พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ข่าวพระสันตปาปา


"เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐประณามพระสันตะปาปาสำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับสงคราม NATO ของพระสันตะปาปาฟรังซิสที่ทรงกล่าวว่า “นาโต้ไปเห่าหน้าประตูรัสเซีย” ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้วลาดิมีร์ ปูติน รุกรานประเทศอื่น 
นาง Oksana Markarova,เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ, บอกกับสำนักข่าว Newsmax ตอบโต้ต่อการสัมภาษณ์ของพระสันตปาปาฟรังซิสเมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ค. กับสื่อสิ่งพิมพ์ของอิตาลี Corriere della Sera ซึ่งพระองค์ตรัสว่า “นาโต้ไปเห่าหน้าประตูรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้ วลาดิมีร์ ปูติน รุกรานประเทศอื่น” สาเหตุที่แท้จริงของสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาจากความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะเข้าร่วมกับ NATO เอกอัครราชทูต Markarova บอกว่าการประเมินของพระสันตะปาปาฟรังซิส “ผิดทั้งหมด” เธอบอกว่านาโต้ “ไม่ได้ทำการยั่วยุใดๆ” เพราะยูเครนไม่ได้เข้าร่วมกับ NATO และไม่ได้ทำอะไรเพื่อยุยงให้โจมตีจากรัสเซีย 
เอกอัครราชทูตซึ่งเป็นชาวกรีกคาทอลิกยังกล่าวด้วยว่าพระสันตะปาปาทำผิดพลาดในการให้ ชาวยูเครนและรัสเซียร่วมกันแบกไม้กางเขนในพิธีกรรมคาทอลิกเดินรูปสิบสี่ภาค( Stations of the Cross) ที่โคลอสเซียม 
 ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสิ่งพิมพ์ของอิตาลี Corriere della Sera เดียวกันนี้,พระสันตปาปายังตรัสว่า 
“เรารู้สึกว่าก่อนที่เราจะไปที่เคียฟ,เราต้องไปที่มอสโคก่อน”  

พระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งมีอาการปวดเข่า ทรงใช้รถเข็นเป็นครั้งแรกในการเข้าเฝ้าทั่วไปในวันพฤหัสบดี นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พระสันตะปาปาวัย 85 ปีถูกเข็นเข้าไปในห้องประชุมเปาโลที่ 6 ของนครวาติกันเพื่อพบปะกับองค์กรพี่น้องสตรีและแม่ชีคาทอลิก พระองค์ต้องนั่งในรถเข็นหลังจากการผ่าตัดลำไส้ใหญ่เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้พระองค์ทรงเจ็บปวดเป็นอย่างมากที่หัวเช่าขวา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น