พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2025 จงรักเพื่อนมนุษย์ รักแม้กระทั่งศัตรู

           “แต่เรากล่าวกับท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรู จงทำดีต่อผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรผู้ที่สาปแช่งท่าน จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่ทำร้ายท่าน ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย ผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงปล่อยให้เขาเอาเสื้อยาวไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และอย่าทวงของของท่านคืนจากผู้ที่ได้แย่งไป ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด ถ้าท่านรักเฉพาะผู้ที่รักท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาด้วย ถ้าท่านทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อท่าน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร คนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย ถ้าท่านให้ยืมเงินโดยหวังจะได้คืน ท่านจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าได้อย่างไร
           คนบาปก็ให้คนบาปด้วยกันยืมโดยหวังจะได้เงินคืนจำนวนเท่ากัน แต่ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืนแล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย
           จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน จงให้อภัยเขาแล้วพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน จงให้ แล้วพระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ท่านจะได้รับเต็มสัดเต็มทะนานอัดแน่นจนล้น เพราะว่าท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าก็จะทรงใช้ทะนานนั้นตวงตอบแทนให้ท่านด้วย”
(ลูกา 6:27-38)








วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ชีวิตฝ่ายจิต


ขั้นแรก ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยเมล็ดพันธ์เล็กๆของการรับศีลล้างบาปของเรา จากนั้นชีวิตก็เติบโตขึ้น, สำหรับคริสตชนคนใดก็ตาม นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย หรือเราเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เลยก็ได้ นักบุญบรูโน, วันหนึ่งท่านได้ยินเสียงเบาๆจากที่หนึ่งในลักษณะที่ไม่อาจต้านทานได้ เสียงนั้นคือจงทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระเจ้าเท่านั้น เป็นคำเชื้อเชิญภายในใจ แต่ท่านต้องเลือก เพื่อทำตามการเรียกนี้ ท่านจะต้องละทิ้งทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง นั่นคือ หนีจากโลกและหันไปหาพระเจ้าเท่านั้น เป็นการหลุดพ้นจากสิ่งสร้างและผูกพันกับพระเจ้า 
สำหรับนักบุญบรูโน,สิ่งนี้สามารถบรรลุได้เฉพาะในชีวิตที่อุทิศให้กับความรักของพระคริสต์อย่างเต็มที่ ด้วยการเสริมสร้างชีวิตภายในของตนเอง ไปจนถึงการสวดภาวนา,การอยู่ในความลับแห่งความสันโดษ นักบุญบรูโนเขียนถึงราล์ฟเพื่อนของท่าน,เล่าให้เขาฟังว่า ความสันโดษทำให้แม่ชีผู้นั้น “อยู่กับตัวเอง” ซึ่งในความเป็นจริงหมายถึง: การปรากฏเบื้องพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าในส่วนลึกของหัวใจของเธอ ในลักษณะที่จิตใจมีสถานะที่มั่นคง 
 จากนั้นบทสนทนาส่วนตัวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เกิดขึ้น การสนทนาระหว่างเจ้าสาวกับพระคริสต์,ผู้เป็นเจ้าบ่าวของเธอ ความผูกพันเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นในความรัก แต่ในสถานะ “ฉันกับพระองค์” นี้ ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏในพระศาสนจักรทั้งมวลด้วย เพราะพระศาสนจักรมีพระคริสต์เป็นเจ้าบ่าวเพียงผู้เดียว ในเวลาเดียวกัน, เจ้าสาวก็คือพระศาสนจักรผู้เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ ได้รับการบำรุงเลี้ยงด้วยอาหารแห่งพระวาจาและปังแห่งศีลมหาสนิท แม่ชีผู้นั้นจึงมุ่งหน้าสู่เส้นทางที่จะยิ่งทำให้เธอมีความรักมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตอันซ้ำซากจำเจของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว 

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

นักบุญซีซีเลีย 22 พ.ย.


คำว่า“ร่างที่ไม่เน่าเปื่อย” หมายถึงนักบุญหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในความศักดิ์สิทธิ์ผู้ซึ่งร่างกายของเขาไม่เสื่อมสลายอย่างน่าอัศจรรย์ ร่างกายของนักบุญหลายองค์ถูกค้นพบในภายหลังว่าไม่เสื่อมสลายไป และในบรรดาร่างเหล่านี้มีบางร่างที่เสื่อมสลายเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งหรือถูกทำลายโดยศัตรูของพระศาสนจักร นักบุญในยุคแรกซึ่งร่างกายไม่เน่าเปื่อยคือนักบุญซีซีเลีย ใน ค.ศ. 1599, 1300 ปีหลังจากที่เธอตายไปแล้ว,ร่างกายของเธอถูกค้นพบว่ายังไม่เน่าเปื่อยแต่ดูเหมือนกำลังหลับอยู่ กล่าวกันว่านิ้วของเธอเหยียดออกในลักษณะที่แสดงถึงความเชื่อในพระตรีเอกภาพของเธอ นั่นคือนิ้วชี้เหยียดออก นิ้วกลาง,นาง,ก้อยพับเข้า และนิ้วหัวแม่มือทับอยู่  รูปแกะสลักด้านบนนี้แกะตามรูปร่างของเธอเวลาที่ถูกค้นพบ

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

จงให้ด้วยใจกว้าง


ในช่วงเวลาที่เกิดความอดอยากครั้งใหญ่ในกัมปาเนีย นักบุญเบเนดิกต์มอบทุกสิ่งที่มีในอารามของท่านให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ถึงขนาดที่แทบไม่เหลืออะไรเลยในห้องใต้ดิน เว้นแต่น้ำมันเพียงเล็กน้อยในภาชนะแก้ว เมื่ออากาปิทัส,ซึ่งเป็นสังฆานุกร,มาขอร้องให้ช่วยมอบน้ำมันเล็กน้อยนั้นแก่เขา เบเนดิกต์ (ผู้ตั้งใจว่าจะให้ทุกสิ่งในโลกนี้เพื่อจะได้มีทั้งหมดในสวรรค์) จึงสั่งให้นำน้ำมันเล็กน้อยที่เหลืออยู่นี้มอบให้อากาปีทัส. พระสงฆ์ที่อยู่ในห้องใต้ดินได้ยินคำสั่งของเบเนดิกต์แล้ว,แต่ก็ไม่กล้าทำตาม สักพัก,เบเนดิกต์ก็เข้ามาถามว่าได้ทำตามความปรารถนาของอากาปิทัสแล้วหรือไม่ พระสงฆ์ก็ตอบว่าไม่ได้ให้น้ำมันไปเพราะถ้าให้ไปแล้วก็ไม่เหลือให้กับบรรดาพี่น้องเลย 
 บิดาผู้แสนดีไม่พอใจอย่างยิ่งจึงสั่งให้อีกคนหนึ่งหยิบขวดแก้วที่มีน้ำมันเหลืออยู่เล็กน้อยโยนออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อมิให้ผลของการไม่เชื่อฟังจะเหลืออยู่ในอารามเลย คำสั่งของเบเนดิกต์จึงได้ถูกดำเนินการในทันที ใต้หน้าต่างมีทางลงสูงชัน, เต็มไปด้วยหินหยาบขนาดใหญ่ ซึ่งขวดแก้วได้ตกลงมา แต่ปรากฏว่าขวดแก้วนั้นยังคงสภาพเหมือนเดิมราวกับว่าไม่ได้ถูกโยนลงมา ขวดแก้วไม่แตกและน้ำมันก็ไม่หกออกไป เบเนดิกต์จึงสั่งให้หยิบมันขึ้นมามอบให้แก่ผู้ที่ขอมัน แล้วเรียกบรรดาพี่น้องทั้งหมดมารวมกันแล้วตำหนิพระสงฆ์ผู้ไม่เชื่อฟังต่อหน้าพวกเขาเพราะความหยิ่งทะนงและความไม่ซื่อสัตย์ 
ที่มา: The Life of St. Benedict

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

สาส์นแม่พระ 25 พ.ย. 2023

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 พ.ย. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          ขอให้เวลานี้เป็นเวลาแห่งการประสานกันสวดภาวนาเพื่อสันติภาพและการทำความดีเถิด เพื่อที่ความชื่นชมยินดีแห่งการรอคอยกษัตริย์แห่งสันติสุขจะสัมผัสในหัวใจของพวกลูก, ในครอบครัว, และในโลกที่ไม่มีความหวัง      

          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

หลักฐานของไฟชำระ


ผู้รับใช้ของพระเจ้าซิสเตอร์เคียร่า อิสซาเบลลา ฟอร์นาริ(Chiara Isabella Fornari) สวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระที่น่าสงสารอย่างต่อเนื่อง วิญญาณในไฟชำระบางดวงได้รับอนุญาติให้มาปรากฏแก่ซิสเตอร์เพื่อขอให้เธอสวดภาวนาและทำพลีกรรมให้,ซึ่งเธอก็ได้ทำตามที่พวกเขาวอนขอโดยไม่เห็นแก่ตัว เล่ากันว่ามีวิญญาณดวงหนึ่ง,เป็นวิญญาณของพระสงฆ์,ได้มาขอให้เธอสวดภาวนาให้,และวิญญาณได้ทิ้งรอยฝ่ามือและเครื่องหมายกางเขนไว้ที่โต๊ะไม้ของเคียร่า ทุกวันนี้,ชิ้นส่วนนี้ของโต๊ะยังคงเก็บรักษาไว้ในพิพิทธภัณฑ์แห่งไฟชำระที่โรม,อิตาลี

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

แม่พระถวายองค์ในพระวิหาร 21 พ.ย.


การเฉลิมฉลองแม่พระถวายองค์ในพระวิหารถือได้ว่าเป็นการเฉลิมฉลองแม่พระครั้งสุดท้ายของปีและเป็นการรอคอยเทศกาลพระคริสตสมภพ 
บิดามารดาได้พามารีย์น้อยไปที่พระวิหาร ตามที่คุณพ่อ อัลบัน บัตเลอร์กล่าวไว้ นี่เป็นธรรมเนียมของพ่อแม่ชาวยิวในขณะนั้น “พ่อแม่ที่เคร่งศาสนามักจะสวดภาวนาด้วยความศรัทธาเพื่อให้มีโอกาศถวายลูกๆของตนรับใช้และรักพระเจ้า,ทั้งก่อนและหลังการเกิด ชาวยิวบางคนไม่เพียงแต่ถวายลูกๆของตนในแบบทั่วไป พวกเขาถวายแด่พระเจ้าตั้งแต่ยังเป็นทารก,ด้วยมือของสมณะในพระวิหาร และให้ลูกของพวกเขาพักอยู่ในห้องพักของพระวิหาร, และถูกเลี้ยงดูภายใต้การดูแลของพระสงฆ์และคนเลวีในการอภิบาลอันศักดิ์สิทธิ์” 
เหตุการณ์นี้สอดคล้องกับวันคริสตสมภพเป็นสำคัญ พระนางมารีย์ทรงได้รับการจัดเตรียมในพระวิหารก่อนถึงวันสำคัญของพระนาง และนี่เป็นตัวอย่างสำหรับเราในการฉลองเทศกาลพระคริสตสมภพเพื่อใช้เป็นเวลาแห่งการรอคอยและสวดภาวนาด้วยความอดทน 
การถวายองค์ในพระวิหารของพระนางมารีย์ท้าทายให้เราเตรียมตัวล่วงหน้าในสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับเรา และทำให้เทศกาลพระคริสตสมภพเป็นเทศกาลพิเศษฝ่ายจิตวิญญาณ 

วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

การทำวันเสาร์ต้นเดือน


แม่พระทรงอธิบายเกี่ยวกับการทำวันเสาร์ต้นเดือนแก่ซิสเตอร์ลูซีอา ซานโตส เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1925 
ดูเถิด ลูกสาวของแม่ หัวใจของแม่ถูกล้อมรอบด้วยหนาม ซึ่งคนเนรคุณทิ่มแทงหัวใจของแม่ทุกขณะด้วยการดูหมิ่นและความอกตัญญู อย่างน้อยขอให้ลูกพยายามปลอบใจแม่ บอกพวกเขาว่าแม่สัญญาว่าจะช่วยเหลือในช่วงเวลาแห่งความตายด้วยพระหรรษทานที่จำเป็นสำหรับความรอด สำหรับผู้ที่ทำการชดเชยสำหรับแม่ ด้วยการไปสารภาพบาป, รับศีลมหาสนิท, ในวันเสาร์ต้นเดือนเป็นเวลาห้าเดือนติดต่อกัน พร้อมทั้งสวดสายประคำหนึ่งสาย, และอยู่กับแม่เป็นเวลาสักสิบห้านาทีด้วยการพิจารณาใคร่ครวญเกี่ยวกับ … พระธรรมล้ำลึกของสายประคำ 
การทำวันเสาร์ต้นเดือนประกอบด้วยการปฏิบัติตามองค์ประกอบต่อไปนี้ซึ่งกระทำด้วยความตั้งใจที่จะชดเชยเป็นเวลาห้าเดือนติดต่อกัน: 
 ไปสารภาพบาป (ก่อนหรือหลังวันเสาร์ต้นเดือน - และไปรับศีลมหาสนิทในสถานะพระหรรษทาน) 
รับศีลมหาสนิทในวันเสาร์ต้นเดือน 
สวดสายประคำศักดิ์สิทธิ์ ห้าทศในช่วงกลางวัน 
และ พิจารณาไตร่ตรองเป็นเวลา 15 นาทีเกี่ยวกับพระธรรมลึกล้ำของสายประคำ (อย่างน้อยหนึ่งทศ) 
-------------------- 

วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

อุปมาเรื่องเงินตะลันต์

>
เจ้านายผู้ลึกลับคนนี้เป็นคนที่มีความอ่อนไหวและความโดดเด่นเป็นพิเศษ
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

แม่มาร์กาเร็ตตาปรากฏแก่คุณพ่อบอสโก


คุณพ่อบอสโกฝันว่าท่านได้พบคุณแม่อยู่ใกล้พระแท่นของแม่พระผู้ทรงบรรเทา
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

นักบุญเทเรซาแห่งอาวีลาช่วยเหลือพระสงฆ์


ในที่สุดเขาก็ละทิ้งหญิงชั่วคนนั้นและกลับมาซื่อสัตย์ต่อชีวิตพระสงฆ์อีกครั้ง
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

เกร็ดประวัติพระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2


“น้อยคนที่รู้เรื่องนี้: เรากำลังอยู่บนเครื่องบินของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ที่มุ่งหน้าไปยังเซเนกัล ที่ชานเมืองอิตาลี เราบินขึ้นไปบนเมฆที่เย็นจัดจนเป็นน้ำแข็งเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเครื่องบินของเราไม่มีระบบละลายน้ำแข็งที่ปีกเครื่องบิน 
ที่ความสูง 12,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เราก็ตกลงมาอยู่ที่ 1,500 เมตร ทันที พวกเราทุกคนกระวนกระวายใจมาก เครื่องบินดูเหมือนจะตก แต่พระสันตปาปาก็ยังคงสงบ พระองค์กำลังอ่านเอกสารสำคัญบางอย่าง,ทรงนั่งอยู่ในที่ของพระองค์ 
ทันทีที่เครื่องบินกลับไปถึง 12,000 พระสันตปาปาก็มองออกไปนอกหน้าต่าง พยักหน้า และราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พระองค์พูดกับเราด้วยรอยยิ้ม: 'มีปัญหาหรือ?'” 
 (เรื่องราวโดย Arturo Mari ช่างภาพหนังสือพิมพ์อย่างเป็นทางการของวาติกัน Osservatore Romano)

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

พระเมตตาของพระเยซูเจ้า


พระเยซูตรัสกับนักบุญโฟสตินา....จงเขียนสิ่งนี้: ก่อนที่เราจะมาในฐานะผู้พิพากษาทรงความยุติธรรม, เราจะมาในฐานะกษัตริย์แห่งพระเมตตา ก่อนที่วันแห่งพระยุติธรรมจะมาถึง, จะมีเครื่องหมายสำคัญในสวรรค์มอบให้แก่ประชาชนดังนี้: 
แสงสว่างทั้งหมดในท้องฟ้าจะดับลง และจะมีความมืดมนใหญ่หลวงปกคลุมทั่วแผ่นดินโลก ต่อจากนั้น,ประชาชนจะเห็นเครื่องหมายกางเขนบนท้องฟ้า และจากรอยแผลที่พระหัตถ์และพระบาทของพระผู้ช่วยให้รอดซึ่งถูกตอกตะปูไว้, จะมีแสงสว่างยิ่งใหญ่ส่องออกไปทั่วโลกชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่นานก่อนวาระสุดท้าย 
โอ พระโลหิตและน้ำ ซึ่งไหลออกมาจากดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า,เป็นน้ำพุแห่งพระเมตตาสำหรับเรา ลูกวางใจในพระองค์! 
หน้า 83/84...จากบันทึกของนักบุญโฟสตินา โควัลสกา...พระเมตตาอันศักดิ์สิทธิ์ในวิญญาณของฉัน

วันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

พระสันตปาปายอห์นปอลที่2


“ในช่วงเดือนสุดท้ายชีวิตของพระสันตะปาปายอห์นปอลที่2,พระพักตร์ของพระองค์บวมอันเนื่องมาจากการได้รับยา cortisone (พระองค์เป็นโรคพาร์กินสัน) 
ผู้ช่วยของพระองค์จะยืนเคียงข้างพระองค์เพื่อเช็ดน้ำลายออกจากปาก ขณะที่พระองค์พยายามพูดกับผู้เข้าเฝ้าจำนวนมาก 
ชายผู้ซึ่งเทศน์สอนด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะอย่างเชี่ยวชาญมาหลายทศวรรษเพื่อปลุกเร้าใจของผู้ฟัง, บัดนี้ทำได้เพียงแต่พูดถ้อยคำอย่างยากลำบาก 
แต่พระสันตปาปายอห์น ปอลไม่อยากให้ผู้คนที่เข้าเฝ้าพระองค์ตรัสต้องเสียใจ, พระองค์ทรงต้องการให้พวกเขาเห็นพระองค์เพื่อประโยชน์ของพวกเขา 
ชายผู้ที่สอนให้โลกรู้จักวิธีการใช้ชีวิตกำลังสอนพวกเขาถึงวิธีการตาย 
พระองค์นอนอยู่บนเตียงและขอให้อ่านพระวรสารของยอห์น ถ้อยคำสุดท้ายของพระองค์คือ (ภาษาโปแลนด์) Pizwolcie mi odejc do domu Ojca (ให้ฉันไปบ้านของพระบิดาเถิด)" 
ครั้งหนึ่งพระองค์เคยกล่าวไว้ว่า: "เมื่อค่ำคืนกลืนกินเรา เราต้องคิดถึงรุ่งอรุณที่กำลังจะมาถึง 
เราต้องเชื่อว่าทุกเช้าพระศาสนจักรจะฟื้นคืนชีพโดยอาศัยบรรดานักบุญของเธอ 
ไม่ใช่เพราะพวกเขาได้พิชิตโลก แต่เพราะพวกเขายอมให้พระคริสต์พิชิตพวกเขา” 
นักบุญพระสันตปาปายอห์น ปอลผู้ยิ่งใหญ่ 
 {รูปสีน้ำมันโดย Ruben Ferriera}

วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

จดหมายจากซิสเตอร์เอมมานูเอล 3

>
ในพระเจ้า ความตายไม่มีอยู่จริง พระองค์จะทรงกระทำอัศจรรย์หากเราอธิษฐานภาวนาอย่างแรงกล้าเพื่อสันติภาพ
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

จดหมายจากซิสเตอร์เอมมานูเอล 2


การถวายมิสซาเป็นสิ่งพิเศษมาก,โดยเชื่อมโยงโลกสู่สวรรค์ และสวรรค์สู่โลก

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

จดหมายของคุณพ่อปิโอ


ในเดือนกรกฎาคม ปี 1946 คุณพ่อปีโอส่งถ้อยคำที่น่าตระหนกถึงอาร์คชบิชอปแห่งเบเนเวนโต(Benevento) ประเทศอิตาลีว่า "เบเนเวนโตถูกระเบิด,สูญเสียอาสนวิหารและที่พักของพระสงฆ์ สิ่งนี้เพื่อเป็นการลงโทษอาร์คบิชอป . . ที่แย่กว่านั้นก็คืออาร์คบิชอป,หลังจากการลงโทษจากพระเจ้านี้ก็ตาม,ไม่เต็มใจที่จะเข้าใจความรับผิดชอบของเขา เขาใจแข็งจริงๆ . . จิตวิญญาณกำลังจะสูญเสียและศัตรูของพระเจ้ากำลังสร้างความหายนะ,ทั้งหมดเป็นเพราะการหลับใหลของอาร์คบิชอป

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

พระคุณการุณย์


การสวดภาวนาและความทุกข์ทรมานที่ถวายแด่พระเจ้าในช่วงชีวิตของเรานั้นทำให้เราได้รับบุญกุศลจริงๆ
>>>อ่านต่อ

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

พระเมตตาในวิญญาณของฉัน


ขอให้เราปรารถนาที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ก่อนที่วันแห่งพระยุติธรรมของพระเจ้าจะมาถึง
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

การแต่งกายที่เหมาะสมของสตรี


เมื่อได้รับคำแนะนำพิเศษจากสวรรค์,คุณพ่อปีโอ,พระสงฆ์ผู้ได้รับรอยบาดแผลที่มีเลือดออกของพระคริสต์ในร่างกายของคุณพ่อตั้งแต่ปี 1918 จนเสียชิวิตในปี 1968 คุณพ่อปีโอปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะโปรดศีลอภัยบาปแก่ผู้หญิง,ไม่ว่าเธอจะมีความสำคัญแค่ไหนก็ตาม ถ้าหากเธอไม่สวมชุดกระโปรงที่มีความยาวของชายกระโปรงต่ำลงมาจากเข่าอย่างน้อย 8 นิ้ว คุณพ่อปีโอยังยืนกรานว่าพวกเธอต้องไม่สวมกางเกงสแล็กด้วย อย่างไรก็ตาม,คำแนะนำตามประเพณีดั้งเดิมนี้,ได้ถูกต่อสู้คัดค้านกันอย่างมากในยุคปัจจุบันอันเนื่องมาจากความไม่รู้,อคติ,หรือการตกเป็นทาสของความไร้สาระหรือกิเลสตัณหา 
สภาคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิกออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการแต่งกายที่สุภาพเรียบร้อยในปี 1930, 1954 และ 1957 แต่ตั้งแต่นั้นมาก็เงียบไปเพราะผู้คนไม่ฟังอีกต่อไป พระเจ้าทรงยอมให้เราถูกลงโทษโดยการไม่ยอมฟังเสียงของสภาคำสอนในวันนี้ สำหรับบาปที่ไม่เชื่อฟังสภาคำสอน สิ่งนี้คล้ายกับวิธีที่พระเจ้าตอบสนองต่อจิตใจที่แข็งกระด้างของผู้คนในพันธสัญญาเดิม เพื่อเป็นการลงโทษ,พระเจ้าไม่ได้ส่งประกาศกเป็นเวลาสี่ร้อยปีหลังจากที่ชาวยิวได้สังหารและปฏิเสธประกาศกหลายคนที่พระองค์ทรงส่งมาก่อนหน้านี้ 
ที่มา: Our Lady of Fatima Stressed... Modesty in Dress

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

การจำศีลอดอาหาร


เมื่อใดก็ตามที่บุคคลต้องการบรรลุความเป็นเลิศฝ่ายจิต,การปฏิเสธตนเองเป็นสิ่งจำเป็น
>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

สระน้ำซีโลอัม



สถานที่ที่มีชื่อเสียงซึ่งมีชื่ออยู่ในพระธรรมใหม่และเป็นที่ที่พระเยซูคริสต์ทรงรักษาคนตาบอดได้ถูกค้นพบในการขุดค้นทางโบราณคดี 
สระน้ำซีโลอัม(Siloam) ถูกค้นพบหลังจากถูกทรายปกคลุมอยู่ในทะเลทรายมานานกว่า 2,000 ปี สระน้ำแห่งนี้อยู่ในกรุงเยรูซาเลมซึ่งถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราช ภายใต้รัชสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์ สระน้ำถูกค้นพบโดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานโบราณวัตถุแห่งอิสราเอล หน่วยงานอุทยานแห่งชาติแห่งอิสราเอล และมูลนิธิเมืองเดวิด การค้นพบนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคริสตชน
ยอห์น 9 : 6 – 41 
ชายตาบอดได้รับการรักษาจากพระเยซู โดยพระองค์เอาโคลนทาตาของเขา แล้วให้เขาไปล้างที่สระสิโลอัม แล้วเขาก็หายดี 
สิ่งที่เราเห็นได้ว่าชายคนนี้เป็นโรคตาบอดแต่กำเนิด เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้าสูงสุด และเขาได้ประกาศให้บรรดาฟาริสีรู้ทั่วกันว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเมสสิยาห์ 
มากกว่านั้น ชายคนนั้นยัง เข้าใจถึงพระวาจาที่แท้จริงของพระเจ้า เมื่อเขาโต้ตอบกับฟาริสีและกล่าวว่า "เรารู้ว่าพระเจ้าไม่ทรงฟังคนบาป แต่ทรงฟังคนที่ยำเกรงพระองค์และทำตามพระทัยของพระองค์ ” (31) 
และสุดท้าย ชายคนนั้นก็ได้ยืนหยัดและวางใจในพระเยซู ( 38 ) และเขาได้ถูกฟาริสีไล่ออกมา เสมือนหนึ่งถูกตราหน้าว่าไม่เชื่อฟัง หรือไม่ยอมรับสิทธิอำนาจของโมเสส เขาได้มีส่วนในการร่วมทนทุกข์กับพระคริสต์แล้ว เพราะความไว้วางใจในพระเยซูของเขา 
มีหลายเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิตเพื่อทำให้เราตอบสนองตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แม้เรายังไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความหมายอย่างไร แต่เราก็เลือกที่จะเชื่อและวางใจ ทำส่วนของเราด้วยความซื่อสัตย์ต่อไป และพระสัญญาของพระองค์ก็จะสำเร็จสมบูรณ์ในที่สุด

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

นักบุญมาร์กาเร็ต มารี ช่วยวิญญาณพระสงฆ์ในไฟชำระ


ขณะที่ฉันกำลังสวดภาวนาต่อหน้าศีลมหาสนิทในวันฉลองพระคริสตวรกาย(feast of Corpus Christi) จู่ๆก็มีบุคคลที่ถูกห่อหุ้มด้วยไฟมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน จากสภาพที่น่าเวทนาซี่งวิญญาณอยู่ในนั้น,ฉันก็รู้ว่าเขากำลังอยู่ในไฟชำระและฉันก็ร้องไห้อย่างขมขื่น 
วิญญาณนี้บอกฉันว่าเขาเป็นพระสงฆ์ในคณะเบเนดิกติน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยฟังการสารภาพบาปของฉันและสั่งให้ฉันไปรับศีลมหาสนิท เพื่อเป็นรางวัลสำหรับสิ่งนี้,พระเจ้าทรงอนุญาตให้เขามาขอให้ฉันช่วยเขาในความทุกข์ทรมานของเขา เขาขอให้ฉันทำทุกสิ่งเพื่ออุทิศให้เขา,ทุกสิ่งที่ฉํนควรทำหรือยอมรับทนทุกข์เป็นเวลาสามเดือน เมื่อได้การอนุญาตจากคุณแม่อธิการแล้ว,ฉันก็ทำตามที่เขาขอ 
เขาบอกฉันว่าสาเหตุใหญ่ที่สุดของความทุกข์ทรมานของเขาคือในช่วงชีวิตบนโลกของเขา,เขาสนใจเรื่องผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของพระเจ้า เพราะเขายึดติดกับชื่อเสียงที่ดีของเขามากเกินไป ข้อบกพร่องประการที่สองของเขาคือขาดความเมตตากรุณาต่อพี่น้องของเขา อย่างที่สามคือการยึดติดกับสิ่งต่างๆของโลก คงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะบรรยายถึงสิ่งที่ฉันต้องยอมรับด้วยความอดทนในช่วงเวลาสามเดือนนั้น 
เขา [พระสงฆ์] ไม่เคยจากฉันไปแลยและฉันเห็นเขาบ่อยๆ,ขณะที่ถูกไฟเผาไหม้อย่างเจ็บปวดสาหัสเช่นนี้ ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากคร่ำครวญและร้องไห้แทบไม่หยุดหย่อน คุณแม่อธิการของฉัน,สัมผัสถึงความน่าสงสาร,จึงบอกให้ฉันทำพลีกรรมอย่างหนัก,โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติตามพระวินัย . . ผ่านมาได้ 3 เดือน,ฉันเห็นวิญญาณของเขาเปล่งแสงด้วยความสุข, ความยินดี, และสิริรุ่งโรจน์. เขากำลังจะมีความสุขชั่วนิรันดร์ และเพื่อขอบคุณฉัน เขาบอกว่าเขาจะปกป้องฉันเมื่อเขาอยู่กับพระเจ้า” 
- นักบุญ มาร์กาเร็ต มารี อาลาก๊อก อัครสาวกแห่งดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์

วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566