พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

นักบุญน้อยกระพริบตา



(Catholic Online) 9/25/2016 - ที่อาสนวิหารแห่งกัวดาลาจาราซึ่งได้เก็บพระธาตุร่างกายที่ไม่เน่าเปื่อยของนักบุญเด็กหญิงชื่อ Santa Inocencia Bares (St. Innocence Bares น.บาเรสผู้บริสุทธิ์) และนักบุญเด็กหญิงได้กระพริบตาของเธอขณะที่มีคนหนึ่งกำลังถ่ายวีดีโอ
น.บาเรส เด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าโดยบิดาของเธอเองเมื่อ 300 ปีก่อนหลังจากที่เธอรับศีลมหาสนิท
มีบันทึกกล่าวว่า  เด็กน้อยบาเรสได้แอบหนีบิดาของเธอไปร่วมพิธีมิสซา เพราะบิดาไม่ยอมให้เธอเป็นคาทอลิก  เธอมีเพื่อนเป็นซิสเตอร์ผู้หนึ่งซึ่งได้สอนเธอเรื่องพระเยซูเจ้าและศีลมหาสนิท  เธอจึงปรารถนาจะรับศีลและเธอก็ได้รับศีลมหาสนิท  เมื่อเธอกลับบ้านหลังจากพิธีมิสซา  บิดาของเธอได้ตีเธอที่หน้าอกอย่างแรงทำให้เธอเสียชีวิตทันที
ร่างของเธอถูกนำไปที่อาสนวิหารกัวดาลาจารา  และถูกรักษาไว้โดยทาด้วยแวกซ์เพื่อเป็นอนุสรณ์ของความรักต่อศีลมหาสนิทของเธอ
เธอสวมเสื้อผ้าสีขาวและถูกวางไว้ในโลงแก้ว  มีผู้แสวงบุญนิยมมาถ่ายรูปและถ่ายวีดีโอที่โลงนี้และถ่ายรูปบริเวณพระแท่น
มีคนหนึ่งได้ถ่ายวีดีโอในอาสนวิหารและน.บาเรส ในโลงแก้ว  วีดีโอบันทึกด้วยภาพคุณภาพต่ำ  แต่ก็สามารถเห็นได้ชัดว่า น.บาเรสได้กระพริบตา
วีดีโอถูกนำไปลงในยูทูปและมีผู้ชมถึง 700,000 ครั้งแล้ว
บางคนไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง  แต่บางคนเชื่อว่าเป็นอัศจรรย์
              ลองดูวีดีโอ
ให้เราพิจารณาให้ดี  อัศจรรย์ใดๆก็ตามที่ทำให้เราเกิดความศรัทธาในพระเป็นเจ้าก็นับว่ามีประโยชน์  มิฉะนั้นก็จะเป็นเพียงเรื่องแปลกประหลาดเท่นั้น  และอัศจรรย์นั้นมีอยู่ตลอดเวลาในชีวิตประจำวันของเรา  เช่น  เซลส์ และ DNA ในร่างกายของเราเอง  ซึ่งเป็นอัศจรรย์ของการเนรมิตสร้างของพระเป็นเจ้า  และเป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น