พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฏาคม 2024 พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาที่เมืองนาซาเร็ธ

           พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นกลับไปยังถิ่นกำเนิดของพระองค์ บรรดาศิษย์ติดตามไปด้วย ครั้นถึงวันสับบาโตพระองค์ทรงเริ่มสั่งสอนในศาลาธรรม ผู้ฟังมากมายต่างประหลาดใจ และพูดว่า “เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน ปรีชาญาณที่เขาได้รับมานี้คืออะไร อะไรคืออัศจรรย์ที่สำเร็จด้วยมือของเขา คนนี้เป็นช่างไม้ ลูกนางมารีย์ เป็นพี่น้องของยากอบ โยเสท ยูดาและซีโมนไม่ใช่หรือ พี่สาวน้องสาวของเขาก็อยู่ที่นี่กับพวกเรามิใช่หรือ” คนเหล่านั้นรู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิด ท่ามกลางวงศ์ญาติ และในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่ได้ นอกจากทรงปกพระหัตถ์รักษาผู้เจ็บป่วยบางคนให้หายจากโรคภัย พระองค์ทรงแปลกพระทัยที่เขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ
(มาระโก 6:1-6)








วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564

คำเทศน์เนื่องในวันพระจิตเสด็จมา

 

“ถ้าถามผู้ที่ถูกสาปแช่งว่า: ทำไมพวกเจ้าถึงไปอยู่ในนรก? พวกเขาจะตอบว่า: "เพราะพวกเราได้ต่อต้านพระจิตเจ้า" และถ้าถามบรรดานักบุญว่าทำไมพวกท่านถึงได้อยู่ในสวรรค์? พวกท่านก็จะตอบว่า: "เพราะพวกเราฟังเสียงของพระจิตเจ้าและทำตาม เมื่อความคิดดีๆเข้ามาในจิตใจของเรา,เป็นพระจิตเจ้าที่ทรงมาเยี่ยมเรา" พระจิตเจ้าคือพละกำลัง พระจิตเจ้าทรงค้ำจุนให้นักบุญซีเมออนไปอยู่บนยอดเสาได้; พระองค์ทรงค้ำจุนบรรดามรณสักขี หากปราศจากพระจิตเจ้า,บรรดามรณะสักขีจะไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ พวกเขาจะร่วงหล่นเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นไม้เมื่อไฟถูกจุดที่ใต้ต้นไม้นั้น พระจิตเจ้าทรงดับความร้อนของไฟด้วยความรักของพระเจ้า”
 
- นักบุญยอห์นมารีย์ เวียนเนย์ เจ้าอาวาสแห่งอารส์
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น