พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2024 พระเยซูทำนายถึงการสิ้นพระชนม์ครั้งที่สอง

           พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ผ่านแคว้นกาลิลี พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ ทรงสั่งสอนบรรดาศิษย์ และตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย เขาจะประหารชีวิตพระองค์ แต่เมื่อถูกประหารแล้ว ในวันที่สามพระองค์จะกลับคืนชีพ” บรรดาศิษย์ไม่เข้าใจพระวาจานี้ แต่ก็ไม่กล้าทูลถาม พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อเสด็จเข้าไปในบ้าน พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ท่านถกเถียงกันเรื่องอะไรขณะที่เดินทาง” เขาก็นิ่ง เพราะระหว่างทางเขาถกเถียงกันว่า ผู้ใดยิ่งใหญ่กว่ากัน พระองค์จึงประทับนั่ง แล้วทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามา ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดอยากเป็นคนที่หนึ่ง ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” ครั้นแล้วพระองค์ทรงจูงเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งมายืนกลางกลุ่มพวกเขา ทรงโอบเด็กนั้นไว้ ตรัสว่า ”ผู้ใดที่ต้อนรับเด็กเล็ก ๆ เช่นนี้ในนามของเรา ก็ต้อนรับเรา และผู้ใดที่ต้อนรับเรา ก็มิใช่ต้อนรับเพียงเราเท่านั้น แต่ต้อนรับผู้ที่ทรงส่งเรามาด้วย”
(มาระโก 9:30-37)








วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566

ปีศาจกับนักบุญ


นักบุญมาร์กาเร็ต มารี อาลาก็อกเขียนไว้ในสมุดอัตชีวประวัติของเธอว่า หลังจากได้รับประสบการณ์การมาเยือนจากพระเยซูเจ้าแล้ว, ปีศาจได้มาปรากฏต่อเธอด้วย “มันได้ปรากฏตัวต่อดิฉันภายใต้รูปลักษณ์ของชาวแขกมัวร์ที่น่าสะพรึงกลัว, ดวงตาของมันมีแสงราวกับถ่านที่มีชีวิตสองก้อน มันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ดิฉัน” มันพูดว่า “ขอสาปแช่งเจ้า ข้าจะจับเจ้า และถ้าข้าได้ตัวเจ้าด้วยอำนาจของเราแล้ว, เราจะทำให้เจ้ารู้สึกถึงสิ่งที่เราทำได้, เราจะทำร้ายเจ้าในทุกโอกาส" นักบุญกล่าวต่อไปว่า "ถึงกระนั้นดิฉันก็ไม่กลัวสิ่งใดเลย ความเข้มแข็งภายในที่ดิฉันสัมผัสนั้นยิ่งใหญ่มาก... เพราะดิฉันมีไม้กางเขนเล็กๆอยู่กับตัวเสมอ ซึ่งพระผู้ช่วยให้รอดของดิฉันได้มอบอำนาจที่จะขับไล่ความโกรธแค้นอันชั่วร้ายทั้งหมดนี้ไปจากดิฉัน" 
Devils And Their Odors

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น