พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สถานการณ์ในอิรัก



เวลาผ่านไป 1 ปีแล้วตั้งแต่ที่กลุ่มอิสลามสเตท  ISIS เข้ามาในอิรัก (10 มิ.ย. 2014) และยึดเมืองโมซุล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ
ชาวบ้านถูกผู้ก่อการร้ายบังคับให้ต้องยอมรับเงื่อนไขสามประการคือ   1. เปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม  2 จ่ายค่าปรับ 250 ดอลลาร์ในการเป็นคริสตชน หรือ 3. ยอมรับความตาย  ชาวบ้านนับพันคนตัดสินใจอพยพหนีออกจากถิ่นฐานบ้านช่องของเขา  เพื่อไม่ต้องทำตามเงื่อนไข
หลายคนอพยพไปอยู่ที่ เคอร์ดิสถาน ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของอิรัก  ชาวบ้านที่นั่นมีชีวิตที่สงบสุข  พระสังฆราช บาร์ชา วาร์ดา ซึ่งมาจาก Erbil ที่เป็นเมืองหลวงของเคอร์ดิสถาน  กล่าวว่ามีคริสตชนมาที่นี่ทุกวันเพื่อหาที่ลี้ภัย  ท่านเห็นน้ำตาของพวกเขาและฟังเรื่องราวความรุนแรงที่พวกเขาได้รับ
พระสังฆราช บาร์ชา แห่ง เออร์บิล (เคอร์ดิสถาน)
“ผมรู้สึกเหนื่อย  ผมได้เห็นคนจำนวนมากที่อยู่ในความยากลำบาก และความต้องการก็มีมากขึ้นทุกวัน  มีคนมาเคาะประตูโบสถ์ในสังฆมณฑลของผมเพื่อขอความช่วยเหลือและที่พักพิง  ขอการรักษาพยาบาล  การศึกษา..และความจำเป็นอื่นๆ
ถึงแม้จะผ่านไปหนึ่งปีแล้ว  แต่สถานการณ์ก็ยังไม่จบสิ้น  พระสังฆราชกล่าวว่าผู้นำชาวมุสลิมจำเป็นต้องออกมาประณามการโจมตีและการกระทำของ Islamic State
“ถ้าผู้นำมุสลิมไม่ออกมาประณาม  เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายก็ยังคงมีอยู่เรื่อย  และชาวมุสลิมเองก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป  สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการลดทอนชื่อเสียงของอิสลาม  แต่มันเป็นการที่พวกเขาทำลายชีวิตของผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก”
กลุ่ม Islamic State เข้าควบคุมพื้นที่ 40 เปอร์เซ็นต์ของอิรัก และ ครึ่งหนึ่งของประเทศซีเรีย  พระสังฆราชกล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้เป็นเหมือนมะเร็งร้ายที่จำเป็นต้องหยุดมันให้ได้
“ผมเชื่อว่ากลุ่มนี้เป็นเหมือนมะเร็งร้าย  สิ่งที่แรกที่คุณต้องทำเพื่อต่อสู้กับมะเร็งก็คือการหยุดมันให้ได้  เพราะไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว  ไม่มีทางที่จะไปต่อรองกับพวกเขาหรือมีวิธีแก้ปัญหาแบบอื่น”
ด้วยการใช้ปฏิบัติการทางทหาร พระสังฆราชเชื่อว่าจะช่วยเยียวยาปัญหาของอิรักทั้งชนส่วนใหญ่และชนส่วนน้อยของประเทศ  ท่านคิดว่า นานาชาติจำเป็นต้องตอบสนองด้วยวิถีทางการเมืองและการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
ท่านกล่าวว่า ผู้ลี้ภัยและชนส่วนน้อยต่างศาสนาไม่ต้องการละทิ้งอิรัก  พวกเขาต้องการกลับบ้าน  แต่มันเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น