Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู
  “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
  คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
  จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู
  “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
  คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
  จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)
วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567
นักบุญปีเตอร์ ดาเมียน
นักบุญปีเตอร์ ดาเมียน,ขณะที่ยังเด็กมาก, เขาถูกทิ้งให้เป็นเด็กกำพร้าจากการเสียชีวิตของพ่อแม่ เขาถูกเลี้ยงดูมาโดยพี่ชายคนหนึ่งซึ่งปฏิบัติต่อเขาอย่างไม่ดีเลย และไม่ได้ให้อาหารและเสื้อผ้าที่จำเป็นแก่เขาด้วยซ้ำ วันหนึ่งปีเตอร์พบเหรียญเงินอันหนึ่ง และไม่สามารถหาเจ้าของได้ ความสุขที่เด็กน้อยรู้สึกอาจจินตนาการได้ง่าย: เขารู้ว่าเขามีสมบัติ และวางแผนทันทีว่าจะซื้อสิ่งของหลายอย่างที่เขาต้องการ อย่างไรก็ตาม ความคิดเกี่ยวกับพ่อแม่ผู้ล่วงลับของเขาทำให้ใจของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตัดสินใจนำเงินไปขอมิสซาให้กับพ่อแม่แทน นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองพิเศษของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และโชคชะตาของเขาก็เปลี่ยนไป พี่ชายอีกคนหนึ่งของเขาเริ่มสนใจเขาจึงส่งเขาไปเรียนหนังสือ ต่อมา,ปีเตอร์ ดาเมียน ได้กลายเป็นพระสงฆ์ แล้วขึ้นสู่ตำแหน่งบิชอปและพระคาร์ดินัล ในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักบุญของพระเจ้า
ที่มา: The Tremendous Value of Holy Mass
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2567
อยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้า
ผู้ที่ไม่อยู่ในพระหรรษทานของพระเจ้าก็ตายฝ่ายวิญญาณและจะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิรันดร์
นักบุญออกัสตินกล่าวว่าร่างกายที่ปราศจากวิญญาณก็ตายแล้วฉันใด วิญญาณที่ปราศจากพระหรรษทานของพระจิตเจ้าก็ตายจากสวรรค์แล้วฉันนั้น ผู้ที่ไม่มีพระจิตเจ้าประทับอยู่,เขาก็อยู่ "ในความมืดและในร่มเงาแห่งความตาย" (ลูกา1 . 79); เขาไม่สามารถเข้าใจเรื่องฝ่ายจิตได้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องโง่เขลาสำหรับเขา (1 โครินธ์ 2. 14) ผู้ที่ไม่ได้สวมชุดสำหรับงานวิวาห์,นั่นคือ,สวมใส่พระหรรษทานอันศักดิ์สิทธิ์, จะถูกโยนทิ้งไว้ในที่มืดข้างนอก ( มัทธิว. 22. 12) และเช่นเดียวกับกิ่งก้านใดที่ไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นก็จะเหี่ยวเฉาและถูกโยนทิ้งในไฟ, และจะเป็นเช่นนั้นสำหรับผู้ที่มิได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์โดยพระหรรษทานของพระองค์ (ยอห์น 15, 6) ผู้ใดที่ไม่มีจิตวิญญาณของพระคริสต์, ผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ (โรม. 8.9)
ที่มา: The Catechism Explained
วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567
พระรูปพระมารดาผู้โศกเศร้า
รูปภาพข้างบนนี้มีจุดกำเนิดที่ค่อนข้างลึกลับ รูปภาพถูกค้นพบในช่วงเวลาของการสงบศึกในปี 1918 ในห้องใต้ดินของโรงเรียนประจำ ที่ซึ่ง Berthe Petit ผู้ที่เป็นฟรังซิสกันชั้นที่3เคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ หลังจากที่กองทัพทหารได้ยกทัพออกไปแล้ว แม่ชีเบอร์นาดีนคนหนึ่งก็เข้าไปจัดเข้าของในห้องให้เป็นระเบียบ, เธอได้พบกระดาษแข็งแผ่นหนึ่งที่ติดภาพลามกอนาจารไว้ เธอจึงดึงภาพนั้นออกเพื่อส่งไปเผา แล้วเธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ากระดาษแผ่นนี้ครอบคลุมภาพอันงดงามของพระแม่มารีย์! ลักษณะรูปภาพดูเหมือนว่าจะผสมผสานศิลปะของจารีตฝั่งตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน พระพักตร์มีลักษณะคล้ายกับ Pieta อันเป็นที่รู้จักกันดี มีการสวดภาวนาเบื้องหน้าพระรูปนี้ซึ่งได้นำสัญญาณแห่งความโปรดปรานมาให้
Berthe Petit ได้รับสาสน์จากพระเยซูเจ้าว่า: "จงสอนวิญญาณให้มีความรักต่อดวงหทัยของพระมารดาของเราผู้ทรงถูกทิ่มแทงด้วยความโศกเศร้าและได้ทิ่มแทงดวงใจของเราด้วย" (25 ธ.ค. 1909)
“ดวงหทัยของพระมารดาของเรามีความชอบธรรมที่จะถูกเรียกว่าระทมทุกข์(Sorrowful) และเราปรารถนาให้พระนามนี้นำหน้าคำว่านิรมล(ระทมทุกข์นิรมล) เพราะพระนางทรงมีชัยชนะด้วยพระนางเอง พระศาสนจักรได้กำหนดพระนามพระมารดาของเราตามที่เราได้ให้ไว้คือ --- การปฏิสนธินิรมลของพระนาง บัดนี้,ตามความปรารถนาอันชัดแจ้งของเรา,ต้องการให้พระนางเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล พระนางทรงได้รับสิ่งนี้เพราะทรงได้รับความเศร้าโศกเหมือนกับของเรา โดยความทุกข์,โดยยัญบูชาและความตายในกัลวารีของพระนางนั้นสอดคล้องอย่างสมบูรณ์เหมือนกับพระหรรษทานของเราเพื่อความรอดของมนุษยชาติ" (8 กันยายน 1911)
“หัวใจทั้งหลายต้องเปลี่ยนแปลง สิ่งนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อความศรัทธาถูกประกาศออกไป, ถูกอธิบาย, และถูกแนะนำไปทุกหนทุกแห่ง การสวดภาวนาวิงวอนต่อพระมารดาภายใต้พระนามนี้ที่เราปรารถนาให้มีขึ้นในทั่วทุกแห่ง เป็นความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายที่เราจะให้ก่อนสิ้นสุดของกาลเวลา .: (2 กรกฎาคม 1940)
ที่มา: The Secret Of The Rosary.
หมายเหตุ Berthe Petit (1870-1943), เป็นชาวเบลเยี่ยม เธอไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก เธอได้รับการประจักษ์ส่วนตัวจากพระเยซูเจ้า ขณะที่ร่วมพิธีมิสซาเที่ยงคืนในปี 1909 เธอมองเห็นพระหฤทัยของพระเยซูที่ได้รับบาดแผล และพระหฤทัยของพระนางมารีย์ที่ถูกแทงด้วยดาบอยู่ใกล้ชิดกัน จากนั้นเธอก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้: “จงทำให้ทุกคนรู้จักดวงหทัยของพระมารดาของเราซึ่งถูกตรึงด้วยความโศกเศร้าที่ประสงค์ให้ดวงใจของเราได้รับความรัก”
วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2567
ชีวิตภายใน
ผู้ที่มีมโนธรรมแจ่มใสจะพบความพอใจและความสงบสุขได้ง่าย คุณค่าของท่านไม่ได้ถูกกำหนดโดยคำชมเชยหรือคำวิจารณ์จากผู้อื่น ท่านเป็นอย่างที่ท่านเป็น และคุณค่าของท่านถูกกำหนดโดยพระเจ้า หากท่านเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง,ท่านจะไม่ถูกรบกวนจากความคิดเห็นของผู้คน ผู้คนตัดสินจากสิ่งภายนอก แต่พระเจ้าทรงมองเห็นภายในจิตใจ ผู้คนเพ่งมองที่การกระทำ แต่พระเจ้าทรงพิจารณาความตั้งใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตนแสดงออกด้วยการทำความดีอย่างสม่ำเสมอและไม่โอ้อวด การรับการปลอบโยนและความบรรเทาจากพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และความไว้วางใจของคนๆนั้น
- จำลองแบบพระคริสต์
Thomas A Kempis
วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2567
สาส์นแม่พระ 25 ส.ค. 2024
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้,แม่สวดภาวนาพร้อมกับลูกเพื่อสันติภาพ ความดีและความชั่วกำลังต่อสู้กันและต้องการชัยชนะในโลกและในหัวใจของประชาชน พวกลูกเป็นประชาชนแห่งความหวังและการสวดภาวนาและเป็นประชาชนแห่งความไว้วางใจในพระเจ้า,พระผู้สร้างผู้ซึ่งทุกสิ่งเป็นไปได้ ลูกน้อยทั้งหลาย,ขอให้สันติภาพมีชัยชนะในตัวลูกและรอบๆตัวลูก แม่ขออวยพรพวกลูกด้วยหัวใจเยี่ยงมารดาของแม่ เพื่อที่ลูก,ลูกน้อยทั้งหลาย,จะเป็นความยินดีสำหรับทุกคนที่ลูกพบ
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567
ซิสเตอร์อักเนส
แปลจากวีดีโอ -
น้ำเสียงของพระนางดูเคร่งขรึมมาก แม่พระตรัสว่า
“ลูกสาวสุดที่รักของแม่ จงฟังให้ดีในสิ่งที่แม่กำลังพูด และจงแจ้งให้ผู้ใหญ่ของลูกทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามที่แม่ได้บอกลูกเมื่อครั้งที่แล้ว ถ้ามนุษย์ไม่ยอมกลับใจ พระเจ้าจะทรงส่งการลงโทษที่น่ากลัวมา เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น มันจะร้ายแรงยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันจะร้ายแรงยิ่งกว่าสมัยของน้ำวินาศ ไฟจะตกลงมาจากสวรรค์ มนุษยชาติส่วนใหญ่จะถูกทำลาย ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์หรือผู้มีความเชื่อ ผู้ที่รอดชีวิตจะอยู่ในความโดดเดี่ยวอ้างว้าง พวกเขาจะอิจฉาคนที่ตายแล้ว อาวุธที่ลูกยังคงมีอยู่คือสายประคำและเครื่องหมายขององค์พระบุตร จงสวดสายประคำ สวดสายประคำสำหรับพระสันตะปาปา,พระสังฆราช,พระสงฆ์ ซาตานจะเข้าไปในพระศาสนจักร พระคาร์ดินัลจะขัดแย้งกับพระคาร์ดินัล พระสังฆราชจะขัดแย้งกับพระสังฆราช พระสงฆ์ที่เคารพนับถือแม่จะถูกดูหมิ่นและโจมตี พระศาสนจักรและพระแท่นบูชาจะถูกดูหมิ่น พระศาสนจักรจะเต็มไปด้วยผู้ที่ยอมรับการประนีประนอม ซาตานจะชักนำพระสงฆ์และนักบวชจำนวนมากให้ออกห่างจากพระเจ้า มันจะมุ่งความสนใจไปที่ผู้ที่ถวายตนโดยเฉพาะ การสูญเสียวิญญาณเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุทำให้แม่โศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง จะไม่มีการให้อภัยอีกต่อไป ถ้าบาปยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่ากลังที่จะบอกกับผู้ใหญ่ของลูกในเรื่องนี้ ท่านจะรู้วิธีที่จะให้กำลังใจแก่ลูก เพื่อสวดภาวนาและทำกิจชดเชยใช้โทษบาป ”
วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2567
ผู้หญิงเก้าคนที่กลับใจโดยนักบุญดอมินิก
นางเบเรนกาเรีย(Berengaria)ประกาศโดยสาบานว่าเธอได้เห็นเป็นพยาน ในเวลาที่นักบุญดอมินิก บอกหญิงทั้งเก้าที่กลับใจจากความผิดของพวกเธอให้มองดูสิ่งที่เข้าสิงพวกเธอ นั่นก็คือปีศาจในรูปลักษณ์ของแมวที่มีดวงตาเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่เท่าดวงตาวัวและมีลิ้นยาวที่หายใจออกมาเป็นสิ่งที่คล้ายไฟ มันมีหางที่หนาพอๆกับหางสุนัขและยาวมากกว่าหนึ่งฟุต ด้วยคำสั่งของนักบุญดอมินิก,สัตว์ตัวนี้ก็หนีออกไปทางช่องที่อยู่บนหอคอยและหายไปจากสายตาของพวกเธอ แต่ก่อนที่จะทำทั้งหมดนี้ ,นักบุญดอมินิกได้บอกพวกเธอว่าอย่ากลัว เพราะนักบุญจะแสดงให้พวกเธอเห็นว่าใครคือเจ้านายที่พวกมันต้องรับใช้
นำมาจากกระบวนการสถาปนาเป็นนักบุญของนักบุญโดมินิก กัซมาน(St. Dominic Guzman) ที่เมืองตูลูส
วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2567
คำพูดของนักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน(ต่อ)
อย่าละทิ้งการสวดภาวนา, ถึงแม้คุณจะพบกับความแห้งแล้งและความยากลำบาก จงพากเพียรสวดภาวนาด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้ามักทรงปรารถนาที่จะเห็นความรักที่จิตวิญญาณของคุณมี และความรักไม่ได้ถูกทดสอบด้วยความง่ายดายและความพึงพอใจ
การรักคือการแปรสภาพเป็นสิ่งที่เรารัก การรักพระเจ้าจึงต้องเปลี่ยนสภาพของเราให้เป็นเช่นเดียวกับพระเจ้า
จงดำรงชีวิตในความเชื่อและความหวัง ถึงแม้จะอยู่ในความมืดมิดของวิญญาณ เพราะว่าในความมืดนี้พระเจ้าทรงปกป้องวิญญาณอยู่ ให้พระเจ้าทรงเป็นผู้ดูแลคุณ เพราะคุณเป็นของพระองค์และพระองค์จะไม่มีวันลืมคุณ อย่าคิดว่าพระองค์จะทรงทิ้งคุณไว้ตามลำพัง เพราะนั่นจะกลายเป็นความผิดของพระองค์
เป็นปรีชาญาณอันยิ่งใหญ่ในการที่จะรู้จักนิ่งเงียบและไม่สนใจในคำพูดหรือการกระทำหรือวิถีชีวิตของผู้อื่น”
คริสตชนควรจำไว้เสมอว่าคุณค่าของกิจการที่ดีของเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนและความเป็นเลิศ แต่ขึ้นอยู่กับความรักของพระเจ้าที่กระตุ้นให้เขาทำสิ่งเหล่านี้”
วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567
ผู้รับใช้ของพระเจ้าสูงไม่ถึง 2 ฟุต
ผู้รับใช้ของพระเจ้า อันนา ฟุลกิดา บาร์โตลาเชลลี(Anna Fulgida Bartolacelli)
วันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของผู้รับใช้ของพระเจ้า อันนา ฟุลกิดา บาร์โตลาเชลลี เธอเสียชีวิตเมื่ออายุ 65 ปี แต่สูงเพียง 1 ฟุต 11.5 นิ้ว เนื่องจากเธอเป็นโรคแคระแกร็นและโรคกระดูกอ่อน แม้ว่าตัวเธอเองจะพิการ แต่เธอก็ไปเยี่ยมคนป่วยและผู้พิการ เพื่อเผยแพร่พระวรสาร เพื่อขจัดความกลัว และแสดงให้พวกเขาเห็นวิธีของการได้รับเคล็ดลับแห่งความสุขที่แท้จริงผ่านแบบอย่างและคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจของเธอ
วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567
การสารภาพบาป
ครั้งหนึ่งขณะที่นักบุญฟิลิป เนรีกำลังฟังสารภาพบาปอยู่, มีผู้มาสารภาพบาปเข้าแถวยาว แต่อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งที่อยู่ในแถวยืนนิ่งไม่ยอมเคลื่อนที่ไปยังหัองสารภาพบาป ดังนั้นคนอื่นๆก็ถูกปิดกั้น คนที่อยู่ถัดไปก็เข้ามาไม่ได้ ถึงแม้ว่านักบุญฟิลิป เนรีจะเชิญชวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม ชายคนนั้นยังคงปฏิเสธ นักบุญฟิลิป เนรีจึงออกมาจากห้องสารภาพบาป และท่านได้พรมน้ำเสกใส่ชายคนนั้น ชายคนนั้นพลันก็หายไป กลายเป็นว่าชายคนนั้นเป็นปีศาจแห่งความอับอายและความกลัว
เมื่อเราทำบาป ความละอายใจก็หายไป แต่เมื่อเราต้องการที่จะสารภาพบาปนั้น, เราเต็มไปด้วยความละอายใจและความกลัวเป็นอย่างมาก และสุดท้ายเราก็ไม่ยอมไปสารภาพบาป
จงไปสารภาพบาปเถิด ขณะที่พระสงฆ์โปรดศีลอภัยบาปแก่เรา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การโบกมือโปรดศีลอภัยบาปแก่เราเท่านั้น แต่เป็นพระโลหิตของพระคริสต์ซึ่งหลั่งไหลลงมาจากไม้กางเขน ซึ่งชำระจิตวิญญาณของเราให้สะอาด ศีลอภัยบาปคือการอยู่เบื้องพระพักตร์พระเยซูคริสต์
- Fr. Ed Broom, OMV
วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2567
คำพูดของนักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน
ถนนนั้นแคบ,ผู้ที่ปรารถนาจะเดินทางไปนั้นต้องสละละทิ้งทุกสิ่งและใช้ไม้กางเขนเป็นดังไม้เท้าของตน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาต้องเต็มใจที่จะยอมรับความทุกข์เพื่อเห็นแก่ความรักต่อพระเจ้าในทุกสิ่ง
ความเชื่อ “เป็นเหมือนเท้าที่วิญญาณเดินทางไปหาพระเจ้า และความรักคือผู้ช่วยนำทาง”
“การพิจารณาใคร่ครวญไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นการซึมซับความรักของพระเจ้าด้วยสันติสุขและเป็นความลับ ซึ่งถ้าวิญญาณยอมรับ,วิญญาณจะลุกเป็นไฟด้วยจิตวิญญาณแห่งความรัก”
“ความรักไม่ใช่การรู้สึกถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ประกอบด้วยการเสียสละอย่างมากและการทนทุกข์เพื่อผู้เป็นที่รัก”
“วิญญาณที่ผูกพันกับสิ่งใดๆก็ตามไม่ว่าจะมีสิ่งนั้นจะดีมากเพียงใด วิญญาณจะไม่บรรลุถึงอิสรภาพแห่งการรวมเป็นหนึ่งเดียวอันศักดิ์สิทธิ์ เชือกลวดที่แข็งแรงหรือด้ายเส้นเล็กที่ใช้จับนกนั้น ถ้ามันจับนกไว้แล้ว นกจะบินหนีไม่ได้จนกว่าสายที่ยึดนกไว้จะขาดเสียก่อน”
- นักบุญยอห์น แห่งไม้กางเขน (1542-1591)
นักปราชญ์ของพระศาสนจักร
วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2567
พระคัมภีร์พูดถึงนรกว่าอย่างไร?
นรกถูกสร้างขึ้นเพื่อลงโทษซาตานและปีศาจ (มัทธิว 25:41) “ไฟนิรันดรที่เตรียมไว้ให้ปีศาจและพรรคพวกของมัน”
มีผู้ที่อยู่ในนรกมากกว่าอยู่ในสวรรค์ (มัทธิว 7:13-14) “ประตูและทางที่ไปสู่หายนะนั้นกว้างขวาง คนที่เข้าทางนี้มีจำนวนมาก”
ถ้าชื่อของท่านไม่มีอยู่ในหนังสือแห่งชีวิต ท่านจะถูกโยนลงไปในบ่อไฟ (วิวรณ์ 20:15) “ผู้ใดไม่มีชื่อบันทึกอยู่ในหนังสือแห่งชีวิตก็ถูกโยนลงไปในทะเลไฟ”
ผู้ที่อยู่ในนรกจะสามารถจดจำชีวิตในขณะที่อยู่บนโลกของเขาได้ ซึ่งทำให้เขาเสียใจที่ไม่ถวายชีวิตของตนเพื่อพระคริสต์ (ลูกา 16:22-28) อุปมาเรื่องเศรษฐีกับลาซารัส เศรษฐีอยู่ในนรกและจำได้ว่าเขาไม่เคยทำสิ่งที่ดีให้ลาซารัสผู้ยากจนและเจ็บป่วย
นรกเป็นนิรันดรและไม่สามารถเพิกถอนได้ (วิวรณ์ 14:11) “ควันจากการทรมานเขาจะพุ่งขึ้นตลอดนิรันดร”
ผู้ที่อยู่ในนรกจะถูกทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไป จะไม่มีเวลาพักเลย (วิวรณ์ 14:11) “ผู้ที่ประทับตราชื่อของมันจะไม่พักผ่อนเลยทั้งกลางวันและกลางคืน”
วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2567
วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567
สวรรค์เป็นอย่างไร
พระคัมภีร์บรรยายถึงสวรรค์
วว.21.21 ถนนทำด้วยทองบริสุทธิ์เหมือนกระจกใส “ลานเมืองเป็นทองคำบริสุทธิ์ สุกใสเหมือนแก้ว”
2 เปโตร 3.8 ไม่มีเวลาในสวรรค์ “สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนหนึ่งวัน”
ฟิลิปปี 3.21 เราจะได้รับร่างกายใหม่ในสวรรค์ “พระองค์จะทรงเปลี่ยนรูปร่างอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันรุ่งโรจน์ของพระองค์”
วว. 22.5 ไม่มีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะพระเจ้าทรงเป็นแสงสว่างในสวรรค์ “จะไม่มีกลางคืนอีกต่อไป เขาเหล่านั้นจะไม่ต้องการแสงจากตะเกียงหรือแสงอาทิตย์อีก เพราะพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงส่องสว่างเหนือเขาทั้งหลาย”
1 โครินทร์ 2:9 เราไม่อาจจินตนาการถึงสวรรค์ได้แน่ชัด “ตามที่พระคัมภีร์เขียนไว้ สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น และหูไม่เคยได้ยิน และจิตใจของมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์”
วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2567
จงกล้าหาญไม่ท้อแท้
จงยืนหยัดกล้าหาญเหมือนทหารในสนามรบ และหากบางครั้งท่านผิดพลาดและล้มลงเนื่องจากความอ่อนแอ จงรวบรวมพละกำลังของท่านขึ้นมาใหม่ให้กล้าหาญมากขึ้นกว่าเดิม โดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้าอันอุดมบริบูรณ์ จงระวังอย่ามั่นใจและภาคภูมิใจในตนเองมากเกินไป เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนหลงทางและบางครั้งก็ส่งผลทำให้ตาบอดจนแทบจะรักษาไม่หาย จงดูการล่มสลายของคนหยิ่งยโสที่ยกตนขึ้นอย่างโง่เขลา และเตือนใจท่านให้รักษาความถ่อมตนไว้เสมอ
- จำลองแบบพระคริสต์
Thomas A Kempis
วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567
จงระวังกับดักของปีศาจ
จงจำไว้เสมอว่าศัตรูเก่าของท่านพยายามขัดขวางท่านเสมอในการแสวงหาความดี มันขัดขวางท่านจากการฝึกฝนฝ่ายจิตทุกอย่าง เช่น การใคร่ครวญชีวิตของนักบุญ การระลึกถึงการเสียสละของพระเยซูเจ้า การไตร่ตรองถึงบาปของท่าน จงปกป้องหัวใจของท่านและมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติคุณธรรมให้มากขึ้น ศัตรูจะเติมเต็มจิตใจของท่านด้วยความคิดชั่วร้ายที่จะให้ท่านเหนื่อยล้าและหวาดกลัว โดยมีเป้าหมายที่จะดึงท่านออกจากการอธิษฐานภาวนาและการอ่านข้อเขียนศักดิ์สิทธิ์ มันไม่พอใจที่ท่านไปสารภาพบาป และถ้ามันทำได้ มันจะขัดขวางไม่ให้ท่านรับศีลมหาสนิท อย่าไปเชื่อหรือฟังมัน ถึงแม้ว่ามันจะวางกับดักหลอกลวงท่านบ่อยครั้งก็ตาม เมื่อเกิดความคิดไม่ดีและไม่บริสุทธิ์, จงรับรู้ว่านั่นเป็นการกระทำของมัน จงสั่งมันว่า 'จงออกไป เจ้าปีศาจโสโครก' แกไม่รู้สึกละอายใจและเป็นทุกข์ทรมานบ้างหรือ? เพราะแกมีมลทินอันน่าขยะแขยงที่เอาความคิดนี้มาให้ฉัน ไปเสียเถิด เจ้าหลอกลวง เจ้าไม่มีอำนาจเหนือฉัน แต่พระเยซู, ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งของฉันอยู่กับฉัน ฉันยอมทนทุกข์หรือรับความตายมากกว่ายอมทำตามเจ้า จงเงียบและไปจากฉัน ฉันจะไม่ฟังแกอีกต่อไป แม้ว่าแกจะวางกับดักเพิ่มเติมอีกก็ตาม องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นแสงสว่างและความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะกลัวผู้ใดเล่า? แม้ว่ากองทัพจะยกทัพมาต่อสู้กับข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าก็ไม่หวั่นไหว พระเจ้าทรงเป็นพละกำลังและพระผู้กอบกู้ของข้าพเจ้า
- จำลองแบบพระคริสต์
Thomas A Kempis
วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2567
คนที่เราไม่ควรคบ
เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสให้เรารักทุกคน พระคัมภีร์ยังได้แนะนำเราในเรื่องการคบหาสมาคมกับผู้อื่น
สุภาษิต 13:20 กล่าวว่า “ผู้เดินกับผู้มีปรีชาก็จะเป็นผู้มีปรีชาด้วย แต่ผู้คบหากับคนโง่จะได้รับผลร้าย” คำกล่าวนี้เตือนเราระวังการที่ผู้อื่นจะมามีอิทธิพลต่อเรา มีคนประเภทที่พระเจ้าทรงเตือนเราให้หลีกเลี่ยง
สุภาษิต 16:28 “คนตลบตะแลงก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท ผู้ใส่ร้ายทำให้เพื่อนสนิทผิดใจกัน” คนที่พูดใส่ความนินทา จะคอยกระซิบกระซาบสร้างความแตกแยกและทำลายความสัมพันธ์
2 เปโตร2 “ในอดีต เคยมีผู้ปลอมตนเป็นประกาศกในหมู่ประชากรของพระเจ้า ในหมู่ท่านทั้งหลายจะมีผู้สอนผิดซึ่งพยายามสอดแทรกความคิดมิจฉาทิฐิที่นำความหายนะมาสู่ท่านเช่นเดียวกัน” พระเจ้าทรงเตือนเราให้ระวังคนที่จะนำความเชื่อที่หลงผิดมา จงวอนขอพระจิตเจ้าให้เรารู้ว่าใครเป็นครูที่แท้จริงและใครเป็นครูเท็จเทียม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)