พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2024 การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง

           ยอห์นทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า เราได้เห็นคนคนหนึ่งขับไล่ปีศาจเดชะพระนามของพระองค์ เราจึงพยายามห้ามปรามไว้ เพราะเขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าห้ามเขาเลย ไม่มีใครทำอัศจรรย์ในนามของเรา แล้วต่อมาจะว่าร้ายเราได้ ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา”
           ”ผู้ใดให้น้ำท่านดื่มเพียงแก้วหนึ่งเพราะท่านเป็นคนของพระคริสตเจ้า เราบอกความจริงกับท่านว่า เขาจะได้บำเหน็จรางวัลอย่างแน่นอน” ”ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดา ๆ ที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาป ถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่ถ่วงในทะเลก็ยังดีกว่ากระทำดังกล่าว
           ถ้ามือข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงตัดมันทิ้งเสีย ท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีมือข้างเดียว ยังดีกว่ามีมือทั้งสองข้างแต่ต้องตกนรกในไฟที่ไม่รู้ดับ ถ้าเท้าข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงตัดมันทิ้งเสีย ท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีเท้าพิการ ยังดีกว่ามีเท้าทั้งสองข้างแต่ถูกโยนลงนรก ถ้าตาข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงควักมันออกเสีย ท่านจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า โดยมีตาข้างเดียว ยังดีกว่ามีตาทั้งสองข้างแต่ต้องถูกโยนลงนรก ที่นั่นหนอนไม่รู้ตาย ไฟไม่รู้ดับ
(มาระโก 9:38-43; 45; 47-48)








วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดน


LOS ANGELES, CA (Catholic Online) ในระหว่างการให้สัมภาษณ์  กษัตริย์อับดุลลาห์ แห่งจอร์แดน ตรัสว่า กลุ่ม ISIS เป็นปัญหาของชาวมุสลิม  และชาวมุสลิมทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดคนพวกนี้
“เราต้องลุกขึ้นพูดยืนยันว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด  นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนา  นี่เป็นความชั่วร้ายและพวกเราทุกคนต้องตัดสินใจ” พระองค์ตรัส
“เราต้องลุกขึ้นพูด  นี่เป็นเส้นที่ขีดลงบนพื้นทราย  คนที่เชื่อในความถูกต้องจะมายืนทางด้านนี้  และคนที่ยังไม่ยอมตัดสินใจต้องไปยืนฝั่งตรงข้าม  มันชัดเจนว่านี่เป็นการต้อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว  ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นสงคราม  ดังที่ข้าพเจ้าพูดกับประธานาธิบดีปูติน  ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นสงครามโลกครั้งที่สามของพวกเรา”
กษัตริย์อับดุลลาแห่งจอร์แดน ทรงเตือนว่าโลกกำลังอยู่ชายขอบของสงครามโลก  และกลุ่ม ISIS เป็นตัวการในเรื่องนี้
กลุ่มนี้ได้ฆ่าชาวอิรักและซีเรียนับพันคน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คริสตชนและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ  อาสาสมัครชาวสหรัฐและอังกฤษก็ถูกจับตัวและฆ่าโดยกลุ่มนี้ด้วย
กษัตริย์อับดุลลาไม่ทรงคาดหวังว่า  การโจมตีทางเครื่องบินของสหรัฐต่อกลุ่ม ISIS จะเป็นการเพียงพอ “เราจำเป็นต้องมียุทธวิธีที่ดีและมากกว่านี้เพื่อจัดการกับองค์การเหล่านี้ซึ่งเรียกชื่อแตกต่างกัน แต่มีความเชื่ออย่างเดียวกัน”
กษัตริย์อับดุลลา ทรงเปิดเผยเหตุผลที่พระองค์มายังสหรัฐ เพื่อพบกับประธานาธิบดี  พระองค์ทรงหวังจะสถาปนาความร่วมมือในนโยบายทางตะวันออกกลางให้มากขึ้น  เพื่อป้องกันกลุ่มหัวรุนแรงอิสลามไม่ให้มีอำนาจขึ้นจนสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมา”
“นี่เป็นประเด็นที่เราต้องเชื่อมโยงยุทธวิธีของเราเข้าด้วยกันจริงๆ  ข้าพเจ้าทราบว่าเราต้องพุ่งความสนใจไปที่ซีเรียและอิรัก  แต่เราต้องมองไปยังภูมิภาคอื่นๆด้วยเพื่อให้ครอบคลุมประเด็นดังกล่าวนี้”
พระองค์ยอมรับว่ากองกำลังสหรัฐและกองกำลังจากประเทศยุโรปสามารถดำเนินการในภูมิภาคนี้ได้  แต่รัฐบาลของตะวันออกกลางและผู้นำมุสลิมจะต้องร่วมมือด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น