พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฏาคม 2024 พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาที่เมืองนาซาเร็ธ

           พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นกลับไปยังถิ่นกำเนิดของพระองค์ บรรดาศิษย์ติดตามไปด้วย ครั้นถึงวันสับบาโตพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในศาลาธรรม ผู้ฟังมากมายต่างประหลาดใจ และพูดว่า “เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน ปรีชาญาณที่เขาได้รับมานี้คืออะไร อะไรคืออัศจรรย์ที่สำเร็จด้วยมือของเขา คนนี้เป็นช่างไม้ ลูกนางมารีย์ เป็นพี่น้องของยากอบ โยเสท ยูดาและซีโมนไม่ใช่หรือ พี่สาวน้องสาวของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” คนเหล่านั้นรู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติ และในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่ได้ นอกจากทรงปกพระหัตถ์รักษาผู้เจ็บป่วยบางคนให้หายจากโรคภัย พระองค์ทรงแปลกพระทัยที่เขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ
(มาระโก 6:1-6)








วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

ทำไมปีศาจจึงเกลียดแม่พระมาก

จิตวิญญาณข้าพเจ้าถวายสดุดีพระเป็นเจ้า
จิตใจข้าพเจ้ายินดีในพระเป็นเจ้า  พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า
เพราะพระองค์ทอดพระเนตรความต่ำต้อยของข้าบริการของพระองค์
แต่นี้ไป มนุษย์ทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่าเป็นผู้มีบุญ
 
....................อ่านต่อ...........

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

การแพร่ธรรม



 “ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา  ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต” มัทธิว 28:19
และอัครสาวกของพระเยซูเจ้าก็ได้เดินทางไกลยังสถานที่ต่างๆเพื่อประกาศพระวรสาร  คริสต์ศาสนาได้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง  เป็นพลวัติที่สำคัญในประวัติศาสตร์  ในวีดีโอนี้แสดงให้เห็นการแพร่กระจายของคริสต์ศาสนาในแต่ยุคสมัย  โดยแต่ละเฟรมของวีดีโอเท่ากับหนึ่งปี และสิ้นสุดที่ปี 2000  วีดีโอจัดทำโดย westernconversatory.com  อัครสาวกและบรรดามิชชันนารีได้เดินทางไปทั่วโลก  ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์  ท่านเหล่านั้นต้องเผชิญกับการเบียดเบียนและความยากลำบากมากมาย  ต้องเสียชีวิตเพื่อยืนยันความเชื่อของท่าน  อนาคตต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับพวกเราที่เป็นคริสตชนที่จะสานต่องานของมิชชันนารีเหล่านี้

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

ฝนกลีบกุหลาบ

หลังจากที่อัครสังฆราชในฟิลิปปินส์ได้ประกาศรับรองการประจักษ์ที่ลิปา(ในปี 1948) อย่างเต็มรูปแบบโดยได้รับอนุญาตจากทางสันตสำนักแล้ว  ก็เกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้น....อ่านต่อ 

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

ชาวอิยิปต์ฉลองแม่พระเสด็จสู่สวรรค์


วันฉลองแม่พระได้รับเกียรติขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค. 2015 ที่ผ่านมา  ในประเทศอียิปต์มีประชาชนจำนวนมากไมเพียงแต่คริสตชนเท่านั้นแต่ชาวมุสลิมได้ร่วมฉลองแม่พระด้วย
การฉลองแม่พระถูกจัดขึ้นโดยคริสตชนคอปติกออร์โธดอกซ์ในอียิปต์  ตั้งแต่วันพฤหัสบดี  ,วันศุกร์ และวันเสาร์  มีรายการทางวิทยุหลายแห่งได้กระจายข่าว “วันฉลองพระนางพรหมจารีย์มารีย์” และแถลงว่า  “ไม่เพียงแต่คริสตชนของอิยิปต์เท่านั้นแต่รวมทั้งพวกเราชาวอิยิปต์ทั้งหมดที่นับถือพระนางมารีย์ (ชาวมุสลิมเรียกแม่พระว่า Sitana Mariam ) พระนางเป็นสตรีที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลก”
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ Al-Qahira (Cairo), ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงบทความและรูปภาพเต็มหน้าของพระนางมารีย์ “เพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จสู่สวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระนางมารีย์"
สมาชิกของบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “เราไม่ค่อยแน่ใจนักเกี่ยวกับรูปภาพของพระนางมารีย์  เพราะทั้งๆที่เรารู้ว่าชาวอิยิปต์ทั้งมุสลิมและคริสตชนมีความรักและนับถือพระนางมารีย์เป็นอย่างสูง  เราไม่แน่ใจว่าชาวมุสลิมส่วนใหญ่จะรู้สึกดีหรือไม่เกี่ยวกับรูปภาพ  มีบางรูปที่เป็นรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขนรวมอยู่ด้วย”
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่ประสงค์ให้เปิดเผยชื่อกล่าวเกี่ยวกับรูปภาพ “เราไม่สามารถละเลยรูปภาพบางรูปซึ่งพระนางมารีย์กำลังอุ้มพระเยซูอยู่”
ในสมัยการปกครองของประธานาธิบดีฮอสนี  มูบารัค  ทางรัฐบาลได้เลือกวันคริสต์มาสให้เป็นวันหยุดของชาติ แทนที่จะเป็นวันอิสเตอร์  ซึ่งเป็นวันฉลองสำคัญที่สุดของคอปติกออร์โธดอกซ์ในอิยิปต์
สาเหตุในเรื่องนี้เป็นเพราะ  ประวัติการบังเกิดของพระเยซูในคัมภีร์ของมุสลิมและคริสต์นั้นตรงกัน  แต่ประวัติการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูของทางมุสลิมนั้นไม่เหมือนกัน  ชาวมุสลิมเชื่อว่าพระเยซูได้รับการยกขึ้นสวรรค์จากพระเป็นเจ้าและพระองค์ไม่ได้ถูกตรึงกางเขน