พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 สมโภชพระจิตเจ้า

           ค่ำวันนั้นซึ่งเป็นวันต้นสัปดาห์ ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกันปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็มีความยินดี พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”
           ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
(ยอห์น 20:19-23)








วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

เสื้อคลุมประวัติศาสตร์


วันที่ 13 พฤษภาคม 1981 ซึ่งเป็นวันฉลองแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา และยังเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารนักบุญพระสันตปาปายอห์น ปอลที่ 2 ด้วย ในปีถัดมา,พระสันตปาปาเสด็จไปยังฟาติมาเพื่อขอบคุณพระนางมารีย์พรหมจารีย์ที่ช่วยชีวิตพระองค์ไว้ และพระสันตปาปาทรงนำกระสุนที่เจาะทะลุพระองค์ไปใส่ไว้ในมงกุฎที่สวมพระรูปแม่พระฟาติมา 
เสื้อคลุมคาสซอค(cassock)ที่เปื้อนเลือดซึ่งพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 สวมในวันนั้นได้รับการเก็บรักษาไว้ที่เมืองคราคูฟ ประเทศโปแลนด์  

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ภาพยนตร์บารับบาส


ในปี 1961 ภาพยนตร์เรื่อง บารับบาส (Barabbas) ได้ถ่ายทำถาพยนตร์ในขณะที่เกิดสุริยุปราคาขึ้น ภาพยนตร์ถ่ายทำในอิตาลี ในวันที่ 15 กุมภาพันธุ์ 1961 ริชาร์ด เฟรเชอร์เป็นผู้อำนวยการภาพยนตร์ นับเป็นเพียงครั้งเดียวที่สามารถทำได้ และเพื่อให้ดูสมจริง,เขาจึงยอมเลื่อนเวลาให้ตรงกับเวลาที่เกิดสุริยุปราคาครั้งนี้  

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พระเจ้าทรงดูแล


มีเรื่องราวเล่าว่ากลุ่มร็อคกี้เฟลเลอร์,มหาเศรษฐีของอเมริกา,จงใจวางรูปปั้น Atlas (ลูกโลก) ไว้ตรงข้ามกับมหาวิหารเซนต์แพทริคในนิวยอร์ก เป็นสัญลักษณ์ถึงความยากลำบากของมนุษย์ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า เพื่อเป็นการตอบสนองต่อสิ่งนี้, พระอัครสังฆราช ซึ่งน่าจะเป็นพระคาร์ดินัลเฮย์ส (Cardinal Hayes)ได้สร้างรูปปั้นพระกุมารเยซูแห่งปราก ทรงถือลูกโลกไว้ในพระหัตถ์ แสดงถึงความใส่พระทัยของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์และทรงช่วยเหลือดูแลเสมอ 

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

นักบุญโยเซฟองค์อุปถัมภ์ของคนยากจน


นักบุญโยเซฟไม่เพียงแต่ช่วยเหลือพระสงฆ์หรือนักบวชเท่านั้น แต่ท่านยังช่วยเหลือคนยากจนทุกคนที่เข้ามาลี้ภัยในท่านด้วยความมั่นใจ มีบันทึกตัวอย่างมากมายที่นักบุญโยเซฟช่วยเหลือคนยากจนและคนขัดสนในลักษณะที่ยอดเยี่ยมที่สุด คนยากจนควรเคารพและวิงวอนท่านนักบุญโยเซฟเป็นพิเศษเมื่อประสบปัญหา ท่านจะไม่ปล่อยให้ผู้ที่ไว้วางใจในท่านต้องสับสน ขณะอยู่บนโลกนี้ นักบุญโยเซฟเองก็ประสบความยากลำบากจากความยากจน ดังนั้นเวลานี้ท่านจึงเป็นองค์อุปถัมภ์คนยากจนที่ดีและมีอำนาจมาก 
ที่มา: Favorite Prayers to St. Joseph 

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ความเกลียดชังในบาป


มีเรื่องราวหนึ่งเกี่ยวกับนักบุญยอห์น เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอารส์ ท่านฟังสารภาพบาปของผู้คนจำนวนมาก และขณะที่ชายผู้หนึ่งกำลังสารภาพบาปของเขา นักบุญยอห์น เวียนเนย์ก็เริ่มร้องไห้ และชายคนนั้นก็ถามนักบุญว่า “ทำไมคุณพ่อจึงร้องไห้?” ท่านตอบว่า “พ่อร้องไห้ เพราะลูกไม่ได้มีความเกลียดชังในบาป” 
เราก็อาจไม่มีความเกลียดชังในบาป,อย่างเช่นบาปเบา เรามักมีท่าทีแบบนี้ “ผมรู้ว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งผิด แต่มันก็ไม่เลวร้ายอะไร มันไม่ได้เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ผมไม่ได้ไปนรกด้วยบาปนี้” ให้เราระลึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าตรัสไว้ในพระวรสาร “ท่านต้องรักพระเจ้าของท่านด้วยสิ้นสุดจิตใจ สิ้นสุดวิญญาณ และสิ้นสุดกำลัง”
ให้เราพยายามหลีกเลี่ยงบาปทุกชนิดไม่ว่าจะหนักหรือเบาเพื่อพระเจ้า พยายามทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ศักดิ์ศรีของพระสงฆ์


คุณพ่อบอสโกพูดถึงพระสงฆ์ไว้ดังนี้ 
“ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ดีเลิศไปกว่าศักดิ์ศรีของพระสงฆ์” - (นักบุญแอมโบรส) 
พ่อเป็นพระสงฆ์ ศักดิ์ศรีของพ่ออยู่เหนือกว่าทูตสวรรค์ บรรดาปิตาจารย์ทั้งหมด, นักปราชญ์ของพระศาสนจักรทุกคนล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันในการเชิดชูศักดิ์ศรีอันล้ำเลิศของพระสงฆ์ นักบุญอิกนาเชียสมรณะสักขีกล่าวว่า “ฐานะพระสงฆ์อยู่จุดสูงสุดแห่งศักดิ์ศรีของสิ่งสร้างทั้งหมด” นักบุญเอฟเรมเรียกสิ่งนี้ว่าศักดิ์ศรีอันไม่มีที่สิ้นสุด ผู้เขียนอีกคนหนึ่งซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนักบุญออกัสติน,กล่าวว่า: "โอ พระสงฆ์ของพระเจ้า จงประหลาดใจในความสูงส่งแห่งสวรรค์ของท่านเถิด แต่จงรู้ว่าท่านถูกยกให้สูงขึ้น จงชื่นชมกับความอลังการของบัลลังก์ที่สูงส่งที่สุด แต่ท่านยังประเสริฐยิ่งกว่า พระเจ้า,ผู้ทรงสร้างท่านเท่านั้นที่อยู่สูงกว่าท่าน” 
นักบุญยอห์น เวียนเนย์กล่าวว่า: "ถ้าพระสงฆ์เข้าใจ ว่าเขาเป็นอะไร, เขาจะตาย" 
“ความศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์คือตำแหน่งที่มอบให้กับพระสงฆ์” นักบุญซีริลแห่งอเล็กซานเดรีย กล่าว
พระสงฆ์ถวายเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้า โดยพิธีมิสซาเพียงครั้งเดียว,พระสงฆ์ถวายเกียรติแด่พระเจ้ามากกว่าที่ทูตสวรรค์และนักบุญทุกองค์ในสวรรค์มอบให้พระองค์ ไม่เว้นแม้แต่พระแม่มารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ เพราะบุคคลทั้งหมดนี้ร่วมกันไม่สามารถถวายการนมัสการอันไม่มีที่สิ้นสุดแด่พระเจ้าได้เหมือนดังที่พระสงฆ์ถวายแด่พระองค์เมื่อเขาประกอบพิธีมิสซา  
ที่มา: Don Bosco And The Priesthood Vol. 2 

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท


โดย-Fr.Jewel Aytona, CPM
หัวใจของเราควรลุกไหม้ด้วยความเร่าร้อนด้วยความรักต่อพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทเหมือนกับบรรดานักบุญ เหมือนกับจิตใจของพวกท่าน 
นักบุญคัทรีนแห่งเจนัวเคยกล่าวว่า “ถ้าฉันต้องเดินเป็นไมล์ๆบนถ่านไฟที่ร้อนเพื่อไปรับพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท ฉันขอบอกว่านั่นเป็นเรื่องง่ายมาก, เหมือนกับการเดินไปบนพรมที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ” 
นักบุญยอห์น เวียนเนย์เคยกล่าวว่า “ถ้าเรารู้ว่าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิททรงรักเรามากสักเพียงใด เราจะตายด้วยความสุขอันล้นเหลือ” 
นักบุญยอห์น คริสซอสโตมเคยกล่าวว่า “พวกท่านพูดกันบ่อยๆว่า เราอยากเห็นพระพักตร์ของพระองค์ เห็นเสื้อคลุม,เห็นรองเท้าของพระองค์ พวกท่านได้เห็นพระองค์แล้ว ท่านได้สัมผัสพระองค์,ท่านได้รับพระองค์ พระองค์ทรงประทานแก่ท่านไม่เพียงแต่ให้ท่านเห็นพระองค์ แต่ยังทรงเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงดูท่านด้วย” 

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

คำสารภาพของนักบุญออกัสติน


บาปของข้าพเจ้าเป็นอย่างนี้คือ ข้าพเจ้าแสวงหาความพึงพอใจ,ความสวยงาม,และไม่แสวงหาความจริงในพระองค์แต่แสวงหาในตัวข้าพเจ้าเองและในสิ่งสร้างอื่นๆของพระองค์ และการแสวงหานั้นนำข้าพเจ้าไปสู่ความเจ็บปวด,ความสับสน,และความผิดพลาด 
- นักบุญออกัสติน 

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ประโยชน์ของการอดอาหาร


การอดอาหารให้ประโยชน์ทั้งฝ่ายวิญญาณและร่างกาย
สติปัญญาจะแจ่มใสขึ้นโดยการเข้มงวดในอาหารของเรา ที่ราชสำนักของกษัตริย์เนบูคัดนัสซอร์, ดาเนียลกินแต่ผักและดื่มน้ำ และเขาก็มีความเข้าใจ, มีความรู้, และสติปัญญามากกว่านักปราชญ์ทุกคนในอาณาจักร (Dan. 1.) การอดอาหารทำให้จิตวิญญาณเข้มแข็งขึ้นและทำให้ร่างกายอยู่ภายใต้การควบคุม (1 คร. 9. 27) และเอาชนะการล่อลวงของปีศาจได้ ศัตรูจะยอมจำนนเมื่อเราทำการอดอาหาร; ดังนั้นร่างกายภายใต้ความหิวโหยจึงยอมจำนนต่อความตั้งใจและความเข้าใจ ร่างกายของเราจะเชื่องเหมือนสัตว์ป่าที่ถูกฝึก ปีศาจถือว่าเนื้อหนังเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดของมัน มันรู้ดีว่าศัตรูที่อยู่ข้างกองไฟสามารถทำร้ายมันได้อย่างเลวร้ายที่สุดและร้ายแรงที่สุด โดยการอดอาหารเราได้ทำให้ศัตรูของเราถูกใส่กำไลเหล็ก เพื่อที่มันจะไม่สามารถทำสงครามกับเราได้ นกล่าเหยื่อชอบของรางวัลอันอ้วนพี เขาไม่เอานกที่อดอาหารครึ่งตัวเป็นล่อเหยื่อ นักกีฬาที่ "งดเว้นในทุกสิ่ง" (1 คร. 9. 25) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้รับชัยชนะ 
คุณธรรมระดับสูงได้มาจากการอดอาหารเช่นกัน มันทำให้มนุษย์โน้มเอียงในการสวดภาวนา ช่วยให้เอาชนะใจตนเองได้ มีความอ่อนโยน อดทน และบริสุทธิ์ มันทำให้เขาดูเหมือนทูตสวรรค์,ผู้ซึ่งไม่กินหรือดื่ม 
 ในสัดส่วนเดียวกันที่ความต้องการของธรรมชาติร่างกายลดลง ธรรมชาติฝ่ายวิญญาณของเราก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น เหมือนตาชั่งแห่งความสมดุล เมิ่อข้างหนึ่งต่ำลง อีกข้างหนึ่งก็สูงขึ้น สุขภาพของเราดีขึ้นและชีวิตของเรายืนยาวขึ้นด้วยการมีความพอประมาณ นั่นคือการเป็นผู้ปกครองของการมีสุขภาพที่ดี พวกฤาษีในทะเลทรายถือศีลอดอาหารอย่างเคร่งครัด และมีอายุยืนยาวถึงร้อยปี 
นักปราชญ์กล่าวว่า: "ผู้ที่รู้จักพอประมาณย่อมมีอายุยืนยาว" (ปัญญาจารย์ 37. 34) โดยการอดอาหารเราได้รับการอภัยบาปจากพระเจ้า พระเจ้าทรงฟังและตอบคำอธิษฐานของผู้อดอาหาร พระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของนายร้อยซึ่งอดอาหารจนถึงชั่วโมงที่เก้า (กิจการ 10 30) และส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาหาเขา 
การละเว้นจากอาหารจะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าก็ต่อเมื่อเราละเว้นจากบาปและกระทำความดีเท่านั้น 
ที่มา: The Catechism Explained 

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567