พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงทำให้พายุสงบ

           เย็นวันเดียวกันนั้น พระเยซูเจ้าตรัสสั่งบรรดาศิษย์ว่า “เราจงข้ามไปทะเลสาบฝั่งโน้นกันเถิด” บรรดาศิษย์จึงละประชาชนไว้ และออกเรือที่พระองค์ประทับอยู่นั้นไป มีเรือลำอื่นๆ ติดตามไปด้วย ขณะนั้นเกิดพายุแรงกล้า คลื่นซัดเข้าเรือจนน้ำเกือบจะเต็มเรืออยู่แล้ว พระองค์บรรทมหลับหนุนหมอนอยู่ที่ท้ายเรือ บรรดาศิษย์จึงปลุกพระองค์ ทูลถามว่า “พระอาจารย์ พระองค์ไม่สนพระทัยที่พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้วหรือ” พระองค์จึงทรงลุกขึ้น บังคับลม ตรัสสั่งทะเลว่า “เงียบซิ จงสงบลงเถิด” ลมก็หยุด ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง แล้วพระองค์ตรัสถามเขาว่า “ตกใจกลัวเช่นนี้ทำไม ท่านยังไม่มีความเชื่อหรือ” เขาเหล่านั้นกลัวมาก พูดกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้
(มาระโก 14ซ35-41)








วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

วันแห่งการพิพากษา

             บทเพลงลาตินในศตวรรษที่ 13 มีชื่อว่า "Dies Irae" (วันแห่งพระพิโรธ) กล่าวถึงการกลับมาครั้งที่ 2 ของพระคริสต์และการพิพากษา มีเสียงแตรดังขึ้น, คนตายกลับคืนชีพ, มนุษย์ทุกคนมาอยู่รวมกัน, พระคริสต์ทรงพิพากษาคนดีและคนชั่วตามการกระทำของตน
             เวลานั้น ผู้ชอบธรรมaจะยืนด้วยความมั่นใจเต็มที่
             เผชิญหน้ากับผู้ที่เคยกดขี่ข่มเหง
             และผู้ที่เคยดูหมิ่นความยากลำบากของเขา
             เมื่อคนอธรรมเห็นผู้ชอบธรรม ก็จะตกใจกลัวจนตัวสั่น
             แปลกใจเมื่อเห็นผู้ชอบธรรมได้รับความรอดพ้นอย่างที่ตนไม่เคยคาดหมาย
             เขาจะสำนึกผิด คร่ำครวญ จิตใจระทมทุกข์ พูดกันว่า
             ”ดูซิ นี่คือผู้ที่เราเคยหัวเราะเยาะ
             เราเคยคิดว่าเขาโง่เขลา ทำเขาให้เป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ย
             เราคิดว่าชีวิตของเขาเป็นความบ้า
             และความตายของเขาไร้ศักดิ์ศรี
             เหตุไฉนพระเจ้าจึงทรงนับเขาในหมู่บุตรของพระองค์
             และเขามีส่วนในชีวิตเช่นเดียวกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์
             พวกเราหันเหออกไปจากทางแห่งความจริง
             แสงสว่างแห่งความชอบธรรมไม่ได้ส่องเหนือเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น