พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน


ฉลองวันที่ 14 ธ.ค. บิดาของนักบุญยอห์นถูกบรรดาญาติของเขาตีตัวออกห่าง เพราะเขาไปแต่งงานกับหญิงกำพร้าที่ยากจน และนักบุญยอห์นซึ่งเกิดจากหญิงผู้นี้และได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยความยากจนจึงเลือกความยากจนนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของท่าน ท่านไม่สามารถเรียนรู้เรื่องการค้าขาย ท่านกลายเป็นผู้รับใช้ของคนยากจนในโรงพยาบาล Medina ในขณะที่ยังคงเล่าเรียนศึกษาอยู่(โดยดูแลคนวิกลจริต) ในปี ค.ศ. 1563 เมื่ออายุได้21ปี ,ด้วยความถ่อมตน,ท่านได้ถวายตัวเป็นบราเดอร์ฆราวาสในคณะนักพรตคาร์เมไลต์(ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงที่คณะกำลังประสบปัญหานักบวชประพฤติหย่อนยาน ไม่เคร่งครัดในวินัย) อย่างไรก็ตาม,ด้วยความรู้ความสามารถของท่าน,ท่านได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ ตอนนี้ท่านคิดจะเปลี่ยนไปเป็นพระสงฆ์ในคณะคาร์ทูเซียนที่เคร่งครัด นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา,ด้วยสัญชาตญาณของนักบุญ,ได้ชักชวนให้ยอห์นคงอยู่ในคาร์เมไลท์และช่วยเธอในการปฏิรูประเบียบวินัยของคณะที่ยอห์นอยู่ ท่านตอบรับเข้าร่วมการปฏิรูป และได้ช่วยก่อตั้งอารามหลายแห่งในสเปน อย่างไรก็ตาม ท่านกลับถูกต่อต้านจากเพื่อนภราดาในคณะ เพราะเห็นว่าแนวทางการปฏิรูปของท่านเคร่งครัดเกินไป ท่านถูกอัคราธิการของคณะสั่งขังอยู่นานถึง 9 เดือน จึงหนีออกมาได้ ตลอดช่วงเวลาที่ถูกขังท่านได้เขียนวรรณกรรมเชิงรหัสยะหลายชิ้นซึ่งได้รับยกย่องมากในปัจจุบัน  
 
ท่านยังดำเนินการปฏิรูปคณะต่อจนส่งผลให้ภราดาคณะคาร์เมไลท์ในกลุ่มของท่านได้แยกตัวออกมาจากคณะเดิมและได้รับอนุมัติจากพระสันตะปาปาให้มีสิทธิปกครองตนเองโดยไม่ขึ้นกับคณะเดิม คณะใหม่นี้มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่าคณะคาร์เมไลท์ไม่สวมรองเท้า ก่อนที่ยอห์นจะเสียชีวิต,ท่านยังถูกนักพรตพี่น้องร่วมคณะเบียดเบียนข่มเหงและถูกทำให้อับอายขายหน้าถึงสองครั้ง แต่การถูกละทิ้งจากผู้คนอย่างสมบูรณ์ทำให้สันติสุขภายในของยอห์นลึกซึ้งยิ่งขึ้นและมีความปรารถนาเพื่อสวรรค์เท่านั้น
  
พิจารณาไตร่ตรอง—"การมีชีวิตอยู่ในโลก" นักบุญยอห์นกล่าว "จงทำราวกับว่าพระเจ้าและวิญญาณของท่านเท่านั้นที่อยู่ในโลก แล้วหัวใจของท่านจะไม่มีวันถูกจับจองโดยสิ่งของทางโลก" 

นำมาจากหนังสือ “Lives of the Saints “
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น