พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ตุรกีจะเปลี่ยนวิหารเซนต์โซเฟียให้เป็นมัสยิด

              อิสตันบุล, ตุรกี (AsiaNews) – ทางการตุรกีมีแผนที่จะเปลี่ยนวิหารโซเฟีย(Hagia Sophia)ซึ่งในอดีตเคยเป็นวิหารสำคัญของคริสตชนสร้างโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน ให้กลายเป็นมัสยิดสำหรับชาวอิสลามใช้ทำการละหมาด แผนการณ์นี้จะทำให้เกิดความชัดแย้งระหว่างคริสตชนและอิสลามขึ้นมาได้ พระอัยกาบาร์โทโลมิว แห่งพระศาสนจักรตะวันออก(ออร์โธดอกซ์) ได้กล่าวในระหว่างพิธีมิสซาฉลองนักบุญอัครสาวกว่า
              วิหารเซนต์โซเฟียถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, เป็นศูนย์กลางซึ่งทำให้พระศาสนจักรตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบพบกัน ในการเปลี่ยนวิหารให้เป็นมัสยินนั้นจะแยกโลกทั้งสองออกจากกัน มันเป็นเรื่องบ้าบอในการทำเช่นนั้น วิหารเซนต์โซเฟียไม่ใช่เป็นของประเทศที่เป็นเจ้าของเท่านั้น แต่เป็นของมนุษยชาติทั้งมวล ประชาชนชาวตุรกีมีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องรักษาอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นี้ไว้
              ปัจจุบัน วิหารเซนต์โซเฟีย ถูกใช้เป็นพิพิทธภัณฑ์ ในปี 2013, นาย BülentArınc (รองนายกรัฐมนตรี) เคยปรึกษากับนายกที่จะเปลี่ยนวิหารเซนต์โซเฟียเป็นมัสยิดมาครั้งหนึ่งแล้ว และในครั้งนั้นนาย Tayip Erdogan (นายกรัฐมนตรี)เตือนว่ามัสยิด Blue Mosque ที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวิหารเซนต์โซเฟียก็ยังว่างเปล่าเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น