พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง

           ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
           พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
           มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)








วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

นักบุญ-1

ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด Saint Peter Julian Eymard ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

นักบุญอันตนแห่งปาดัว

นักบุญอันตนแห่งปาดัว  เป็นทั้งลูกศิษย์และเพื่อนของนักบุญฟรังซิส  ได้รับหน้าที่ให้เทศน์ต่อหน้าพระสันตปาปาและบรรดาพระคาร์ดินัลในการประชุมครั้งหนึ่งของคณะสงฆ์  ในเวลานั้นมีผู้แทนที่มาจากประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษากรีก และ ลาติน  ภาษาฝรั่งเศสและเยอรมัน  ภาษาสลาฟและอังกฤษ  มีคนที่ใช้ภาษาที่แตกต่างกันมาอยู่รวมกันที่นั่น  นักบุญอันตนมีความเร่าร้อนในการเทศน์สอนด้วยอำนาจของพระจิตเจ้าและมีแรงบันดาลใจในการแพร่ธรรมเช่นเดียวกับอัครสาวก  ท่านเริ่มเทศน์และอธิบายพระวาจาของพระเจ้าอย่างมีประสิทธิภาพ  ด้วยความศรัทธา  ละเอียดชัดเจนและเข้าใจได้  ผู้ที่อยู่ในที่ประชุมสงฆ์  ถึงแม้จะพูดภาษาที่แตกต่างกัน  แต่ก็ฟังคำเทศน์ของนักบุญอันตนได้เข้าใจเหมือนเป็นภาษาของแต่ละคน  ทุกคนจึงพากันประหลาดใจและเต็มเปี่ยมด้วยความศรัทธา  ดูเหมือนว่าอัศจรรย์เดียวกันกับที่อัครสาวกเคยกระทำในวันเปนเตคอสเตได้เกิดขึ้นในเวลานั้นอีกครั้ง  ด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า  อัครสาวกพูดภาษาต่างๆได้  ตามที่หนังสือกิจการอัครสาวกได้เขียนบรรยายไว้  และในที่ประชุมสงฆ์คนเหล่านั้นพูดกันว่า “เขาไม่ใช่ชาวอิตาเลี่ยนหรอกหรือ?”  ทำไมพวกเราจึงได้ยินเขาพูดเป็นภาษาของพวกเรา  เราที่ใช้ภาษากรีกและลาติน  ฝรั่งเศสและเยอรมัน  สลาฟและอังกฤษ  ลอมบาร์ดีและประเทศอื่นๆได้ยินเขาพูดภาษาของเรา

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

การรักษาโรคทางร่างกายและจิตใจ

ปี 1840 ชายผู้หนึ่งชื่อ โรเชต Rochette พาลูกชายของเขาซึ่งเจ็บป่วยไปพบกับคุณพ่อยอห์น มารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอาร์ส  โดยมีภรรยาติดตามมาด้วย  ภรรยาได้ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท  ขณะที่โรเชตสนใจแต่เพียงการรักษาอาการป่วยของลูกชายให้หายเท่านั้น  เขาจึงเข้าไปในโบสถ์เพียงไม่กี่นาที  แล้วไปยืนอยู่บริเวณอ่างน้ำเสกซึ่งอยู่ท้ายโบสถ์  คุณพ่อเจ้าอาวาสเดินจากพระแท่นไปยังที่ฟังสารภาพบาป  โรเชตเห็นคุณพ่อเรียกเขาให้มายังที่ฟังสารภาพบาปนั้น  แต่เขาปฏิเสธ  ในเวลานั้นภรรยาของเขาและลูกชายอยู่ใกล้กับที่ฟังสารภาพบาป  คุณพ่อเวียนเนย์ถามผู้เป็นภรรยาว่า “เขาไม่มีความเชื่อมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”  สุดท้าย  เมื่อจบการเทศน์ครั้งที่สามของคุณพ่อเวียนเนย์   โรเชตก็ตัดสินใจเดินไปยังที่ฟังสารภาพบาป  “เอาละ” เขาคิด  “คุณพ่อเจ้าอาวาสคงไม่กินฉันหรอก”  เขาเดินตามคุณพ่อเวียนเนย์ไปเบื้องหลังพระแท่น  โดยไม่รอช้า  คุณพ่อพูดว่า “โรเชต  ตรงนี้แหละเป็นที่สำหรับเราทั้งสอง” แล้วท่านชี้นิ้วไปที่ฟังสารภาพบาป  “จงเข้าไปข้างใน”  โรเชต ตอบว่า “โอ  ผมยังไม่อยากสารภาพบาปหรอกครับ”  แต่คุณพ่อย้ำว่า “เราจะต้องเริ่มต้นที่นั่น”  โรเชตรู้สึกตั้งตัวไม่ติดต่อการโจมตีอย่างทันทีทันใดนี้  เขาคุกเข่าลงและพูดกระอึกกระอักว่า “คุณพ่อครับ.....เป็นเวลานานประมาณสิบปีแล้ว.....”  คุณพ่อพูดว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้ซิ”  “ประมาณสิบสองปีครับ.....”  คุณพ่อพูดอีกว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้อีก”  โรเชตพูดว่า “ครับ...คือตั้งแต่ปีศักดิ์สิทธิ์ 1826”  คุณพ่อพูดว่า “อา...ใช่แล้วตอนนั้นแหละ  เราจะพบเมื่อใช้ความพยายามสักเล็กน้อย”  แล้วโรเชตก็สารภาพบาปทั้งหมดของเขาเหมือนเด็กเล็กๆ   ในวันต่อมาโรเชตและภรรยาก็มาคุกเข่าที่โบสถ์  ส่วนลูกชายของเขา  เดินออกจากโบสถ์โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงสองข้างนั้นอีก  เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป  คุณพ่อเวียนเนย์ได้รักษาโรคฝ่ายจิตใจของผู้เป็นพ่อ  และรักษาโรคฝ่ายร่างกายของผู้เป็นลูก  เป็นอัศจรรย์สองครั้งในครั้งเดียว

วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

โทรศัพท์ของพระสันตปาปา

ROME —พระสันตปาปาฟรังซิสทรงทำให้หลายคนประหลาดใจ  พระองค์โทรศัพท์ไปหาโดยที่พวกเขาไม่คาดคิด  คนล่าสุดที่ได้รับโทรศัพท์จากพระสันตปาปาฟรังซิสเป็นฆาตกรชาวอิตาเลี่ยนชื่อ ปิเอตโตร  มาโซ
ในปี 1991  มาโซ  ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกสองคน  ได้ฆ่าพ่อแม่ของเขาเองด้วยการใช้กระทะตีจนสลบ  แล้วใช้ถุงพลาสติกและเท้าทำให้เหยื่อหายใจไม่ออกจนตาย  จากคำสารภาพของเขาเมื่อถูกจับ  เขาฆ่าพ่อแม่เพราะไม่ต้องการรอที่จะรับมรดก
คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ดังมากในอิตาลี  และมาโซเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนในครอบครัวอย่างเลือดเย็น
พระสันตปาปาฟรังซิสได้โทรศัพท์ไปหามาโซในปี 2013  เพื่อให้ความหวังซึ่งเป็นเหมือนเส้นด้ายเส้นสุดท้ายแก่เขา  และนี่ก็เป็นความพยายามของพระองค์ที่จะตอบคำถามคนที่เขียนจดหมายมาหาพระองค์บรรยายถึงความเจ็บปวดของพวกเขา  และวอนขอการให้อภัย

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

สาส์นแม่พระวันที่2-25ม.ค.2016

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ม.ค. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้แม่ขอให้ลูกทุกคนสวดภาวนา  ลูกไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากการสวดภาวนา  เพราะการสวดภาวนาเป็นสายโซ่ที่นำลูกเข้าใกล้พระเป็นเจ้า  เพราะฉะนั้น  ลูกน้อยทั้งหลาย  จงหันกลับมาหาพระเป็นเจ้าและปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ด้วยหัวใจที่ถ่อมตน  เพื่อที่ลูกจะสามารถพูดได้อย่างสุดหัวใจว่า  ขอให้พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์  พวกลูก , ลูกน้อยทั้งหลาย,ลูกมีอิสระในการตัดสินใจที่จะอยู่กับพระเป็นเจ้าหรือต่อสู้กับพระองค์  พิจารณาดูเถิดว่าที่ใดที่ซาตานต้องการดึงลูกให้ตกลงไปในบาปและการเป็นทาสของมัน  เพราะฉะนั้น, ลูกน้อยทั้งหลาย, จงหันกลับมาสู่ดวงหทัยของแม่เถิด  เพื่อที่แม่จะสามารถนำพวกลูกไปสู่องค์พระบุตรเยซูของแม่  ผู้ทรงเป็นหนทาง, ความจริง  และชีวิต
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
   สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ม.ค. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในฐานะมารดา  แม่มีความยินดีที่ได้อยู่ท่ามกลางพวกลูก เพราะแม่ปรารถนาจะพูดอีกครั้งเกี่ยวกับพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่และเกี่ยวกับความรักของพระองค์ 
แม่หวังว่าลูกจะยอมรับคำพูดของแม่นี้ด้วยหัวใจ 
เพราะพระวาจาและความรักขององค์พระบุตรของแม่เป็นแสงสว่างและความหวังเพียงหนึ่งเดียวในความมืดของทุกวันนี้ 
นี่คือความจริงและผู้ที่ยอมรับและปฏิบัติตามจะมีหัวใจที่บริสุทธิ์และถ่อมตน 
องค์พระบุตรของแม่ทรงรักผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์และถ่อมตน 
หัวใจที่บริสุทธิ์และถ่อมตนนำชีวิตมาสู่พระวาจาของพระองค์ 
พวกเขาจะปฏิบัติตามและเผยแพร่ออกไป  ทำให้ทุกคนที่ฟังพวกเขาสามารถปฏิบัติตามได้ 
พระวาจาขององค์พระบุตรของแม่จะนำชีวิตกลับคืนมาสู่ผู้ที่ฟังพวกเขา 
พระวาจาขององค์พระบุตรของแม่นำความรักและความหวังกลับคืนมา 
เพราะฉะนั้น  อัครสาวกสุดที่รักของแม่  ลูกทั้งหลายของแม่  จงปฏิบัติตามพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่เถิด 
จงรักซึ่งกันและกันเหมือนที่พระองค์ทรงรักลูก 
จงรักซึ่งกันและกันในพระนามของพระองค์  เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์ 
พระศาสนจักรก้าวหน้าขึ้นและเจริญเติบโตขึ้นก็เพราะผู้ที่ฟังพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่ 
เพราะผู้ที่รัก  เพราะผู้ที่มีความทุกข์และยอมทนอย่างเงียบสงบในความหวังแห่งการไถ่กู้ครั้งสุดท้าย  เพราะฉะนั้น  ลูกทั้งหลายอันเป็นสุดที่รักของแม่  ขอให้พระวาจาขององค์พระบุตรของแม่และความรักของพระองค์  เป็นความคิดอันแรกและอันสุดท้ายในชีวิตแต่ละวันของลูกเถิด 

ขอขอบใจลูก

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

ภาพยนตร์เรื่องใหม่


หลังจากภาพยนตร์ “The Passion of Christ” ประสบความสำเร็จอย่างดี  ก็มีการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับพระเยซูเจ้าตามมาอีก  ในปีนี้ทาง โซนี่พิคเจอร์ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ชื่อ RISEN เค้าโครงเรื่องเป็นเรื่องราวภายหลังการกลับคืนชีพของพระเยซู  โดยให้ทหารโรมันชื่อคลาเวียส (แสดงโดยโจเซฟ  ฟินน) ได้รับมอบหมายจากปอนซีอัส ปีลาตให้ตามหาศพของพระเยซูที่หายไป  โดยทางสมณะกล่าวหาว่าศิษย์ของพระเยซูขโมยไป  แต่บรรดาศิษย์บอกว่าพระองค์กลับฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย  เนื้อเรื่องเป็นมุมมองจากทหารโรมันที่ไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนชีพจึงพยายามค้นหาพระศพและตามล่าบรรดาศิษย์ของพระองค์  คาดว่าจะออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

remembrance


“จงทำสิ่งนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา” remembrance
เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรรู้จักคำว่า “เป็นที่ระลึกถึงเรา”remembrance ที่พระเยซูเจ้าทรงใช้ใน ลูกา 22:19 นั้นมิได้มีความหมายถึงสิ่งที่เป็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว  ต่อไปนี้เป็นความหมายทั้งหมดของคำที่มาจากภาษากรีก “anamnesis” (“Do this in remembrance (anamnesis) of meจงทำสิ่งนี้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเรา). คำว่า “anamnesis” มีความหมายว่า”ทำยัญบูชาในอดีตให้ปรากฏขึ้นมาในวันนี้”  นี่เป็นมุมมองที่ชาวยิวใช้กับการเลี้ยงอาหารในพิธีปัสกาของพวกเขา – “พวกเราได้รับอิสระภาพจากการเป็นทาสในวันนี้”  พระบัญญัติของพระเป็นเจ้ากล่าวว่า “จงถือวันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์” “Remember to keep holy the lord’s day  มิใช่เพียงแค่สำนึกรู้ว่า “วันนี้เป็นวันพระเจ้า” แล้วไม่ทำอะไรเลย  แต่มีความหมายว่าจงไปเฝ้าพระเป็นเจ้าในโบสถ์  และเมื่อโจรที่ถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซูเจ้าพูดว่า “โปรดระลึกถึง( remembrance )ข้าพเจ้าด้วย เมื่อพระองค์เข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์”   เขาก็ไม่ได้หมายถึงขอให้พระเยซูเจ้าคิดถึงเขา  เมื่อพระองค์เข้าสู่สวรรค์แล้ว (และไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขาอีก)   แต่เขาหมายถึง เขาปรารถนาจะได้อยู่กับพระเยซูเจ้าในสวรรค์ด้วย