พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2024 พระเยซูทำนายถึงการสิ้นพระชนม์ครั้งที่สอง

           พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ผ่านแคว้นกาลิลี พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ ทรงสั่งสอนบรรดาศิษย์ และตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย เขาจะประหารชีวิตพระองค์ แต่เมื่อถูกประหารแล้ว ในวันที่สามพระองค์จะกลับคืนชีพ” บรรดาศิษย์ไม่เข้าใจพระวาจานี้ แต่ก็ไม่กล้าทูลถาม พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อเสด็จเข้าไปในบ้าน พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ท่านถกเถียงกันเรื่องอะไรขณะที่เดินทาง” เขาก็นิ่ง เพราะระหว่างทางเขาถกเถียงกันว่า ผู้ใดยิ่งใหญ่กว่ากัน พระองค์จึงประทับนั่ง แล้วทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามา ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดอยากเป็นคนที่หนึ่ง ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” ครั้นแล้วพระองค์ทรงจูงเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งมายืนกลางกลุ่มพวกเขา ทรงโอบเด็กนั้นไว้ ตรัสว่า ”ผู้ใดที่ต้อนรับเด็กเล็ก ๆ เช่นนี้ในนามของเรา ก็ต้อนรับเรา และผู้ใดที่ต้อนรับเรา ก็มิใช่ต้อนรับเพียงเราเท่านั้น แต่ต้อนรับผู้ที่ทรงส่งเรามาด้วย”
(มาระโก 9:30-37)








วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

คำสัญญาของพระเยซูเจ้า


“โอ พระหรรษทานยิ่งใหญ่สักเพียงไรที่เราจะประทานแก่วิญญาณที่สวดภาวนาพระเมตตา  จงเขียนคำเหล่านี้ลงไปเถิด ลูกสาวของเรา  จงบอกโลกเกี่ยวกับพระเมตตาของเรา  มนุษยชาติจงรับรู้ถึงพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของเรา  นี่เป็นเครื่องหมายของวาระสุดท้าย  หลังจากนี้เราจะมาในวันแห่งความยุติธรรม  ขณะที่ยังมีเวลาอยู่  ขอให้ทุกคนจงมายังน้ำพุแห่งพระเมตตาของเรา  ให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากน้ำและพระโลหิตที่หลั่งไหลมาสู่พวกเขา”(บันทึก 848)

“จงสวดบทพระเมตตาที่เราสอนลูกโดยไม่หยุดหย่อน  ผู้ใดก็ตามที่สวดภาวนาบทนี้  จะได้รับพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ในเวลาใกล้เสียชีวิต  พระสงฆ์จะแนะนำให้คนบาปสวดภาวนานี้  ซึ่งเป็นความหวังในความรอดครั้งสุดท้ายของเขา  ไม่ว่าเขาจะมีบาปหนักมากสักเพียงไร  ถ้าเขาสวดภาวนาบทนี้เพียงครั้งเดียว  เขาจะได้รับพระหรรษทานจากพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของเรา”(บันทึก 687)

 “เรายินดีที่จะประทานทุกสิ่งแก่วิญญาณที่วอนขอจากเราด้วยการสวดภาวนาพระเมตตา  เมื่อคนที่มีบาปหนักที่สุดสวดภาวนาบทนี้  เราจะทำให้วิญญาณของเขามีสันติสุข  และในวาระใกล้ตายของเขา  เขาจะมีความสุข  จงเขียนสิ่งนี้ไว้เพื่อประโยชน์ของวิญญาณที่เป็นทุกข์เพราะบาป  เมื่อวิญญาณรู้และตระหนักถึงความหนักหน่วงของบาป  เมื่ออเวจีแห่งความสิ้นหวังทั้งมวลมาอยู่ต่อหน้าสายตาของเขา  จงอย่าสิ้นหวัง  แต่จงเข้ามาสู่อ้อมแขนแห่งพระเมตตาของเรา  เหมือนเด็กเล็กๆที่เข้าไปสู่อ้อมแขนของมารดาสุดที่รักของเขา  จงบอกทุกคนว่า  ไม่มีวิญญาณใดที่เรียกหาพระเมตตาของเราแล้วจะผิดหวังหรือได้รับความอับอาย  เรามีความยินดีเป็นพิเศษในวิญญาณที่วางใจในความดีของเรา  จงเขียนไว้ว่า  เมื่อพวกเขาสวดภาวนาพระเมตตาในเวลาใกล้ตาย  เราจะยืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระบิดาของเราและผู้เสียชีวิต  ไม่ใช่ในฐานะผู้พิพากษาแต่ในฐานะพระผู้ไถ่ของเขา”(บันทึก 1541)

“ในชั่วโมงแห่งความตายของพวกเขา  เราจะเป็นผู้ปกป้องวิญญาณทุกดวงที่สวดภาวนาพระเมตตานี้เสมือนเป็นสง่าราศีของเราเอง  เมื่อบทภาวนาพระเมตตานี้ถูกสวดใกล้เตียงของผู้กำลังเสียชีวิต  พระพิโรธของพระเป็นเจ้าจะสงบลงและพระเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระองค์จะปกคลุมวิญญาณ”(บันทึก 811)

พระเยซูเจ้าตรัสแก่ น.โฟสเตนา “เราปรารถนาให้พระเมตตานี้หลั่งไหลมาสู่โลกทั้งมวลโดยผ่านหัวใจของเธอ  อย่าให้ใครที่มาหาเธอกลับไปโดยปราศจากความวางใจในพระเมตตาของเรา  เราปรารถนาเป็นอย่างยิ่งให้เป็นเช่นนี้สำหรับวิญญาณ  จงสวดภาวนาให้มากเท่าที่เธอจะทำได้สำหรับผู้กำลังจะตาย  โดยการวอนขอของเธอจะทำให้พวกเขามีความวางใจในพระเมตตาของเรา  เพราะพวกเขาจำเป็นต้องมีความวางใจในพระเมตตาของเรา  แม้เพียงเล็กน้อยที่สุด”(บันทึก 1777)

 “ลูกสาวของเรา  จงช่วยเราในการช่วยวิญญาณคนบาปที่ใกล้ตาย  จงสวดภาวนาพระเมตตาที่เราสอนลูกเพื่อพวกเขา  เมื่อดิฉันเริ่มสวดภาวนาพระเมตตา  ดิฉันเห็นชายที่กำลังจะเสียชีวิตซึ่งได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสและพยายามดิ้นรนต่อสู้  อารักขเทวดาของเขากำลังปกป้องเขา  แต่เขาไม่มีกำลังที่จะต่อสู้กับความทุกข์ทรมานอันยิ่งใหญ่ของวิญญาณ  แต่เมื่อดิฉันสวดภาวนาพระเมตตา  ดิฉันเห็นพระเยซูเจ้าเหมือนในภาพ รังสีที่ส่องกระจายออกมาจากดวงพระทัยของพระองค์ใด้ปกคลุมคนเจ็บป่วยผู้นี้  และอำนาจของความมืดก็สูญสลายไป  แล้วชายที่เจ็บป่วยก็ถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้าย”(บันทึก 1565)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น