พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงทำให้พายุสงบ

           เย็นวันเดียวกันนั้น พระเยซูเจ้าตรัสสั่งบรรดาศิษย์ว่า “เราจงข้ามไปทะเลสาบฝั่งโน้นกันเถิด” บรรดาศิษย์จึงละประชาชนไว้ และออกเรือที่พระองค์ประทับอยู่นั้นไป มีเรือลำอื่นๆ ติดตามไปด้วย ขณะนั้นเกิดพายุแรงกล้า คลื่นซัดเข้าเรือจนน้ำเกือบจะเต็มเรืออยู่แล้ว พระองค์บรรทมหลับหนุนหมอนอยู่ที่ท้ายเรือ บรรดาศิษย์จึงปลุกพระองค์ ทูลถามว่า “พระอาจารย์ พระองค์ไม่สนพระทัยที่พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้วหรือ” พระองค์จึงทรงลุกขึ้น บังคับลม ตรัสสั่งทะเลว่า “เงียบซิ จงสงบลงเถิด” ลมก็หยุด ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง แล้วพระองค์ตรัสถามเขาว่า “ตกใจกลัวเช่นนี้ทำไม ท่านยังไม่มีความเชื่อหรือ” เขาเหล่านั้นกลัวมาก พูดกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้
(มาระโก 14ซ35-41)








วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

มีความสัมพันธ์ที่ดีกับวิญญาณในไฟชำระ


เรื่องนี้เล่าโดยคุณพ่อโดลินโด(Fr.Dolindo พระสงฆ์ชาวอิตาลี) เกี่ยวกับชายคนหนึ่งซึ่งมักสวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระเสมอ 
วันหนึ่งนักค้าอัญมณีคนหนึ่งตัดสินใจนำเพชรที่มีราคาแพงที่สุดของเขากลับไปบ้านด้วย ขณะที่เดินกลับบ้าน,เขาสวดสายประคำเพื่อวิญญาณในไฟชำระ เมื่อเดินไปถึงตรอกที่นำไปสู่บ้านของเขา,เขาเห็นขโมยหลายคนกำลังหลบซ่อนรออยู่ เขารีบสวดภาวนาเพื่อขอให้วิญญาณในไฟชำระปกป้องเขา มีโบสถ์เล็กๆอยู่ในตรอกนี้ ทันใดนั้นประตูโบสถ์ก็เปิดออก และมีขบวนแห่ของประชาชนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวที่มีผ้าคลุมศีรษะ พวกเขากำลังร้องเพลงราวกับว่ากำลังร่วมในพิธีปลงศพ ผ้าคลุมศีรษะนั้นปกคลุมใบหน้าพวกเขาด้วยเหลือแต่เพียงช่องดวงตาและปากเท่านั้น นักอัญมณีจึงตัดสินใจไปเข้าร่วมในขบวนแห่นั้นด้วย ในที่สุดเขาก็สามารถกลับไปถึงบ้านได้ เขาเล่าให้ภรรยาฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ภรรยารู้สึกงุนงงเพราะเธอคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ทุกอย่างทางหน้าต่างและมองเห็นแต่เพียงสามีของเธอเท่านั้น พวกเขาจึงตระหนักว่าขบวนแห่นั้นเป็นขบวนแห่ของบรรดาวิญญาณในไฟชำระ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น