พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทความเกี่ยวกับสตีฟ.จอบส์


ผมประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านธุรกิจ  หรืออาจกล่าวว่าชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความสำเร็จ  แต่นอกจากการทำงานแล้ว  ผมไม่ได้มีความสุขนัก  เพราะในที่สุด  ความร่ำรวยก็กลายเป็นสิ่งเดียวที่ผมมี
ในขณะนี้ผมกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงและพยายามรำลึกถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา  ในความมืด  ผมมองเห็นเพียงแสงสีเขียวและเสียงของเครื่องช่วยหายใจ  ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว  ตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักว่า  เมื่อเราร่ำรวยพอแล้ว  เราควรหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆบ้าง  ซึ่งอาจเป็นสิ่งอื่นๆที่สำคัญ  เช่น  งานศิลปะที่เราเคยใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ  การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ำรวย  จะทำให้ต้องมีชีวิตเหมือนที่ผมเป็น
พระเจ้าได้มอบความรักไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน  ซึ่งไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน  เมื่อผมตาย  ผมเอาความร่ำรวยไปด้วยไม่ได้  สิ่งที่ผมจะนำติดตัวไปคือความทรงจำเกี่ยวกับความรักเท่านั้น  ซึ่งเป็นความร่ำรวยที่แท้จริงและจะเป็นแสงนำทางให้กับเราต่อไป  ความรักจะติดตามเราไปได้ทุกที่  เพราะมันอยู่ในหัวใจและในมือของเราเอง
เตียงที่แพงที่สุดในโลกก็คือเตียงผู้ป่วย  คุณสามารถจ้างคนมาขับรถให้  มาทำงานหาเงินให้  แต่ไม่มีใครมาป่วยแทนคุณได้  สิ่งของใดๆที่หายไป  เราอาจหาพบได้  แต่เราเอาชีวิตที่เสียงไปแล้วกลับคืนมาไม่ได้  เมื่อเราเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัด  เราจะตระหนักได้ว่า  เราใส่ใจสุขภาพของตัวยเองน้อยเกินไป  แต่เรามักจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไปเสมอ  จงให้ความรักกับครอบครัว  กันคนรัก  และเพื่อนๆ หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองและใส่ใจคนรอบข้างให้มากๆ
(จากบทความเกี่ยวกับสตีฟ  จอบส์  ที่พบในเฟสบุ๊ค)-วัดแม่พระกุหลาบทิพย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น