พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พระศาสนจักรสำหรับของทุกคน


2016-09-28  -- บนกางเขน พระเยซูเจ้าทรงให้อภัยแก่ทุกคน  และการไถ่กู้ของพระองค์มีสำหรับทุกคน  แม้แต่คนที่ทำบาปหนักที่สุด  ถ้าเพียงแต่เขาจะเข้ามาใกล้พระเยซูเจ้าด้วยความสำนึกผิด  “และด้วยความปรารถนาที่จะได้รับการโอบกอดจากพระองค์”  พระสันตปาปาฟรังซิสทรงให้ข้อคิดในพระดำรัสระหว่างการเทศนาประจำวัน  ในหัวข้อ “การให้อภัยบนกางเขน”  ทรงกล่าวถึงการสนทนาระหว่างพระเยซูเจ้ากับโจรสองคนขณะที่อยู่บนกางเขน  พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกพิพากษาอย่างอยุติธรรม  พระสันตปาปาฟรังซิสตรัสว่า 
               “พระศาสนจักรไม่ใช่สำหรับคนดีหรือผู้ที่คิดว่าตนเองเป็นคนดีเท่านั้น  พระศาสนจักรมีเพื่อทุกคน  แม้แต่คนที่เป็นคนเลว  เพราะพระศาสนจักรคือความเมตตา”
พระองค์ตรัสว่า  โจรกลับใจนั้นได้กลายเป็นแม่แบบของคริสตชนที่วางใจในพระเยซูเจ้า  เขาเป็นแม่แบบของพระศาสนจักรที่บ่อยครั้งที่เรียกหาพระเยซูเจ้า  วอนขอให้พระองค์ระลึกถึงความรักอันไม่เสื่อมคลายของพระองค์  ดังนี้ การพลีบูชาของพระองค์บนกางเขนจึงมีสำหรับทุกคน  ไม่ใช่เพียงแต่คนที่ “เหมาะสม” เท่านั้น  แต่สำหรับทุกคนที่ยอมรับพระหรรษทานของพระเจ้า”
 “ความเชื่อเดียวกับที่ชายผู้นี้มีนั้นเป็นผลมาจากพระหรรษทานของพระคริสตเยซู  สายตาของเขาเพ่งมองที่ไม้กางเขนและความรักของพระเป็นเจ้าที่ทรงมีต่อเขา – คนบาปที่น่าสงสาร  มันเป็นความจริง  เขาเป็นขโมยและโจร  มันเป็นความจริง  เขาได้ขโมยชีวิตทั้งหมดของตนเองและปิดตาตัวเองจากความจริงจนสุดท้ายปลายชีวิตของเขา  แต่เมื่อเขามองดูพระเยซูเจ้า  พระเมตตาของพระองค์ได้ทำให้อนุญาติให้เขาขโมยสวรรค์ได้”
พระสันตปาปาฟรังซิสทรงให้ข้อคิดว่า  โจรคนนี้ได้วอนขอสัญญาจากพระเยซูเจ้าที่จะให้เขาได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์  โจรคนนี้เป็นพยานยืนยันถึงพระหรรษทานและพระเมตตาของพระเป็นเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น