พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 โปรดเพิ่มพูนความเชื่อแก่เราด้วยเถิด

          บรรดาอัครสาวกทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ‘โปรดเพิ่มความเชื่อให้พวกเราเถิด’ องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสว่า ‘ถ้าท่านมีความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ด และพูดกับต้นหม่อนต้นนี้ว่า “จงถอนรากแล้วไปขึ้นอยู่ในทะเลเถิด” ต้นหม่อนต้นนั้นก็จะเชื่อฟังท่าน
          ‘ท่านผู้ใดที่มีคนรับใช้ออกไปไถนา หรือไปเลี้ยงแกะ เมื่อคนรับใช้กลับจากทุ่งนา ผู้นั้นจะพูดกับคนรับใช้หรือว่า “เร็วเข้า มานั่งโต๊ะเถิด” แต่จะพูดมิใช่หรือว่า “จงเตรียมอาหารมาให้ฉันเถิด จงคาดสะเอว คอยรับใช้ฉันขณะที่ฉันกินและดื่ม หลังจากนั้นเจ้าจึงกินและดื่ม” นายย่อมไม่ขอบใจผู้รับใช้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งมิใช่หรือ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น”’
(ลูกา 17:5-10)








วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พระดำรัสขององค์ราชินี


พระดำรัสขององค์ราชินี (พระนางพรหมจารีย์มารีย์ตรัสกับซิสเตอร์มารีย์แห่งอะกริดา สเปน)

พระเป็นเจ้าทรงมีพระทัยเมตตาต่อมนุษย์ยิ่งนัก  พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ให้มีสติปัญญาที่จะพิจารณาเหตุผล  เพื่อที่มนุษย์จะได้ใช้สติปัญญานั้นในการพิจารณาไตร่ตรองเหตุผลซึ่งจะช่วยเขาให้สามารถพบพระองค์ได้  เมื่อรู้จักพระองค์แล้วมนุษย์ก็จะเริ่มรักพระองค์  เคารพนับถือและเทิดทูนพระองค์ในฐานะพระผู้สร้างและพระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว  บิดามารดาจึงต้องสั่งสอนลูกๆของตนตั้งแต่เขายังเป็นเด็กบริสุทธิ์ไร้เดียงสา  ให้พวกเขามีความรู้ถึงพระเป็นเจ้าและต้องให้คำแนะนำสั่งสอนแก่พวกเขาด้วยความเอาใจใส่เป็นพิเศษ  เพื่อที่บรรดาลูกๆจะได้รู้จักและแสวงหาพระเป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจุดหมายปลายทางของชีวิตเป็นอันดับแรกอย่างเต็มกำลังและน้ำใจของพวกเขา  บิดามารดาต้องเฝ้าดูแลเอาใจใส่ในลูกของตนอย่างเต็มที่  เพื่อทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากนิสัยที่ไม่ดีตามประสาเด็ก  ซึ่งเป็นธรรมชาติด้านลบ  อันอาจทำให้พวกเขาหลงไปในทางที่ผิดถ้าไม่รีบกำจัดเสียแต่ต้น  ถ้าบิดามารดาจะเอาใจใส่และป้องกันนิสัยที่ไม่ดีต่างๆของลูกของพวกเขาและสั่งสอนลูกๆตั้งแต่ยังอยู่ในวัยที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาให้มีความรู้ในพระเป็นเจ้าในฐานะพระผู้สร้างแล้วละก็  บรรดาลูกๆของเขาก็จะคุ้นเคยที่จะรู้จักและสรรเสริญพระเป็นเจ้า  ท่านมารดาของแม่เอง(นักบุญอันนา)  ถึงแม้ท่านจะไม่รู้ถึงพระหรรษทานยิ่งใหญ่ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่แม่  แต่ท่านก็เอาใจใส่สั่งสอนแม่ในเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม  เมื่อเริ่มแรกที่ท่านตั้งครรภ์แม่นั้น  ท่านสรรเสริญพระเป็นเจ้าด้วยนามของแม่   ท่านนมัสการขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ทรงสร้างแม่ขึ้นมา  ท่านวอนขอให้พระองค์ปกปักรักษาแม่และนำแม่ไปสู่แสงสว่างของพระองค์  ดังนั้นบิดามารดาจึงควรสวดภาวนาด้วยสิ้นสุดจิตใจต่อพระเป็นเจ้า  สำหรับจิตวิญญาณของลูกของเขา  วอนขอให้พระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้าได้โปรดชำระล้างบาปของพวกเขาและทำให้ลูกๆของเขาเป็นอิสระจากการเป็นทาสของบาปกำเนิด
แต่ถ้าหากมนุษย์ผู้ใดไม่รู้จักและสรรเสริญพระผู้สร้างของเขาตั้งแต่เวลาที่เขายังเป็นเด็กไม่รู้ความ  เขาผู้นั้นควรได้รับความรู้ในพระเป็นเจ้าทันทีเท่าที่จะทำได้เมื่อเขาเติบโตแล้ว  โดยอาศัยแสงสว่างแห่งความเชื่อ  และเมื่อเขาได้รับความรู้ในพระเป็นเจ้าแล้ว  วิญญาณนั้นต้องกระทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่เขาจะไม่มีวันสูญเสียพระเป็นเจ้าไป  เขาต้องมองดู  ฟัง  รัก  และสรรเสริญพระองค์เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น