พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

พระสันตะปาปาไม่อนุญาติให้ฆราวาสจูบพระธำมรงค์


                  วันที่ 27 มี.ค. 2019 พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จไปที่เมืองโลเรตโต , อิตาลี และทรงทักทายประชาชนมากกว่า 100 คน ในการพบประชาชนครั้งนี้ พระองค์ทรงพบกับพระสงฆ์ นักบวช และซิสเตอร์ รวมทังฆราวาส เมื่อมีการจูบพระธำมรงค์ พระองค์อนุญาตให้เฉพาะพระสงฆ์ นักบวชและซิสเตอร์จูบเท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้ฆราวาสจูบพระธำมรงค์
                  หลังจากคลิปวีดีโอนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้ผู้ที่รับชมต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ไม่เฉพาะแต่ชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเท่านั้น เพราะเป็นที่ทราบกันว่าธรรมเนียมการจุมพิตที่พระธำมรงค์เป็นภาพที่เจนตาชาวโลกมานานหลายร้อยปี
                 รัสเซล โพลิตต์ บาทหลวงในคณะเยสุอิต โพสต์ทวิตเตอร์ในแอคเคาท์ @rpollittsj สนับสนุนการกระทำของโป๊ป กล่าวว่าการจุมพิตที่แหวนพระธำมรงค์ประจำตำแหน่งบิชอปและพระสันตะปาปา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธรรมเนียมทางศาสนา เป็นการหยิบยืมมาจากธรรมเนียมการจุมพิตพระธำมรงค์ของกษัตริย์ ผู้นำศาสนาจึงควรเลิกการปฏิบัติแบบนี้เสีย
                   ด้านออสเตน ไอวีเรจ์ ผู้เขียนชีวประวัติสมเด็จพระสันตะปาปาและผู้สนับสนุนโป๊ฟรานซิส กล่าวทางทวิตเตอร์ว่า "พระองค์ต้องการให้ศาสนิกเข้าถึงพระองค์ ไม่ใช่ปฏิบัติกับพระองค์เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระองค์คือตัวแทนของพระเยซู ไม่ใช่จักรพรรดิโรมัน"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น