พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ราวันดาฉลองครบรอบ35ปี


ผู้แสวงบุญพากันมาสวดภาวนาและเฉลิมฉลองแม่พระแห่งราวันดาเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2016 ครบรอบปีที่ 35 นับจากการประจักษ์ครั้งแรกแก่อัลฟองซีน ในวันที่ 28 พ.ย. 1981 เด็กนักเรียนหญิงในเมื่องกีเบโฮ
ผู้แสวงบุญเดินทางด้วยรถบัส หรือขี่จักรยาน  หรือเดินด้วยเท้า บางคนมาจากประเทศข้างเคียง
ผู้แสวงบุญบางคนนอนที่พื้นหญ้าด้านหน้าของโบสถ์ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องในโรงแรมซึ่งเต็มไปเรียบร้อยแล้ว
โบสถ์ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา และที่เชิงเนินเขานี้มีบ่อน้ำพุที่เรียกว่า “น้ำพุของแม่พระ” ที่มีอัศจรรย์การรักษาโรคได้  คาริตัส นิยีบีกีร่า อายุ 47 ปีเล่าว่า “ในอดีต ฉันมีปัญหาเท้าบวมและหายใจติดขัดแต่ต้องขอบคุณน้ำจากน้ำพุนี้ที่ช่วยรักษาฉันให้หาย”  เกรซ มอร์ริส สตรีวัย 31 ปีจากอูกันดา เล่าว่าเมื่อต้นปีนี้  เธอเห็นเด็กชายคนหนึ่งที่ขาพิการ ได้หายจากอาการพิการหลังจากที่ถูกนำเข้าไปในโบสถ์น้อยแห่งการประจักษ์ “เราเห็นเด็กคนนี้วิ่งออกมาจากโบสถ์และร้องตะโกนด้วยความยินดี”  มอร์ริสเล่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น