พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2025 หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดประเวณี

           พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะหาเหตุปรักปรำพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
(ยอห์น 8:1-11)








วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คาทอลิกในประเทศจีน



ต่อจากคิวบา...ก็คือประเทศจีน  มีคำถามว่าประเทศจีนจะเป็นอย่างไรต่อไป? ประเทศคอมมิวนิสต์นี้จะสานสัมพันธ์กับวาติกันหรือพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างเต็มตัวหรือไม่?
พระสันตปาปาฟรังซิสพยายามผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องนี้  แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า   จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆเกิดขึ้น..อย่างน้อยก็ในตอนนี้
FR. BERNARDO CERVELLERA ผู้อำนวยการของเอเชียนิวส์
“ปัจจุบัน ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก  และดูเหมือนมีอำนาจมากที่สุดในการเมืองระดับโลก  ไม่เหมือนกับคิวบา  จีนไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากวาติกันหรือประเทศอื่นๆเพื่อให้มีความมั่นคง”
Fr. Bernardo Cervellera เป็นผู้ก่อตั้งเอเชียนิวส์  ท่านเคยเป็นมิชชันนารีในประเทศจีนอยู่หลายปี จนกระทั่งท่านถูกเชิญให้ออกนอกประเทศไป
ด้วยความตื่นตัวในคริสตศาสนาของแถบเอเชีย  จะทำให้ในปี ค.ศ. 2050 ประเทศจีนจะกลายเป็นประเทศที่มีคริสตชนมากที่สุดในโลก
มีสิ่งท้าทายสำคัญประการหนึ่งระหว่างวาติกันกับประเทศจีน  ประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศนี้ประกาศว่า  - รัฐบาลจะเป็นผู้ดูแลศาสนจักรของตนเอง  และกำลังกำจัดอิทธิพลของวาติกัน  รัฐบาลแต่งตั้งพระสังฆราชของตนเองและมักประกาศความเป็นอิสระของตนอยู่บ่อยๆ
FR. BERNARDO CERVELLERA 
 “สำนักงานศาสนาของจีนส่งสาส์นออกมาอย่างต่อเนื่องว่าต้องการแยกตัวออกจากพระศาสนจักร  พวกเขาแต่งตั้งและบวชพระสังฆราชใหม่ของตนเอง 15 องค์ต่อปี  พวกเขาบอกว่าเขามีสิทธิที่จะดูแลศาสนจักรอิสระได้โดยปราศจากอิทธิพลของต่างประเทศซึ่งหมายถึงวาติกัน”
ในความเป็นจริง  พระสังฆราชจีนที่ได้รับการรับรองจากวาติกันหลายคนที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในประเทศจีน  มีพระสังฆราชบางองค์ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในค่ายกักกัน
อย่างไรก็ตาม  มีข่าวดีอยู่บ้างในพื้นที่ส่วนใหญ่  ผู้มีความเชื่อยังสามารถแสดงความเชื่อของพวกเขาได้อย่างเปิดเผยในประเทศจีน  แต่การควบคุมอย่างเข้มงวดยังมีอยู่สำหรับพระสงฆ์ที่ดูแลโบสถ์  รวมทั้งในด้านการประกอบพิธีมิสซา
FR. BERNARDO CERVELLERA 
 “นี่หมายความว่า พระสงฆ์ไม่มีอิสระในการออกไปอภิบาลในชุมชนของพวกท่าน  ท่านต้องทำตามแนวทางที่รัฐบาลจัดทำขึ้น”
Fr. Cervellera ไม่คิดว่าจะมีความก้าวหน้าที่สำคัญเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ระหว่างพระศาสนจักรและประเทศจีน  ท่านคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ต้องใช้เวลาสิบปีเป็นอย่างน้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น