พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

จดหมายของอเล็กซานโดร


อเล็กซานโดร เสียชีวิตวันที่ 6 พ.ค. 1970 ที่คอนแวนต์คาปูชินใน Macerata เขาได้เขียนจดหมายเพื่อเป็นหลักฐานเกี่ยวกับชีวิตจิตของเขาไว้ 
 จดหมายลงวันที่ 5 พ.ค. 1961 
ผมอายุใกล้ 80 ปีแล้ว ผมกำลังจะจากไป เมื่อมองย้อนไปในอดีตของผม ผมเห็นว่าในวัยแรกรุ่นของผม ผมเลือกทางเดินที่ผิดซึ่งนำไปสู่การทำลายตัวเอง 
ความประพฤติของผมได้รับอิทธิพลมาจากหนังสือ จากสื่อต่างๆ และตัวอย่างที่เลวซึ่งส่งผลต่อวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยยั้งคิด และผมก็เป็นเช่นนั้น ผมไม่เคยคิดถึงคนดีซึ่งมีอยู่มากมายและอยู่รอบๆตัวผม ผมไม่สนใจพวกเขา เพราะพลังที่รุนแรงทำให้ผมตาบอดและผลักดันผมให้มุ่งไปสู่หนทางชีวิตที่ผิดพลาด 
เมื่อผมอายุ 20 ปี ผมประกอบอาชญากรรม เวลานี้ ความทรงจำนั้นเป็นสิ่งน่าขนพองสยองเกล้าสำหรับผม มาเรีย กอเรตตี ขณะนี้เป็นนักบุญแล้ว เธอเป็นเทวดาของผม เธอถูกส่งมาหาผมโดยพระญาณเอื้ออาทรเพื่อนำทางผมและช่วยผมให้รอด ผมยังคงประทับใจในคำพูดตำหนิและให้อภัยของเธอ เธอสวดภาวนาเพื่อผม เธอได้ช่วยเหลือฆาตกรที่ฆ่าเธอ ผมต้องติดคุก 30 ปี 
ผมยินดีที่จะติดคุกตลอดชีวิต ผมยอมรับการพิพากษาเพราะมันเป็นความผิดของผมเอง 
มาเรียน้อยๆเป็นแสงสว่างของผมอย่างแท้จริง เธอเป็นผู้ปกป้องผม ด้วยความช่วยเหลือของเธอ ผมประพฤติดีในระหว่างที่ติดคุก 27 ปีและผมพยายามใช้ชีวิตอย่างสัตย์ซื่อ เมื่อผมได้รับการยอมรับจากสังคมอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องของฟรังซิส คาปูชินจากมาร์เช่ ได้ต้อนรับผมอย่างเต็มใจดุจเทวดา พวกท่านอนุญาตให้ผมอยู่กับท่านในอารามเหมือนพี่น้อง ไม่ใช่ในฐานะคนรับใช้ แล้วผมก็อาศัยอยู่กับพวกท่านเป็นเวลานานถึง 24 ปี และเวลานี้ผมกำลังรอคอยวันที่จะไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า เพื่อกอดคนที่ผมรักอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อยืนอยู่เคียงข้างอารักขเทวดาของผมและมารดาของเธอ-อัสซุนตา 
ผมหวังว่าจดหมายที่ผมเขียนขึ้นนี้จะได้เป็นบทเรียนให้แก่ผู้อื่นให้หลีกหนีความชั่วและเดินในหนทางที่ถูกต้องเสมอ เหมือนดังเด็กเล็กๆ ผมรู้สึกว่าศาสนาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตของเรา แต่ศาสนาเป็นสิ่งที่ให้ความปลอบประโลม ให้พลังที่เข้มแข็งในชีวิตและเป็นหนทางที่ปลอดภัยในทุกกรณีแม้แต่ในเวลาที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต 
ลายเซ็น อเล็กซานโดร เซเรเนลลี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น