประธาน พิธีนี้ถือเป็นหัวใจของพระศาสนจักรในฮ่องกง
              “มีผู้สมัครรับศีลล้างบาปและได้เรียนคำสอนแล้วจำนวนมากในปีนี้ พวกเขามีความตื่นตัวในเรื่องนี้มาก ผู้รับศีลล้างบาปเหล่านี้ช่วยทำให้พระศาสนจักรท้องถิ่นมีชีวิตชีวาขึ้น  พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่และได้รับการเตรียมพร้อมมานานหนึ่งปีครึ่ง”
               “เป็นสิ่งที่หาได้ยากที่จะมีคริสตชนใหม่ที่มาจากความเชื่อทางศาสนาพุทธ โดยปกติ ผู้คนในอดีตที่เข้ามาเป็นคริสตชนใหม่มักจะเป็นคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาใด หรือเป็นคนที่นับถือบรรพบุรุษเสียมากกว่า”
                “ผู้สมัครนั้นมาจากทุกระดับฐานะและทุกอาชีพ หลายคนเป็นผู้มีชื่อเสียง ครอบครัวของเขาหรือเพื่อนของเขาได้แนะนำพวกเขาให้มาโบสถ์ แต่พวกเขาก็สามารถหาข้อมูลได้จากทางอินเตอร์เน็ตด้วย ในหลายกรณี, พวกเขาถูกดึงดูดโดยบทบาทของพระศาสนจักร อย่างเช่น เรื่องของสิทธิมนุษยชน”                  โดยส่วนตัวของท่านอธิการ PIME ท่านรู้สึกว่า “นี่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการค้นหาความหมายของชีวิต ซึ่งนำพวกเขามาพบกับความเชื่อคาทอลิกและได้พบความหมายของชีวิตที่แท้จริง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น