พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2024 การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง

           ยอห์นทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า เราได้เห็นคนคนหนึ่งขับไล่ปีศาจเดชะพระนามของพระองค์ เราจึงพยายามห้ามปรามไว้ เพราะเขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าห้ามเขาเลย ไม่มีใครทำอัศจรรย์ในนามของเรา แล้วต่อมาจะว่าร้ายเราได้ ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา”
           ”ผู้ใดให้น้ำท่านดื่มเพียงแก้วหนึ่งเพราะท่านเป็นคนของพระคริสตเจ้า เราบอกความจริงกับท่านว่า เขาจะได้บำเหน็จรางวัลอย่างแน่นอน” ”ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดา ๆ ที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาป ถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่ถ่วงในทะเลก็ยังดีกว่ากระทำดังกล่าว
           ถ้ามือข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงตัดมันทิ้งเสีย ท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีมือข้างเดียว ยังดีกว่ามีมือทั้งสองข้างแต่ต้องตกนรกในไฟที่ไม่รู้ดับ ถ้าเท้าข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงตัดมันทิ้งเสีย ท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีเท้าพิการ ยังดีกว่ามีเท้าทั้งสองข้างแต่ถูกโยนลงนรก ถ้าตาข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาป จงควักมันออกเสีย ท่านจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า โดยมีตาข้างเดียว ยังดีกว่ามีตาทั้งสองข้างแต่ต้องถูกโยนลงนรก ที่นั่นหนอนไม่รู้ตาย ไฟไม่รู้ดับ
(มาระโก 9:38-43; 45; 47-48)








วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2566

การกลับใจของผู้ไม่เชื่อในพระเจ้า


ขณะที่คุณพ่อบอสโกอยู่ในมาร์แซย์, มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาท่าน เธอคร่ำครวญอย่างเศร้าใจว่าสามีของเธอเป็นคนไม่เชื่อในพระเจ้า และลูกวัย 5 ขวบของพวกเขาก็เป็นใบ้ คุณพ่อบอสโกปลอบโยนเธอโดยสัญญาว่าจะสวดภาวนาเพื่อให้สามีของเธอกลับใจและขอให้ลูกของเธอหายป่วย และท่านก็กระตุ้นให้เธอสวดภาวนาและทำนพวารต่อพระมารดามารีย์องค์อุปถัมภ์ของคริสตชนด้วย เมื่อหญิงผู้นั้นกลับถึงบ้าน,สามีของหญิงคนนั้นพูดพล่ามว่าคุณพ่อบอสโกเป็นแค่พระสงฆ์คนหนึ่ง และเขาก็ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ ที่แย่ไปกว่านั้น,เขายังพูดดูหมิ่นและสาปแช่งภรรยาของเขา หลังจากที่เขาสงบสติลงแล้ว พวกเขารับประทานอาหารเย็นกัน,ในระหว่างนั้นภรรยาของเขาพูดว่าเธอขอให้คุณพ่อบอสโกรักษาลูกของพวกเขาด้วย  เขาฟังแล้วก็ทำเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่แยแส ทันใดนั้น,เด็กน้อยก็ร้องว่า "ปาป๊า! ปาป๊า!" นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินลูกชายส่งเสียงพูด เขารู้สึกสะเทือนใจแต่ยังคงดื้อรั้นอยู่ในทัศนคติของเขา ผู้เป็นพ่อรู้สึกหวั่นไหวอย่างมากและปลีกตัวไปที่ห้องของเขา เช้าวันรุ่งขึ้นเขาไปพบกับคุณพ่อบอสโกและบอกท่านอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่รู้สึกศรัทธาในพระสงฆ์ “ถ้าคุณไม่ชอบที่ผมเป็นพระสงฆ์ ก็คิดว่าผมเป็นเพื่อนของคุณก็แล้วกัน” คุณพ่อบอสโกตอบ จากนั้น,ท่านก็ค่อยๆพูดจาขจัดความเข้าใจผิดของชายผู้นี้ไปทีละเล็กทีละน้อย จนผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าซึ่งรู้สึกสะเทือนใจอยู่แล้วจากอัศจรรย์ของลูกชายในวันก่อน เขาก็ได้เปิดใจของเขาและประทับใจในความกรุณาของคุณพ่อบอสโก  การสนทนาของพวกเขาจบลงด้วยการสารภาพบาปของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าซึ่งได้มอบเงินบริจาคจำนวนมากให้กับมือของคุณพ่อบอสโกก่อนจากไป

Source: Don Bosco the Apostle of Confession

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น