พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนใบ้หูหนวก

           พระองค์เสด็จออกจากเขตเมืองไทระผ่านเมืองไซดอน ไปยังทะเลสาบกาลิลีกลางดินแดนทศบุรี มีผู้นำคนใบ้หูหนวกคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ ทูลขอร้องให้พระองค์ทรงปกพระหัตถ์ พระองค์ทรงแยกคนใบ้หูหนวกคนนั้นไปจากกลุ่มชน ทรงใช้นิ้วพระหัตถ์ยอนหูของเขา ทรงใช้พระเขฬะแตะลิ้นของเขา ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ถอนพระทัย แล้วตรัสว่า “เอฟฟาธา” แปลว่า “จงเปิดเถิด” ทันใดนั้นหูของเขากลับได้ยิน สิ่งที่ขัดลิ้นอยู่ก็หลุด เขาพูดได้ชัดเจน พระเยซูเจ้าทรงห้ามประชาชนเหล่านั้นมิให้พูดเรื่องนี้กับผู้ใด แต่ยิ่งห้าม ก็ยิ่งเล่าลือกันมากขึ้น ต่างก็ประหลาดใจมาก กล่าวว่า “คนคนนี้ทำสิ่งใดดีทั้งนั้น เขาทำให้คนหูหนวกกลับได้ยิน และคนใบ้กลับพูดได้”
(มาระโก 7:1-8,14-15,21-23)








วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567

การสารภาพบาป


ครั้งหนึ่งขณะที่นักบุญฟิลิป เนรีกำลังฟังสารภาพบาปอยู่, มีผู้มาสารภาพบาปเข้าแถวยาว แต่อยู่ๆก็มีชายคนหนึ่งที่อยู่ในแถวยืนนิ่งไม่ยอมเคลื่อนที่ไปยังหัองสารภาพบาป ดังนั้นคนอื่นๆก็ถูกปิดกั้น คนที่อยู่ถัดไปก็เข้ามาไม่ได้ ถึงแม้ว่านักบุญฟิลิป เนรีจะเชิญชวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตาม ชายคนนั้นยังคงปฏิเสธ นักบุญฟิลิป เนรีจึงออกมาจากห้องสารภาพบาป และท่านได้พรมน้ำเสกใส่ชายคนนั้น ชายคนนั้นพลันก็หายไป กลายเป็นว่าชายคนนั้นเป็นปีศาจแห่งความอับอายและความกลัว

เมื่อเราทำบาป ความละอายใจก็หายไป แต่เมื่อเราต้องการที่จะสารภาพบาปนั้น, เราเต็มไปด้วยความละอายใจและความกลัวเป็นอย่างมาก และสุดท้ายเราก็ไม่ยอมไปสารภาพบาป

จงไปสารภาพบาปเถิด ขณะที่พระสงฆ์โปรดศีลอภัยบาปแก่เรา ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การโบกมือโปรดศีลอภัยบาปแก่เราเท่านั้น แต่เป็นพระโลหิตของพระคริสต์ซึ่งหลั่งไหลลงมาจากไม้กางเขน ซึ่งชำระจิตวิญญาณของเราให้สะอาด ศีลอภัยบาปคือการอยู่เบื้องพระพักตร์พระเยซูคริสต์

- Fr. Ed Broom, OMV 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น