พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เตือนเอลนีโญปีนี้ร้ายแรงที่สุด


เตือนเอลนีโญเลวร้ายสุด องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเผยปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนในปีนี้ถือว่าเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 15 ปี เพราะได้ทำให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วม นายมิเชล จาร์โรด์เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแถลงว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งเกิดขึ้นทุก 2-7 ปีหลังจากที่เพิ่งจะปรากฏขึ้นมาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองแต่กลับรุนแรงและสมบูรณ์เต็มที่แล้วก็ยังคาดว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นอีกภายในสิ้นปีนี้ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมรุนแรงปรากฏให้เห็นอยู่ในแนวเขตร้อนและต่ำกว่าเขตร้อนของโลกสะท้อนถึงสัญญาณของร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า15ปี ปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดขึ้นจากอุณหภูมิพื้นผิวทะเลสูงขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกทำให้เกิดฝนตกหนักผิดปกติในบางพื้นที่ของโลกและยังทำให้เกิดภัยแล้ง ในปีนี้เอลนิโญทำให้อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกและตอนกลางมีอุณหภูมิสูงเกินกว่าปกติ 2 องศาเซลเซียส จึงทำให้ปรากฏการณ์เอลนีโญในปีนี้รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2493 ปกติแล้วเอลนีโญจะถึงระดับความรุนแรงสูงสุดในช่วงเดือนต.ค.ถึงม.ค.แต่มักจะอ่อนกำลังลงเมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสแรกของปีถัดไป
ที่มา : เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น