พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วันฉลองมรณสักขีรุ่นแรกแห่งกรุงโรม

                "พระเจ้าข้า, ข้าพเจ้าทั้งหลายขอถวายผลแรกแห่งพระศาสนจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยโลหิตแห่งมรณสักขี ข้าพเจ้าทั้งหลายวอนขอต่อพระองค์ โดยอาศัยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของบรรดามรณสักขีเหล่านี้, ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความเข้มแข็งต่อการเบียดเบียนและต่ออุปสรรคในชีวิตและได้ชื่นชมยินดีในชัยชนะของผู้สัตย์ซื่อในความรักต่อพระองค์ ข้าพเจ้าวอนขอทั้งนี้, โดยอาศัยพระเยซูคริสตเจ้า, องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย, พระบุตรของพระองค์, ผู้ทรงดำรงชีพและเสวยราชย์ร่วมกับพระองค์, พร้อมกับพระจิต, พระเจ้าหนึ่งเดียวเป็นนิจกาล"
                – รูปภาพของบรรดามรณสักขีกำลังเดินเข้าสู่ลานกีฬาโคโลเซี่ยม  และคำภาวนาเนื่องในวันฉลองบรรดามรณสักขีรุ่นแรกของพระศาสนจักรแห่งกรุงโรม (30 มิถุนายน) ภาพนี้วาดโดย Léon-François Benouville เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1855 เวลานี้ถูกตั้งแสดงใน Musée d'Orsay ในกรุงปารีส ผมรู้สึกประทับใจกับภาพวาดนี้มาก และยืนอยู่ต่อหน้ามันสักครู่เพื่อไตร่ตรองถึงความเข้มแข็งของมรณสักขีผู้ยอมพลีชีพของตนเพื่อยืนยันความเชื่อต่อพระเยซูเจ้า และคิดถึงความกล้าหาญและความรักความเมตตาที่พวกเราต้องมีในฐานะคริสตชนที่อยู่ในโลกนี้ ซึ่งบ่อยครั้งได้รับการเบียดเบียนเนื่องจากพระวรสาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น