พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฏาคม 2024 พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาที่เมืองนาซาเร็ธ

           พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นกลับไปยังถิ่นกำเนิดของพระองค์ บรรดาศิษย์ติดตามไปด้วย ครั้นถึงวันสับบาโตพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในศาลาธรรม ผู้ฟังมากมายต่างประหลาดใจ และพูดว่า “เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน ปรีชาญาณที่เขาได้รับมานี้คืออะไร อะไรคืออัศจรรย์ที่สำเร็จด้วยมือของเขา คนนี้เป็นช่างไม้ ลูกนางมารีย์ เป็นพี่น้องของยากอบ โยเสท ยูดาและซีโมนไม่ใช่หรือ พี่สาวน้องสาวของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” คนเหล่านั้นรู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติ และในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่ได้ นอกจากทรงปกพระหัตถ์รักษาผู้เจ็บป่วยบางคนให้หายจากโรคภัย พระองค์ทรงแปลกพระทัยที่เขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ
(มาระโก 6:1-6)








วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2560

ชีวิตคริสตชนต้องเป็นการต่อสู้กับปีศาจอยู่เสมอ


VATICAN CITY (CNS) —พระสันตปาปาฟรังซิสตรัสเทศน์สอนระหว่างพิธีมิสซาที่วัดน้อยนักบุญมาร์ทาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2017 ว่า การเข้าใกล้พระคริสต์มากขึ้นหมายถึงการต้องต่อสู้กับการประจญล่อลวงและต่อสู้กับปีศาจทุกวัน
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเข้าใกล้ประชาชนที่มาฟังพระองค์และรับการรักษาโรคจากพระองค์ “จิตที่สกปรกพยายามหยุดยั้งประชาชนเหล่านั้น  มันเริ่มทำสงคราม”  เหตุใดประชาชนที่แสวงหาและติดตามพระเยซูเจ้าจึงเผชิญกับอุปสรรค
พระสันตะปาปาตรัสว่า จากพระวรสารประจำวัน มาร์โก 3:7-12 ทำให้เราอยากรู้ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร  จิตสกปรกเหล่านั้นร้องตะโกนต่อพระเยซูว่า”ท่านเป็นบุตรของพระเจ้า”  เมื่อประชาชนจำนวนมากมาดู ฟังพระเยซูเจ้า  และรับการรักษาโรคจากพระองค์
 “นี่เป็นความจริง นี่เป็นความรู้สึกของประชาชนแต่ละคนเมื่อพระเยซูเจ้ามาใกล้พวกเขา”
“คนที่บอกว่าเขาไม่เคยถูกประจญนั้น ไม่ใช่คริสตชน พวกเขาเป็นพวกที่นับถือรูปเคารพ หรือนับถือผีปีศาจ”
เมื่อพระเป็นเจ้าดึงดูดประชาชนโดยทางพระเยซูเจ้า ปีศาจก็พยายามดึงพวกเขาไปทางอื่น “และมันทำสงครามในจิตใจของเรา” พระสันตะปาปาตรัส “เพราะเหตุนี้นักบุญเปาโลจึงพูดว่าชีวิตคริสตชนคือการทำสงคราม ทุกๆวัน”
 “พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อมีชัยชนะในสงคราม “เพื่อทำลายซาตาน ทำลายอิทธิพลของมันในหัวใจของพวกเรา”
เราต้องเลือกว่า  ต้องการความสะดวกสบาย สิ่งที่ง่ายๆ และชีวิตที่เงียบสงบ หรือต้องการให้หัวใจของเขา “รู้สึกว่าต้องทำสงครามกับปีศาจ” และช่วยพระเยซูเจ้าให้ได้รับชัยชนะ?
“ให้เราพิจารณาเกี่ยวกับจิตใจของเรา  เรารู้สึกถึงสงครามนี้หรือไม่?”  และปรารถนาที่จะรับใช้พระเจ้า สวดภาวนา  สรรเสริญพระบิดาและทำสิ่งที่ดีงามหรือไม่?  หรือมีบางสิ่งที่มาหยุดยั้งเราไว้และหันเหเราด้วยการประจญจากความสะดวกสบายและความบันเทิงต่างๆ?”

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

ปีศาจมีอยู่จริง

พระอัครสังฆราชเอริโอ คาสเตลลุกซี พูดถึงคนที่คิดว่าปีศาจไม่มีอยู่จริง  ท่านกล่าวว่า “พวกเขาคิดผิด”
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

พระนางมารีย์ยอดสตรีเหนือใครทั้งปวง

พระนางมารีย์ทรงเป็นที่รักยิ่งของพระเป็นเจ้า  พระบิดา  พระบุตร และพระจิต
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

พระสันตปาปาส่งสาส์นถึงทรัมป

 
Vatican Radio : พระสันตปาปาฟรังซิสทรงส่งสาสน์แสดงความปรารถนาดีแก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในโอกาสการสาบานเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.2017 ใจความในสาส์นของพระสันตปาปาบางตอนมีดังนี้
“ในเวลาที่ครอบครัวมนุษยชาติของเรากำลังตกอยู่ในวิกฤตการณ์อันยากลำบากนี้  ได้เรียกร้องความรับผิดชอบและการมองการณ์ไกลจากทางฝ่ายการเมือง  ข้าพเจ้าสวดภาวนาขอให้การตัดสินใจของท่านจะได้รับการนำทางโดยจิตสำนึกที่สูงส่งและคุณค่าของคุณธรรม  ที่ซึ่งได้ก่อรูปร่างในประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวอเมริกันและพันธกรณีแห่งชาติของท่านที่จะส่งเสริมศักดิ์ศรีของมนุษย์และอิสระเสรีภาพของโลก”
“ภายใต้ความเป็นผู้นำของท่าน ขอให้เกียรติภูมิของอเมริภาจงดำรงอยู่ต่อไปและเจริญยิ่งขึ้นในด้านความเอาใจใส่ต่อบรรดาคนยากจน,คนที่ถูกขับไล่และคนที่ต้องการความช่วยเหลือผู้เป็นเหมือนลาซารัส  นั่นคือกำลังนอนอยู่ที่ปากประตู”

สาส์นของแม่พระแห่งซานนิโคลัสได้รับการรับรอง


การประจักษ์ของแม่พระแห่งสายประคำแห่งซานนิโคลัสได้รับการรับรองว่าเป็น “สิ่งเหนือธรรมชาติ” และมีค่าต่อการเชื่อถือ โดยพระสังฆราช Hector Sabatino Cardelli of San Nicolas de los Arroyos ของประเทศอาร์เจนตินา

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

อิตาลีจะกลายเป็นประเทศมุสลิม?


ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมที่เข้ามาในอิตาลีก่อความเดือดร้อนวุ่นวายมากมายให้แก่ชาวอิตาลี  แต่รัฐบาลก็ยังคงเปิดประเทศให้แก่พวกเขา

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560