ชายซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มผู้หนึ่งออกจากอารามในรอตตอนโดในเวลาเย็นมาก และเมื่อเขากำลังจะออกไป,เขาสังเกตเห็นว่าฝนกำลังตก เขาพูดกับคุณพ่อปีโอว่า “ผมไม่มีร่ม ผมขออยู่ที่นี่จนถึงเช้าได้ไหม ถ้าผมไปในตอนนี้ผมจะต้องเปียกฝน" “ขอโทษนะ,มันเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ต้องกังวลหรอก พ่อจะไปกับคุณด้วย!” คุณพ่อปีโอตอบ ชายคนนั้นคิดว่าให้ถือว่านี่เป็นการใช้โทษบาปอย่างหนึ่ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากคุณพ่อปีโอ การเดินทางอาจลำบากน้อยลง ดังนั้นเขาจึงสวมหมวกและออกเดินทางไปเป็นระยะทางสองไมล์ระหว่างอารามกับหมู่บ้านของเขา แต่ทันทีที่เขาออกไป,เขาก็พบด้วยความประหลาดใจว่าฝนไม่ตกแล้ว เมื่อถึงบ้านก็มีแต่ฝนปรอยๆ “พระเจ้า!” ภรรยาของเขาอุทานขณะที่เปิดประตู “คุณต้องเปียกไปถึงกระดูกแน่!” “ไม่มีอะไรหรอก” เจ้าของฟาร์มตอบ “ฝนไม่ตก” คนงานที่เป็นชาวนาที่อยู่ที่นั่นมองหน้ากันและงุนงงพูดว่า: "อะไรนะ! ฝนไม่ตกแล้วเหรอ? ฝนตกหนักมากนะ! ฟังสิ!". พวกเขาเปิดประตูอีกครั้งและฝนกำลังตก พวกเขาบอกว่าฝนตกนานกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยไม่หยุดเลย “คุณมาที่นี่โดยไม่เปียกได้ยังไง?” พวกเขาถาม เจ้าของฟาร์มตอบว่า: “คุณพ่อปีโอบอกว่าท่านจะมากับผมด้วย” ดังนั้นชาวนาจึงตระหนักว่านี่เป็นอัศจรรย์อีกครั้งจากคุณพ่อปีโอ และพวกเขาแสดงความคิดเห็นว่า: "ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแจ้งแล้ว" พวกเขามุ่งหน้าไปยังห้องครัวอย่างสงบเพื่อรับประทานอาหารเย็น ภรรยาของเขาพูดว่า: “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การมีคุณพ่อปีโอมาด้วย ดีกว่ามีร่ม!”
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สันติจงมีในสวรรค์
และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างชัยชนะ
เมื่อตรัสดังนี้แล้ว พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินต่อไป เสด็จนำหน้าประชาชนขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเสด็จเข้าใกล้หมู่บ้านเบธฟายีและเบธานี ใกล้กับภูเขาที่เรียกกันว่าภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงส่งศิษย์สองคนไป ทรงสั่งว่า ‘จงเข้าไปในหมู่บ้านข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ ยังไม่มีใครเคยขี่ลาตัวนั้นเลย จงแก้เชือกและจูงมาให้เราเถิด ถ้าผู้ใดถามว่า ท่านแก้เชือกผูกลาทำไม จงตอบเขาว่า พระอาจารย์ต้องการใช้มัน” ศิษย์ที่พระองค์ทรงสั่ง ได้ไปและพบตามที่พระองค์ทรงบอกเขา ขณะที่เขากำลังแก้เชือกผูกลูกลาอยู่ เจ้าของลาถามว่า ‘ท่านแก้เชือกลูกลาทำไม’ ศิษย์ทั้งสองคนก็ตอบว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการใช้มัน’ ศิษย์ทั้งสองคนจูงลูกลามาถวายพระเยซูเจ้า ปูเสื้อคลุมของตนบนหลังลา แล้วทูลเชิญพระเยซูเจ้าให้ทรงลาตัวนั้น ขณะที่พระองค์เสด็จไป ประชาชนปูเสื้อคลุมของตนบนทาง เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ทางลงจากภูเขามะกอกเทศแล้ว บรรดาศิษย์ต่างมีความชื่นชมยินดี โห่ร้องสรรเสริญพระเจ้าเพราะการอัศจรรย์ทุกอย่างที่เขาเห็นว่า
ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ผู้เสด็จมา
ในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สันติจงมีในสวรรค์
และพระสิริรุ่งโรจน์จงมีในที่สูงสุด
ชาวฟาริสีบางคนในหมู่ประชาชนทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ จงห้ามบรรดาศิษย์ของท่านเถิด’ พระองค์ตรัสตอบว่า ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนเหล่านี้นิ่งเงียบ ก้อนหินทั้งหลายจะส่งเสียงตะโกน’
(ลูกา 19:28-40 (บทอ่านก่อนแห่ใบลาน))
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น