พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2025 สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล

         & พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเขตเมืองซีซารียาแห่งฟิลิปและตรัสถามบรรดาศิษย์ว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” เขาทูลตอบว่า “บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเอลียาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์หรือประกาศกองค์ใดองค์หนึ่ง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็นใคร” ซีโมน เปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็นสุขเพราะไม่ใช่มนุษย์ที่เปิดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรงเปิดเผย เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้ ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”
(มัทธิว 16:13-19)








วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผลงานที่ถูกซ่อนไว้


             ผลงานศิลปะทางศาสนาที่ถูกซ่อนไว้ได้เปิดเผยออกมาเมื่อมีการบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ที่ประสูติของพระเยซู Church of the Nativity
            หนังสือพิมพ์ Time of Israel  ได้รายงานว่า  ผลงานศิลปะชิ้นนี้ทำด้วย ทองแดง เงิน  เปลือกหอย และหิน  มันถูกปิดทับด้วยปูนปลาสเตอร์และพบอยู่ใกล้หน้าต่างของโบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นโดยคำสั่งของจักรพรรดิคอนสแตนตินและพระมารดาของพระองค์  ราชินีเฮเลนา ในคริสต์ศตวรรษที่ 4  เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผลงานศิลปะนี้ถูกทำความสะอาดแล้ว  แต่จะยังไม่เปิดให้ชม และไม่มีรูปภาพใด  Ziad al-Bandak ชาวปาเลสไตน์ , ประธานที่ปรึกษาของ Christian Affairs กล่าวว่า “ผลงานศิลปะชิ้นนี้เป็นวัตถุทางศาสนาและประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่ามาก”
            โบสถ์ที่ประสูติของพระเยซูถูกสร้างขึ้นปกคลุมถ้ำที่พระเยซูทรงบังเกิด  ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของคริสตศาสนา  ปัจจุบันถูกขึ้นบัญชีโดยยูเนสโกว่าเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย  โบสถ์ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นเวลานานและต้องใช้เงินจำนวนมากในการบูรณะให้อยู่ในสภาพดี
            จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้ว  มีน้ำรั่วซึมจากหลังคาที่แตก  ทำให้แผ่นหินโมเซอิกภายในเสียหายจึงได้มีการซ่อมแซมใหม่เป็นครั้งแรก  จากที่ไม่ได้มีการแตะต้องมานานนับพันปี 
            แหล่งเงินทุนในการซ่อมแซมได้มาจากหลายแหล่ง  ได้แก่ จากส่วนเอกชนปาเลสไตน์  โรมันคาทอลิก  กรีกออร์โธดอกซ์ และโบสถ์อาร์เมเนียน  และเงินทำบุญจากประเทศอื่นๆ
            Al-Bandak กล่าวว่า “เงิน 8 ล้านดอลลาร์ถูกใช้ไปแล้ว  และยังต้องการเงินอีก 11 ล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินงานต่อ  โครงการนี้คงใช้เวลานานอย่างน้อย  3 ปี  เฟสแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เรามีความภูมิใจมากที่ได้ปกป้องทรัพย์สมบัติของชาติ ปกป้องประวัติศาสตร์ของเรา  และปกป้องอนาคตของเรา”

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญ-4

ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด Saint Peter Julian Eymard ได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
>>>อ่านต่อ 

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สาส์นแม่พระ2+25ก.พ.2016

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ก.พ. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในเวลาแห่งพระหรรษทานนี้  แม่กำลังเรียกพวกลูกทุกคนให้กลับใจ  ลูกน้อยทั้งหลาย  พวกลูกมีความรักเพียงเล็กน้อยและการสวดภาวนายิ่งมีน้อยกว่า  พวกลูกกำลังหลงทางและไม่รู้ว่าเป้าหมายของลูกคืออะไร  จงรับกางเขนเถิด  มองดูพระเยซูเจ้าและติดตามพระองค์  พระองค์ประทานพระองค์เองแก่พวกลูกด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  ก็เพราะพระองค์ทรงรักพวกลูก  ลูกน้อยทั้งหลาย  แม่กำลังส่งเสียงร้องเตือนพวกลูกว่า : จงหันกลับมาสู่การสวดภาวนาด้วยหัวใจ  เพื่อที่ลูกจะได้พบกับความหวังและความหมายของการมีชีวิตของลูก  ในการสวดภาวนา  แม่จะอยู่กับลูกและสวดภาวนาเพื่อลูก
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
 สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ก.พ. 2016
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่ขอเรียกให้พวกลูกมารู้จักกับพระบุตรของแม่อีกครั้ง ขอให้ลูกมารู้จักองค์ความจริง 
แม่อยู่กับพวกลูกและสวดภาวนาเพื่อพวกลูกเสมอ 
ลูกทั้งหลายของแม่  ลูกต้องสวดภาวนามากๆเพื่อที่ลูกจะได้มีความรักและความอดทนมากขึ้น  และจะได้รู้จักที่จะเสียสละทำพลีกรรมและมีความยากจนในจิตใจ 
โดยอาศัยพระจิตเจ้า  องค์พระบุตรของแม่ทรงอยู่กับพวกลูกเสมอ 
พระศาสนจักรของพระองค์บังเกิดในหัวใจทุกดวงที่มารู้จักพระองค์ 
จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้รู้จักพระองค์เถิดและจิตวิญญาณของลูกจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ 
นั่นคือการสวดภาวนาและความรักซึ่งจะดึงดูดผู้อื่นและทำให้ลูกเป็นอัครสาวกของแม่ 
แม่มองดูพวกลูกด้วยความรัก  ด้วยความรักเยี่ยงมารดา  แม่รู้จักพวกลูก  แม่รู้ถึงความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของพวกลูก 
เพราะแม่ก็เศร้าโศกอยู่อย่างเงียบๆเช่นกัน 
ความเชื่อของแม่ให้ความรักและความหวังแก่แม่ 
แม่ขอย้ำว่า  การกลับคืนชีพขององค์พระบุตรของแม่และการรับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ของแม่เป็นความหวังและความรักสำหรับพวกลูก 
เพราะฉะนั้น  ลูกๆทั้งหลายของแม่  จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้รู้จักความจริง  จะได้มีความเชื่อที่มั่นคงซึ่งจะนำทางหัวใจของพวกลูกและจะเปลี่ยนความเจ็บปวดและความทุกข์ของพวกลูกให้กลายเป็นความรักและความหวัง

ขอขอบใจลูก

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

พระพรการรู้ล่วงหน้า2

นักบุญแอนโทนี  มารีย์ คลาเรต์ (1807-1870) เป็นผู้ก่อตั้งคณะ the Missionary Sons of the Immaculate Heart of Mary (หรือเรียกอีกชื่อว่า Claretians)  ครั้งหนึ่งท่านจัดให้มีการเข้าเงียบเตรียมจิตใจสำหรับสัตบุรุษ  แต่ช่วงเวลานั้นเป็นฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลของชาวบ้าน และชาวบ้านต้องไปทำงานในทุ่งนาของพวกเขา  คุณพ่อได้ไปเยี่ยมแต่ละบ้านและชักชวนให้พวกเขามาร่วมเข้าเงียบเตรียมจิตใจ  ท่านบอกว่าพระเป็นเจ้าจะอวยพรพวกเขาถ้าพวกเขามาร่วม  ชาวบ้านหลายคนตอบปฏิเสธ  บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะพืชผลทั้งหมดอาจเสียหายได้ภายในวันเดียว  ในสถานการณ์เช่นนี้  คุณพ่อได้กล่าวทำนายว่า “ในนามของพระเป็นเจ้า  พ่อขอบอกพวกคุณว่า  ถ้าพวกคุณมาร่วมในการเตรียมจิตใจครั้งนี้  ต้นข้าวสาลีจะให้ผลมากมาย  ฝนและพายุจะไม่มาทำลาย  แต่ถ้าพวกคุณไม่มาร่วมงาน  พืชผลของพวกคุณก็จะเสียหาย”  ด้วยคำทำนายนี้ คุณพ่อจึงสามารถดำเนินกิจการงานของท่านต่อไปได้  มีชาวนาและคนงานมาร่วมมากมาย   แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่มา  สองวันต่อมา  ชาวนาที่ไม่มาร่วมงานก็ได้เห็นพืชผลที่เขาปลูกไว้ถูกทำลายจนราบเรียบจากพายุหนักที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว  แต่ในที่นาของชาวนาที่มาร่วมงานกลับไม่ได้รับความเสียหาย มิหนำซ้ำต้นข้าวสาลีของพวกเขายังออกรวงมีเมล็ดข้าวมากกว่าแต่ก่อนด้วย  เป็นไปตามคำทำนายของคุณพ่อ คลาเรต์
คำทำนายอีกอันหนึ่งของคุณพ่อเกิดขึ้นที่สังฆมณฑลวิค ในสเปน  คู่สามีภรรยา  โจเซ่  โรวิรา และ โรซ่า  มาลาตส์ พวกเขามีลูกสาวสองคน  คนหนึ่งตายตั้งแต่ยังเล็ก  ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อ แคนดีดา  เธอปรารถนาจะเข้าอารามเป็นนักบวชและได้บอกความปรารถนาให้พ่อแม่ทราบ  พ่อแม่ขอให้เธอคิดทบทวนดู  พ่อได้พาลูกสาวมาปรึกษากับพระสงฆ์ชื่อ Father Canals ซึ่งเป็นอธิการของคณะคาร์เมไลท์แห่งวิค  ท่านได้พูดคุยสอบถามแคนดีดา  และได้เห็นถึงความยากจนและอายุของผู้เป็นพ่อ  ท่านจึงรู้สึกลังเลใจ  เพราะพ่อแม่ปรารถนาให้ลูกสาวอยู่กับพวกเขาดูแลพวกเขาในยามแก่ชรา  คุณพ่อคานาลรู้เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่อคลาเรต์  ท่านจึงส่งพวกเขาไปหาคุณพ่อคลาเรต์  หลังจากคุณพ่อคลาเรต์สอบถามผู้เป็นลูกสาวแล้ว  ท่านสวดภาวนาและพูดกับผู้เป็นพ่อโดยกล่าวทำนายว่า  “เป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า  ที่จะให้แคนดีดาเข้าเป็นนักบวช  จงอย่าวิตกกังวลไปเลย  เพราะภายในหนึ่งปี  พระเป็นเจ้าจะทรงอวยพรพวกคุณให้ได้ลูกชายคนหนึ่ง  เขาจะเป็นผู้ปลอบประโลมใจของคุณในยามที่คุณแก่ชรา”  ผู้เป็นพ่อฟังแล้วก็ยิ้ม  เพราะรู้ดีว่าภรรยาของเขาหมดเวลาที่จะมีลูกได้แล้ว  แต่เขาก็ตอบคุณพ่อคลาเรต์ว่า “ถ้าในหนึ่งปีนี้ผมมีลูกชาย  เราจะอนุญาตให้ลูกสาวของเราเข้าคอนแวนต์ครับ” และก็เป็นไปตามคำทำนาย  ปีถัดมาพวกเขาก็ได้ลูกชาย  คนทั้งเมืองรู้เรื่องเกี่ยวกับคำทำนายนี้  และถือว่านี่เป็นการกำเนิดที่อัศจรรย์  แคนดีดาได้เข้าเป็นคาร์เมไลท์ชั้นที่สาม  ส่วนน้องชายของเธอก็เติบโตเป็นคนที่ดูแลพ่อแม่ในยามแก่ชราตามที่คุณพ่อคลาเรต์ทำนายไว้