พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

การรักษาโรคทางร่างกายและจิตใจ

ปี 1840 ชายผู้หนึ่งชื่อ โรเชต Rochette พาลูกชายของเขาซึ่งเจ็บป่วยไปพบกับคุณพ่อยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอาร์ส  โดยมีภรรยาติดตามมาด้วย  ภรรยาได้ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท  ขณะที่โรเชตสนใจแต่เพียงการรักษาอาการป่วยของลูกชายให้หายเท่านั้น  เขาจึงเข้าไปในโบสถ์เพียงไม่กี่นาที  แล้วไปยืนอยู่บริเวณอ่างน้ำเสกซึ่งอยู่ท้ายโบสถ์  คุณพ่อเจ้าอาวาสเดินจากพระแท่นไปยังที่ฟังสารภาพบาป  โรเชตเห็นคุณพ่อเรียกเขาให้มายังที่ฟังสารภาพบาปนั้น  แต่เขาปฏิเสธ  ในเวลานั้นภรรยาของเขาและลูกชายอยู่ใกล้กับที่ฟังสารภาพบาป  คุณพ่อเวียนเนย์ถามผู้เป็นภรรยาว่า “เขาไม่มีความเชื่อมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”  สุดท้าย  เมื่อจบการเทศน์ครั้งที่สามของคุณพ่อเวียนเนย์   โรเชตก็ตัดสินใจเดินไปยังที่ฟังสารภาพบาป  “เอาละ” เขาคิด  “คุณพ่อเจ้าอาวาสคงไม่กินฉันหรอก”  เขาเดินตามคุณพ่อเวียนเนย์ไปเบื้องหลังพระแท่น  โดยไม่รอช้า  คุณพ่อพูดว่า “โรเชต  ตรงนี้แหละเป็นที่สำหรับเราทั้งสอง” แล้วท่านชี้นิ้วไปที่ฟังสารภาพบาป  “จงเข้าไปข้างใน”  โรเชต ตอบว่า “โอ  ผมยังไม่อยากสารภาพบาปหรอกครับ”  แต่คุณพ่อย้ำว่า “เราจะต้องเริ่มต้นที่นั่น”  โรเชตรู้สึกตั้งตัวไม่ติดต่อการโจมตีอย่างทันทีทันใดนี้  เขาคุกเข่าลงและพูดกระอึกกระอักว่า “คุณพ่อครับ.....เป็นเวลานานประมาณสิบปีแล้ว.....”  คุณพ่อพูดว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้ซิ”  “ประมาณสิบสองปีครับ.....”  คุณพ่อพูดอีกว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้อีก”  โรเชตพูดว่า “ครับ...คือตั้งแต่ปีศักดิ์สิทธิ์ 1826”  คุณพ่อพูดว่า “อา...ใช่แล้วตอนนั้นแหละ  เราจะพบเมื่อใช้ความพยายามสักเล็กน้อย”  แล้วโรเชตก็สารภาพบาปทั้งหมดของเขาเหมือนเด็กเล็กๆ   ในวันต่อมาโรเชตและภรรยาก็มาคุกเข่าที่โบสถ์  ส่วนลูกชายของเขา  เดินออกจากโบสถ์โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงสองข้างนั้นอีก  เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป  คุณพ่อเวียนเนย์ได้รักษาโรคฝ่ายจิตใจของผู้เป็นพ่อ  และรักษาโรคฝ่ายร่างกายของผู้เป็นลูก  เป็นอัศจรรย์สองครั้งในครั้งเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น