Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด
บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด
บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559
การรักษาโรคทางร่างกายและจิตใจ
ปี 1840 ชายผู้หนึ่งชื่อ โรเชต Rochette พาลูกชายของเขาซึ่งเจ็บป่วยไปพบกับคุณพ่อยอห์น มารีย์
เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอาร์ส
โดยมีภรรยาติดตามมาด้วย
ภรรยาได้ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท
ขณะที่โรเชตสนใจแต่เพียงการรักษาอาการป่วยของลูกชายให้หายเท่านั้น เขาจึงเข้าไปในโบสถ์เพียงไม่กี่นาที แล้วไปยืนอยู่บริเวณอ่างน้ำเสกซึ่งอยู่ท้ายโบสถ์
คุณพ่อเจ้าอาวาสเดินจากพระแท่นไปยังที่ฟังสารภาพบาป
โรเชตเห็นคุณพ่อเรียกเขาให้มายังที่ฟังสารภาพบาปนั้น แต่เขาปฏิเสธ
ในเวลานั้นภรรยาของเขาและลูกชายอยู่ใกล้กับที่ฟังสารภาพบาป คุณพ่อเวียนเนย์ถามผู้เป็นภรรยาว่า
“เขาไม่มีความเชื่อมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
สุดท้าย
เมื่อจบการเทศน์ครั้งที่สามของคุณพ่อเวียนเนย์ โรเชตก็ตัดสินใจเดินไปยังที่ฟังสารภาพบาป “เอาละ” เขาคิด “คุณพ่อเจ้าอาวาสคงไม่กินฉันหรอก” เขาเดินตามคุณพ่อเวียนเนย์ไปเบื้องหลังพระแท่น โดยไม่รอช้า
คุณพ่อพูดว่า “โรเชต
ตรงนี้แหละเป็นที่สำหรับเราทั้งสอง” แล้วท่านชี้นิ้วไปที่ฟังสารภาพบาป “จงเข้าไปข้างใน” โรเชต ตอบว่า “โอ ผมยังไม่อยากสารภาพบาปหรอกครับ” แต่คุณพ่อย้ำว่า
“เราจะต้องเริ่มต้นที่นั่น”
โรเชตรู้สึกตั้งตัวไม่ติดต่อการโจมตีอย่างทันทีทันใดนี้ เขาคุกเข่าลงและพูดกระอึกกระอักว่า
“คุณพ่อครับ.....เป็นเวลานานประมาณสิบปีแล้ว.....” คุณพ่อพูดว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้ซิ” “ประมาณสิบสองปีครับ.....” คุณพ่อพูดอีกว่า
“บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้อีก” โรเชตพูดว่า
“ครับ...คือตั้งแต่ปีศักดิ์สิทธิ์ 1826”
คุณพ่อพูดว่า “อา...ใช่แล้วตอนนั้นแหละ
เราจะพบเมื่อใช้ความพยายามสักเล็กน้อย”
แล้วโรเชตก็สารภาพบาปทั้งหมดของเขาเหมือนเด็กเล็กๆ ในวันต่อมาโรเชตและภรรยาก็มาคุกเข่าที่โบสถ์ ส่วนลูกชายของเขา
เดินออกจากโบสถ์โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงสองข้างนั้นอีก เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป
คุณพ่อเวียนเนย์ได้รักษาโรคฝ่ายจิตใจของผู้เป็นพ่อ และรักษาโรคฝ่ายร่างกายของผู้เป็นลูก เป็นอัศจรรย์สองครั้งในครั้งเดียว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น