เมดจูกอเรจ์เป็นป้อมปราการต่อสู้กับซาตาน, ซาตานเกลียดเมดจูกอเรจ์มากเพราะเป็นสถานที่ของการกลับใจ,
การสวดภาวนา, และการเปลี่ยนแปลงชีวิต.
>>>อ่านต่อ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี
พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)
วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559
วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559
วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559
นักบุญอันตนแห่งปาดัว
นักบุญอันตนแห่งปาดัว
เป็นทั้งลูกศิษย์และเพื่อนของนักบุญฟรังซิส ได้รับหน้าที่ให้เทศน์ต่อหน้าพระสันตปาปาและบรรดาพระคาร์ดินัลในการประชุมครั้งหนึ่งของคณะสงฆ์ ในเวลานั้นมีผู้แทนที่มาจากประเทศอื่นๆ
ที่ใช้ภาษากรีก และ ลาติน
ภาษาฝรั่งเศสและเยอรมัน ภาษาสลาฟและอังกฤษ
มีคนที่ใช้ภาษาที่แตกต่างกันมาอยู่รวมกันที่นั่น นักบุญอันตนมีความเร่าร้อนในการเทศน์สอนด้วยอำนาจของพระจิตเจ้าและมีแรงบันดาลใจในการแพร่ธรรมเช่นเดียวกับอัครสาวก
ท่านเริ่มเทศน์และอธิบายพระวาจาของพระเจ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความศรัทธา ละเอียดชัดเจนและเข้าใจได้ ผู้ที่อยู่ในที่ประชุมสงฆ์ ถึงแม้จะพูดภาษาที่แตกต่างกัน แต่ก็ฟังคำเทศน์ของนักบุญอันตนได้เข้าใจเหมือนเป็นภาษาของแต่ละคน
ทุกคนจึงพากันประหลาดใจและเต็มเปี่ยมด้วยความศรัทธา ดูเหมือนว่าอัศจรรย์เดียวกันกับที่อัครสาวกเคยกระทำในวันเปนเตคอสเตได้เกิดขึ้นในเวลานั้นอีกครั้ง ด้วยอำนาจของพระจิตเจ้า อัครสาวกพูดภาษาต่างๆได้ ตามที่หนังสือกิจการอัครสาวกได้เขียนบรรยายไว้ และในที่ประชุมสงฆ์คนเหล่านั้นพูดกันว่า
“เขาไม่ใช่ชาวอิตาเลี่ยนหรอกหรือ?”
ทำไมพวกเราจึงได้ยินเขาพูดเป็นภาษาของพวกเรา เราที่ใช้ภาษากรีกและลาติน ฝรั่งเศสและเยอรมัน สลาฟและอังกฤษ
ลอมบาร์ดีและประเทศอื่นๆได้ยินเขาพูดภาษาของเรา
วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559
การรักษาโรคทางร่างกายและจิตใจ
ปี 1840 ชายผู้หนึ่งชื่อ โรเชต Rochette พาลูกชายของเขาซึ่งเจ็บป่วยไปพบกับคุณพ่อยอห์น มารีย์
เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอาร์ส
โดยมีภรรยาติดตามมาด้วย
ภรรยาได้ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท
ขณะที่โรเชตสนใจแต่เพียงการรักษาอาการป่วยของลูกชายให้หายเท่านั้น เขาจึงเข้าไปในโบสถ์เพียงไม่กี่นาที แล้วไปยืนอยู่บริเวณอ่างน้ำเสกซึ่งอยู่ท้ายโบสถ์
คุณพ่อเจ้าอาวาสเดินจากพระแท่นไปยังที่ฟังสารภาพบาป
โรเชตเห็นคุณพ่อเรียกเขาให้มายังที่ฟังสารภาพบาปนั้น แต่เขาปฏิเสธ
ในเวลานั้นภรรยาของเขาและลูกชายอยู่ใกล้กับที่ฟังสารภาพบาป คุณพ่อเวียนเนย์ถามผู้เป็นภรรยาว่า
“เขาไม่มีความเชื่อมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
สุดท้าย
เมื่อจบการเทศน์ครั้งที่สามของคุณพ่อเวียนเนย์ โรเชตก็ตัดสินใจเดินไปยังที่ฟังสารภาพบาป “เอาละ” เขาคิด “คุณพ่อเจ้าอาวาสคงไม่กินฉันหรอก” เขาเดินตามคุณพ่อเวียนเนย์ไปเบื้องหลังพระแท่น โดยไม่รอช้า
คุณพ่อพูดว่า “โรเชต
ตรงนี้แหละเป็นที่สำหรับเราทั้งสอง” แล้วท่านชี้นิ้วไปที่ฟังสารภาพบาป “จงเข้าไปข้างใน” โรเชต ตอบว่า “โอ ผมยังไม่อยากสารภาพบาปหรอกครับ” แต่คุณพ่อย้ำว่า
“เราจะต้องเริ่มต้นที่นั่น”
โรเชตรู้สึกตั้งตัวไม่ติดต่อการโจมตีอย่างทันทีทันใดนี้ เขาคุกเข่าลงและพูดกระอึกกระอักว่า
“คุณพ่อครับ.....เป็นเวลานานประมาณสิบปีแล้ว.....” คุณพ่อพูดว่า “บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้ซิ” “ประมาณสิบสองปีครับ.....” คุณพ่อพูดอีกว่า
“บอกให้ใกล้เคียงกว่านี้อีก” โรเชตพูดว่า
“ครับ...คือตั้งแต่ปีศักดิ์สิทธิ์ 1826”
คุณพ่อพูดว่า “อา...ใช่แล้วตอนนั้นแหละ
เราจะพบเมื่อใช้ความพยายามสักเล็กน้อย”
แล้วโรเชตก็สารภาพบาปทั้งหมดของเขาเหมือนเด็กเล็กๆ ในวันต่อมาโรเชตและภรรยาก็มาคุกเข่าที่โบสถ์ ส่วนลูกชายของเขา
เดินออกจากโบสถ์โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำพยุงสองข้างนั้นอีก เพราะไม่ต้องใช้อีกต่อไป
คุณพ่อเวียนเนย์ได้รักษาโรคฝ่ายจิตใจของผู้เป็นพ่อ และรักษาโรคฝ่ายร่างกายของผู้เป็นลูก เป็นอัศจรรย์สองครั้งในครั้งเดียว
วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559
โทรศัพท์ของพระสันตปาปา
ROME —พระสันตปาปาฟรังซิสทรงทำให้หลายคนประหลาดใจ พระองค์โทรศัพท์ไปหาโดยที่พวกเขาไม่คาดคิด คนล่าสุดที่ได้รับโทรศัพท์จากพระสันตปาปาฟรังซิสเป็นฆาตกรชาวอิตาเลี่ยนชื่อ
ปิเอตโตร มาโซ
ในปี
1991 มาโซ ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกสองคน ได้ฆ่าพ่อแม่ของเขาเองด้วยการใช้กระทะตีจนสลบ แล้วใช้ถุงพลาสติกและเท้าทำให้เหยื่อหายใจไม่ออกจนตาย จากคำสารภาพของเขาเมื่อถูกจับ เขาฆ่าพ่อแม่เพราะไม่ต้องการรอที่จะรับมรดก
คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ดังมากในอิตาลี และมาโซเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนในครอบครัวอย่างเลือดเย็น
พระสันตปาปาฟรังซิสได้โทรศัพท์ไปหามาโซในปี
2013 เพื่อให้ความหวังซึ่งเป็นเหมือนเส้นด้ายเส้นสุดท้ายแก่เขา และนี่ก็เป็นความพยายามของพระองค์ที่จะตอบคำถามคนที่เขียนจดหมายมาหาพระองค์บรรยายถึงความเจ็บปวดของพวกเขา และวอนขอการให้อภัย
วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559
สาส์นแม่พระวันที่2-25ม.ค.2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้แม่ขอให้ลูกทุกคนสวดภาวนา
ลูกไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากการสวดภาวนา
เพราะการสวดภาวนาเป็นสายโซ่ที่นำลูกเข้าใกล้พระเป็นเจ้า เพราะฉะนั้น
ลูกน้อยทั้งหลาย
จงหันกลับมาหาพระเป็นเจ้าและปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ด้วยหัวใจที่ถ่อมตน
เพื่อที่ลูกจะสามารถพูดได้อย่างสุดหัวใจว่า
ขอให้พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์ พวกลูก , ลูกน้อยทั้งหลาย,ลูกมีอิสระในการตัดสินใจที่จะอยู่กับพระเป็นเจ้าหรือต่อสู้กับพระองค์ พิจารณาดูเถิดว่าที่ใดที่ซาตานต้องการดึงลูกให้ตกลงไปในบาปและการเป็นทาสของมัน เพราะฉะนั้น, ลูกน้อยทั้งหลาย,
จงหันกลับมาสู่ดวงหทัยของแม่เถิด
เพื่อที่แม่จะสามารถนำพวกลูกไปสู่องค์พระบุตรเยซูของแม่ ผู้ทรงเป็นหนทาง, ความจริง และชีวิตขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในฐานะมารดา แม่มีความยินดีที่ได้อยู่ท่ามกลางพวกลูก เพราะแม่ปรารถนาจะพูดอีกครั้งเกี่ยวกับพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่และเกี่ยวกับความรักของพระองค์
แม่หวังว่าลูกจะยอมรับคำพูดของแม่นี้ด้วยหัวใจ
เพราะพระวาจาและความรักขององค์พระบุตรของแม่เป็นแสงสว่างและความหวังเพียงหนึ่งเดียวในความมืดของทุกวันนี้
นี่คือความจริงและผู้ที่ยอมรับและปฏิบัติตามจะมีหัวใจที่บริสุทธิ์และถ่อมตน
องค์พระบุตรของแม่ทรงรักผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์และถ่อมตน
หัวใจที่บริสุทธิ์และถ่อมตนนำชีวิตมาสู่พระวาจาของพระองค์
พวกเขาจะปฏิบัติตามและเผยแพร่ออกไป ทำให้ทุกคนที่ฟังพวกเขาสามารถปฏิบัติตามได้
พระวาจาขององค์พระบุตรของแม่จะนำชีวิตกลับคืนมาสู่ผู้ที่ฟังพวกเขา
พระวาจาขององค์พระบุตรของแม่นำความรักและความหวังกลับคืนมา
เพราะฉะนั้น อัครสาวกสุดที่รักของแม่ ลูกทั้งหลายของแม่ จงปฏิบัติตามพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่เถิด
จงรักซึ่งกันและกันเหมือนที่พระองค์ทรงรักลูก
จงรักซึ่งกันและกันในพระนามของพระองค์ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์
พระศาสนจักรก้าวหน้าขึ้นและเจริญเติบโตขึ้นก็เพราะผู้ที่ฟังพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่
เพราะผู้ที่รัก เพราะผู้ที่มีความทุกข์และยอมทนอย่างเงียบสงบในความหวังแห่งการไถ่กู้ครั้งสุดท้าย เพราะฉะนั้น ลูกทั้งหลายอันเป็นสุดที่รักของแม่ ขอให้พระวาจาขององค์พระบุตรของแม่และความรักของพระองค์ เป็นความคิดอันแรกและอันสุดท้ายในชีวิตแต่ละวันของลูกเถิด
ขอขอบใจลูก
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559
ภาพยนตร์เรื่องใหม่
หลังจากภาพยนตร์ “The
Passion of Christ” ประสบความสำเร็จอย่างดี
ก็มีการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับพระเยซูเจ้าตามมาอีก ในปีนี้ทาง โซนี่พิคเจอร์ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ชื่อ RISEN เค้าโครงเรื่องเป็นเรื่องราวภายหลังการกลับคืนชีพของพระเยซู โดยให้ทหารโรมันชื่อคลาเวียส (แสดงโดยโจเซฟ ฟินน) ได้รับมอบหมายจากปอนซีอัส
ปีลาตให้ตามหาศพของพระเยซูที่หายไป โดยทางสมณะกล่าวหาว่าศิษย์ของพระเยซูขโมยไป
แต่บรรดาศิษย์บอกว่าพระองค์กลับฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย เนื้อเรื่องเป็นมุมมองจากทหารโรมันที่ไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนชีพจึงพยายามค้นหาพระศพและตามล่าบรรดาศิษย์ของพระองค์ คาดว่าจะออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)