พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567

ซาตานปกครองโลกอย่างไร

ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลกได้อย่างไร? พระคัมภีร์ 2โครินทร์ 4:4 บอกเราว่า “ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลก เขาทำให้จิตใจของคนมืดบอด เพื่อที่จะไม่เห็นแสงสว่างคือข่าวดีเรื่องพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้า” ภาษากรีกเรียกโลกว่า คอสมอส มันเป็นโลกทางกายภาพซึ่งได้แก่ ระเบียบ, แฟชั่น, สังคม, ความบันเทิง, การศึกษา,ฯลฯ และนักบุญเปาโลได้อธิบายว่า ซาตานสร้างอิทธิพลของมันโดยผ่านทางระบบต่างๆที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ปีศาจใช้อำนาจปกครองของมันอย่างไร? มันทำงานผ่านทาง การเมือง,ความบันเทิงรูปแบบต่างๆ,การศึกษา มันทำงานทั้งหมดนี้โดยอยู่เบื้องหลัง,คอยชักใยผู้คนเหมือนหุ่นเชิดในมือของมัน 
มันทำงานโดยผ่านทางมนุษย์ในระบบของโลก,โดยการฉีดความคิดชั่วร้ายของมันเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ เหมือนกับที่เครื่องส่งโทรทัศน์ถ่ายทอดสัญญาณไปในอากาศ,ถึงเครื่องรับในบ้านของผู้คน การเปรียบเทียบนี้สามารถช่วยให้เราเห็นว่าเหตุใดพระคัมภีร์จึงเรียกซาตานว่า “เทพนิกรเจ้าผู้ปกครองชั้นบรรยากาศ คือจิตที่ทำงานในมนุษย์ที่ไม่ยอมเชื่อฟัง ทุกคนก็เคยประพฤติเช่นนี้ในอดีต ปล่อยตนตามราคตัณหา ปฏิบัติตนตามความต้องการและความคิดโดยธรรมชาติฝ่ายต่ำ เราจึงน่าจะถูกพระเจ้าลงโทษเช่นเดียวกับคนอื่น” (เอเฟซัส 2:2–3) 
นี่ไม่ได้หมายความว่ามันปกครองโลกโดยสมบูรณ์ พระเจ้ายังคงทรงอำนาจสูงสุด แต่พระเจ้า,ด้วยพระปรีชาญาณอันไม่มีขอบเขตของพระองค์,ได้ยอมให้ซาตานดำเนินการในโลกนี้ภายในขอบเขตที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดไว้สำหรับมัน เมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าซาตานมีอำนาจเหนือโลก เราต้องจำไว้ว่าพระเจ้าประทานอำนาจแก่มันเหนือผู้ที่ไม่เชื่อเท่านั้น ผู้เชื่อไม่อยู่ภายใต้การปกครองของซาตานอีกต่อไป (โคโลสี 1:13) ในทางกลับกัน ผู้ไม่เชื่อก็ติดอยู่ใน "บ่วงของมาร" (2 ทิโมธี 2:26) ตกอยู่ใน "อำนาจของมารร้าย" (1 ยอห์น 5:19) และตกเป็นทาสของซาตาน ( เอเฟซัส 2:2)  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น