พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดน


LOS ANGELES, CA (Catholic Online) ในระหว่างการให้สัมภาษณ์  กษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดน ตรัสว่า กลุ่ม ISIS เป็นปัญหาของชาวมุสลิม  และชาวมุสลิมทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดคนพวกนี้
“เราต้องลุกขึ้นพูดยืนยันว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด  นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนา  นี่เป็นความชั่วร้ายและพวกเราทุกคนต้องตัดสินใจ” พระองค์ตรัส
“เราต้องลุกขึ้นพูด  นี่เป็นเส้นที่ขีดลงบนพื้นทราย  คนที่เชื่อในความถูกต้องจะมายืนทางด้านนี้  และคนที่ยังไม่ยอมตัดสินใจต้องไปยืนฝั่งตรงข้าม  มันชัดเจนว่านี่เป็นการต้อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว  ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นสงคราม  ดังที่ข้าพเจ้าพูดกับประธานาธิบดีปูติน  ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นสงครามโลกครั้งที่สามของพวกเรา”
กษัตริย์อับดุลลาแห่งจอร์แดน ทรงเตือนว่าโลกกำลังอยู่ชายขอบของสงครามโลก  และกลุ่ม ISIS เป็นตัวการในเรื่องนี้
กลุ่มนี้ได้ฆ่าชาวอิรักและซีเรียนับพันคน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คริสตชนและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ  อาสาสมัครชาวสหรัฐและอังกฤษก็ถูกจับตัวและฆ่าโดยกลุ่มนี้ด้วย
กษัตริย์อับดุลลาไม่ทรงคาดหวังว่า  การโจมตีทางเครื่องบินของสหรัฐต่อกลุ่ม ISIS จะเป็นการเพียงพอ “เราจำเป็นต้องมียุทธวิธีที่ดีและมากกว่านี้เพื่อจัดการกับองค์การเหล่านี้ซึ่งเรียกชื่อแตกต่างกัน แต่มีความเชื่ออย่างเดียวกัน”
กษัตริย์อับดุลลา ทรงเปิดเผยเหตุผลที่พระองค์มายังสหรัฐ เพื่อพบกับประธานาธิบดี  พระองค์ทรงหวังจะสถาปนาความร่วมมือในนโยบายทางตะวันออกกลางให้มากขึ้น  เพื่อป้องกันกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามไม่ให้มีอำนาจขึ้นจนสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมา”
“นี่เป็นประเด็นที่เราต้องเชื่อมโยงยุทธวิธีของเราเข้าด้วยกันจริงๆ  ข้าพเจ้าทราบว่าเราต้องพุ่งความสนใจไปที่ซีเรียและอิรัก  แต่เราต้องมองไปยังภูมิภาคอื่นๆด้วยเพื่อให้ครอบคลุมประเด็นดังกล่าวนี้”
พระองค์ยอมรับว่ากองกำลังสหรัฐและกองกำลังจากประเทศยุโรปสามารถดำเนินการในภูมิภาคนี้ได้  แต่รัฐบาลของตะวันออกกลางและผู้นำมุสลิมจะต้องร่วมมือด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น