พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2025 สมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า

         & ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
(ลูกา 9:11-17)








วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567

คนโง่


มี 5 ครั้งที่พระเยซูทรงเรียกบางคนว่าเป็นคนโง่เขลา (เปิดพระคัมภีร์ดูตาม)

 ในมัทธิว 23:17 พระเยซูตรัสสองครั้งว่า “คนโง่” คือคนที่มุ่งแต่ในเรื่องเงินทอง แทนที่จะมุ่งในพระเจ้า พระองค์เรียกพวกเขาว่า “คนโง่เขลาและตาบอดเอ๋ย” และคำในภาษากรีกสำหรับคำว่า โง่เขลา นั้นคือ MORON

พระเยซูตรัสคำนี้เป็นครั้งที่สาม พบในลูกา 11:40 “คนโง่เอ๋ย” พระองค์ตรัสเกี่ยวกับฟาริสี ที่ดูแต่ภายนอก ไม่ดูภายในจิตใจ 

 พระเยซูตรัสครั้งที่สี่ พบในลูกา 12:20 พระองค์ตรัสเกี่ยวกับคนที่มุ่งแต่ชีวิตทางโลกในปัจจุบัน แทนที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับชีวิตนิรันดร์ คนที่คิดว่าเขามีทุกสิ่งแล้วและจะใช้ชีวิตที่เหลือในความสะดวกสบาย พระองค์เรียกเขาว่า “คนโง่เอ๋ย”

 และพระเยซูตรัสครั้งที่ห้าและเป็นครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับคนโง่ พระองค์ตรัสหลังจากทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์แล้ว และพระองค์เดินไปพร้อมกับศิษย์สองคนเพื่อไปยังเอมมาอุส ศิษย์ทั้งสองไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงกลับคืนชีพแล้ว พวกเขายังจำพระองค์ไม่ได้ (ลูกา 24:25) พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เจ้าคนเขลาเอ๋ย ใจของเจ้าช่างเชื่องช้าที่จะเชื่อข้อความที่บรรดาประกาศกกล่าวไว้ พระคริสตเจ้าจำเป็นต้องทนทรมานเช่นนี้เพื่อจะเข้าไปรับพระสิริรุ่งโรจน์จองพระองค์มิใช่หรือ”

 พระเยซูเรียกคนประเภทที่กล่าวมาแล้วนี้ว่า “คนโง่”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น