พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ตุรกีจะเปลี่ยนวิหารเซนต์โซเฟียให้เป็นมัสยิด

              อิสตันบุล, ตุรกี (AsiaNews) – ทางการตุรกีมีแผนที่จะเปลี่ยนวิหารโซเฟีย(Hagia Sophia)ซึ่งในอดีตเคยเป็นวิหารสำคัญของคริสตชนสร้างโดยจักรพรรดิคอนสแตนติน ให้กลายเป็นมัสยิดสำหรับชาวอิสลามใช้ทำการละหมาด แผนการณ์นี้จะทำให้เกิดความชัดแย้งระหว่างคริสตชนและอิสลามขึ้นมาได้ พระอัยกาบาร์โทโลมิว แห่งพระศาสนจักรตะวันออก(ออร์โธดอกซ์) ได้กล่าวในระหว่างพิธีมิสซาฉลองนักบุญอัครสาวกว่า
              วิหารเซนต์โซเฟียถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, เป็นศูนย์กลางซึ่งทำให้พระศาสนจักรตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบพบกัน ในการเปลี่ยนวิหารให้เป็นมัสยินนั้นจะแยกโลกทั้งสองออกจากกัน มันเป็นเรื่องบ้าบอในการทำเช่นนั้น วิหารเซนต์โซเฟียไม่ใช่เป็นของประเทศที่เป็นเจ้าของเท่านั้น แต่เป็นของมนุษยชาติทั้งมวล ประชาชนชาวตุรกีมีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องรักษาอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นี้ไว้
              ปัจจุบัน วิหารเซนต์โซเฟีย ถูกใช้เป็นพิพิทธภัณฑ์ ในปี 2013, นาย BülentArınc (รองนายกรัฐมนตรี) เคยปรึกษากับนายกที่จะเปลี่ยนวิหารเซนต์โซเฟียเป็นมัสยิดมาครั้งหนึ่งแล้ว และในครั้งนั้นนาย Tayip Erdogan (นายกรัฐมนตรี)เตือนว่ามัสยิด Blue Mosque ที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวิหารเซนต์โซเฟียก็ยังว่างเปล่าเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น