พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2025 สมโภชนักบุญทั้งหลาย

          พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเห็นประชาชนมากมาย จึงเสด็จขึ้นบนภูเขา เมื่อประทับแล้ว บรรดาศิษย์เข้ามาห้อมล้อมพระองค์ (2) พระองค์ทรงเริ่มตรัสสอนว่า
          “ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
(มัทธิว 5:1-12)








วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

นักบุญทั้งหลาย

             วันฉลองนักบุญทั้งหลายมีที่มาจากการฉลองมรณสักขีทั้งหลายในศตวรรษที่ 4 ที่ฉลองในสัปดาห์แรกหลังวันพระจิตเสด็จลงมา ต่อมาพระสันตะปาปาโบนีฟาสที่ 4 (St. Boniface IV: 608-615) ได้บูรณะวิหาร (Pantheon) ของชาวโรมันให้เป็นวิหารแห่งพระชนนีพระเจ้าและบรรดามรณสักขีผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเก็บรักษาอัฐิของบรรดามรณสักขี โดยทำการฉลองในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 610 ในอีกร้อยปีต่อมาพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 3 (Gregory III:731-741) ได้สร้างวัดน้อยในมหาวิหารนักบุญเปโตรอุทิศให้นักบุญทั้งหลาย และกำหนดให้ฉลองในวันที่ 1 พฤศจิกายน ก่อนที่วันฉลองนี้จะแพร่หลายไปทั่วพระศาสนจักรในเวลาต่อมา
               มีผู้คนจำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนักบุญ ที่หลงคิดว่านักบุญคือผู้ที่ไม่เคยทำบาป หรือไม่เคยกระทำความผิดเลยในชีวิต เป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง จิตใจดีงาม เข้มแข็งอดทน และสุภาพถ่อมตน ไม่เคยคิดถึงตนเอง คิดถึงแต่พระเจ้าและผู้อื่น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ความจริง นักบุญคือผู้ที่มีความพยายามที่จะกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากความมานะพยายามและการต่อสู้เอาชนะน้ำใจตนเองด้วยความเจ็บปวด
               การเปลี่ยนแปลงจิตใจที่เราเรียกว่า การกลับใจคือสิ่งที่เห็นอย่างเด่นชัดในชีวิตของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ อย่าง นักบุญเปโตร นักบุญเปาโล นักบุญเอากุสติน นักบุญฟรังซิสอัสซีซี นักบุญอิกญาซีโอ ฯลฯ บรรดานักบุญเหล่านี้มีช่วงเวลาแห่งชีวิตที่ได้สัมผัสกับความรักของพระเจ้า และกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเอง สิ่งนี้เองที่ทำให้ชีวิตของบรรดานักบุญท้าทายชีวิตเรา ทำให้เราคิดถึงความเป็นจริงแห่งชีวิตที่เป็นคนบาป และเป้าหมายสุดท้ายแห่งชีวิตของเราที่จะต้องมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์ครบครัน นั่นคือการเป็น นักบุญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น