ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ตำรวจ SS ของเยอรมนีได้สังหารผู้ชายผู้หญิงและเด็กกว่าล้านคน พวกเขาถูกยิงเสียชีวิตในเมืองและหมู่บ้านของตนเองทั่วยุโรปตะวันออก พวกเขาทำสิ่งชั่วร้ายต่อเพื่อนมนุษย์อย่างอมหิตนี้ได้อย่างไรกัน?
>>>อ่านต่อ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
  ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
  พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
  มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2024 คำถามเรื่องการหย่าร้าง
  ชาวฟาริสีบางคนทูลถามหวังจะจับผิดพระองค์ว่า “เป็นการถูกต้องหรือไม่ที่ชายจะหย่ากับภรรยา” พระองค์ตรัสตอบว่า “โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าร้างและหย่ากันได้” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของท่าน โมเสสจึงได้เขียนบัญญัติข้อนี้ไว้ แต่เมื่อแรกสร้างโลกนั้นพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ดังนั้น ชายจะละบิดามารดา และชายหญิงจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนี้ เขาจึงไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ มนุษย์อย่าแยกเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านแล้ว บรรดาศิษย์ทูลถามถึงเรื่องนี้อีก พระองค์จึงตรัสตอบว่า “ผู้ใดหย่าร้างภรรยา และแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาคนเดิม และถ้าหญิงคนหนึ่งหย่ากับสามีไปแต่งงานกับอีกคนหนึ่ง ก็ทำผิดประเวณีเช่นเดียวกัน”
  พระเยซูเจ้าและเด็กเล็ก ๆ
  มีผู้นำเด็กเล็ก ๆ มาเฝ้าพระเยซูเจ้าเพื่อทรงสัมผัสอวยพร แต่บรรดาศิษย์กลับดุว่าคนเหล่านั้น เมื่อทรงเห็นเช่นนี้ พระองค์กริ้ว ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด อย่าห้ามเลย เพราะพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เหมือนเด็กเหล่านี้ เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเหล่านั้นไว้ ทรงปกพระหัตถ์ และประทานพระพร
(มาระโก 10:2-16)
วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
แผ่นศีลปรากฏรูปพระเยซูเจ้าในอินเดีย
วันที่ 10 ม.ค. 2020 โบสถ์คาทอลิกในรัฐเคราลา ของอินเดีย ได้ส่ง “แผ่นศีลมหาสนิท” ที่ปรากฏรูปใบหน้าที่คล้ายพระเยซูไปยังกรุงโรมเพื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ก่อนที่จะประกาศว่าเป็นอัศจรรย์หรือไม่
ใบหน้าที่คล้ายพระเยซูปรากฏขึ้นในระหว่างการประกอบพิธีมิสซาเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2013 ที่โบสถ์พระคริสตกษัตริย์ ที่ Vilakkannur, Kerala, India โบสถ์นี้ขึ้นอยู่กับสังฆมณฑล Syro-Malabar Archdiocese of Tellicherry. แผ่นศีลถูกส่งไปที่ศูนย์ใหญ่ที่ Kakkanad เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ให้อยู่ในความดูแลของ Apostolic Nuncio Archbishop Giambattista Diquattro
เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาที่พระสงฆ์ Don Thomas Pathickal กำลังประกอบพิธีมิสซาเวลาเช้า 7.00 น ตามปกติ เมื่อถึงตอนที่ชูแผ่นศีลขึ้น พระสงฆ์สังเกตเห็นสีดำจางๆปรากฏขึ้นบนแผ่นศีล สีค่อยขยายใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆแล้วเกิดเป็นรูปใบหน้าของพระเยซู ท่านประหลาดใจมากและตัดสินใจนำแผ่นศีลบรรจุไว้ในรัศมีเพื่อเก็บรักษาไว้
ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้มาเยี่ยมชมที่โบสถ์เป็นจำนวนมากจากที่ต่างๆ แม้แต่ต่างเมืองออกไป และแน่นอนว่าก่อให้เกิดการจราจรติดขัดจนตำรวจต้องเข้ามาจัดการปัญหา
หลังจากเวลาผ่านไปนาน 6 ปี พระสังฆราชตัดสินใจที่จะส่งแผ่นศีลไปยังวาติกันเพื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งก่อนที่จะประกาศว่าเป็นอัศจรรย์
วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
เอกสารของซีไอเอเกี่ยวกับฮิตเลอร์
ไฟล์เอกสารของ CIA ชุดใหม่ที่ไม่เป็นความลับเปิดเผยว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์(Adolf Hitler) เคยเชื่อว่าเขาคือพระเยซูคริสต์ที่เสด็จมาครั้งที่สอง การสอบสวนที่ดำเนินการโดยสายลับสหรัฐในปี 1940 บอกว่าฮิตเลอร์เคยจินตนาการเกี่ยวกับการมาครั้งที่สองในช่วงปีก่อนที่เขาจะกลายเป็นท่านผู้นำ Fuhrer
ไฟล์เอกสาร 68 หน้าที่รวบรวมโดยสายลับสหรัฐชี้ให้เห็นว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์มีอาการทางจิตที่เรียกว่าเมสสิยาห์คอมเพล็กซ์(คิดว่าตัวเองเป็นพระเมสสิยาห์) หลังจากปรากฏตัวในฐานะผู้นำสูงสุดในเยอรมนี เอกสารบุคลิกภาพของฮิตเลอร์นี้ถูกจัดทำเพียงหนึ่งปีหลังจากที่สหรัฐฯเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง ดูเหมือนฮิตเลอร์ต้องการเป็นพระเมสสิยาห์ แต่ไม่ใช่พระเยซูที่ถูกตรึงกางเขน แต่เป็นพระเยซูที่โกรธเกรี้ยว พระเยซูที่ดุร้าย ฮิตเลอร์พัฒนาความรู้สึกนี้เมื่อเริ่มต้นก่อตั้งกองทัพนาซีในปี 1920 พรรคนี้ใช้เครื่องหมายสวัสดิกะ(กางเขนหัก)เป็นเครื่องหมายประจำพรรค และฮิตเลอร์บอกอีกว่าพระเยซูเป็นชาวอารยัน
วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
ลูกแกะของพระเจ้า
From CNN: รูปภาพ"ลูกแกะของพระเจ้า" Lamb of God นี้เป็นสมบัติของ อาสนวิหาร St. Bavo's Cathedral ในเมืองเกนต์ประเทศเบลเยียม เป็นภาพที่วาดขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยพี่น้องชาวเฟลมมิชชื่อ
แจนและฮิวเบิร์ต แวน เอคค์ (Jan and Hubert Van Eyck ) ทาง Belgium’s Royal Institute for Cultural Heritage ได้ทำโครงการการฟื้นฟูบูรณะผลงานนี้ขึ้นใหม่
ระหว่างการบูรณะของโครงการ
KIK-IRPA
นี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่ามีสีส่วนเกินที่ทาทับรูปต้นฉบับไว้ด้วย จึงทำการกำจัดสีส่วนเกินนี้ออกไป
นี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่ามีสีส่วนเกินที่ทาทับรูปต้นฉบับไว้ด้วย จึงทำการกำจัดสีส่วนเกินนี้ออกไป
สิ่งที่ถูกเปิดเผยจะเปลี่ยนมุมมองที่ผู้คนได้เห็นผลงานที่พี่น้อง
Van Eyck วาดไว้จากช่วงกลางชองทศวรรษที่
1420 ถึงปี 1432 การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือใบหน้าของลูกแกะที่ดูคล้ายใบหน้าของมนุษย์ เมื่อการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว และภาพก็ดูสดใสสวยงามจนผู้ชมต่างพากันทึ่งเมื่อมีการเปิดเผยภาพที่บูรณะแล้วเป็นครั้งแรก
วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
นักบุญชาร์เบลช่วยรักษาเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ
เด็กหญิงตัวเล็กๆ
ชื่อมิลานอายุสองขวบป่วยด้วยโรคมะเร็งและยังถูกไวรัสร้ายแรงเล่นงานอีก แม่ของเธอเป็นผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมจากมืองดามัสกัสของซีเรีย เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากนักบุญชาร์เบลและเด็กก็หายเป็นปกติ
>>>อ่านต่อ
>>>อ่านต่อ
วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
Openworld 2020 Watchlist
ในปี 2019
ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งมรณะสักขีของคริสตชน มีคริสตชนที่ถูกเบียดเบียน ข่มเหง
รังแก ถูกลักพาตัว ถูกฆ่าจำนวนมากทั่วโลก จากมุสลิมหัวรุนแรง
จากชาวฮินดูในอินเดีย จากรัฐบาล
และจากผู้ที่นิยมความรุนแรง แผนที่โลกแสดงบริเวณที่มีการเบียดเบียนคริสตชนมากที่สุด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)