พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงทำให้พายุสงบ

           เย็นวันเดียวกันนั้น พระเยซูเจ้าตรัสสั่งบรรดาศิษย์ว่า “เราจงข้ามไปทะเลสาบฝั่งโน้นกันเถิด” บรรดาศิษย์จึงละประชาชนไว้ และออกเรือที่พระองค์ประทับอยู่นั้นไป มีเรือลำอื่นๆ ติดตามไปด้วย ขณะนั้นเกิดพายุแรงกล้า คลื่นซัดเข้าเรือจนน้ำเกือบจะเต็มเรืออยู่แล้ว พระองค์บรรทมหลับหนุนหมอนอยู่ที่ท้ายเรือ บรรดาศิษย์จึงปลุกพระองค์ ทูลถามว่า “พระอาจารย์ พระองค์ไม่สนพระทัยที่พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้วหรือ” พระองค์จึงทรงลุกขึ้น บังคับลม ตรัสสั่งทะเลว่า “เงียบซิ จงสงบลงเถิด” ลมก็หยุด ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง แล้วพระองค์ตรัสถามเขาว่า “ตกใจกลัวเช่นนี้ทำไม ท่านยังไม่มีความเชื่อหรือ” เขาเหล่านั้นกลัวมาก พูดกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้
(มาระโก 14ซ35-41)








วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

สามเณรชาวอิรักช่วยรักษาศีลมหาสนิทให้พ้นจากกลุ่มISIS

             ในเดือนสิงหาคม 2014 สามเณรชาวอิรักได้สร้างวีรกรรมด้วยการนำศีลมหาสนิทจากโบสถ์ท้องถิ่นมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่กลุ่มทหารของ ISIS จะเข้ามาโจมตีหมู่บ้านใน Karamlesh.
             Martin Baani สามเณรอายุ 24 ปีกล่าวว่า “ในวินาทีสุดท้าย Pashmerga (กองกำลังทหารเคอร์ดิชที่ปกป้องหมู่บ้าน) ได้บอกพวกเราว่าจะปลอดภัย”
“แต่แล้วเราก็ได้ยินมาว่า พวกเขากำลังติดตั้งปืนใหญ่ไว้บนเนินเขา St Barbara’s Hill (อยู่ท้ายหมู่บ้าน)  เรารู้ในเวลานั้นเองว่าสถานการณ์อยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก”
มีโทรศัพท์จากเพื่อนโทรมาบอกมาร์ตินเกี่ยวกับข่าวของเมืองที่อยู่ใกล้ๆ Telkaif ว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของ ISIS แล้ว  และเมือง Karamlesh จะกลายเป็นรายต่อไป
สามเณรหนุ่มรีบวิ่งไปที่โบสถ์ nearby St Addai ทันที และนำถ้วยบรรจุศีลมหาสนิทติดตัวหนีออกจากหมู่บ้านทันทีพร้อมกับพระสงฆ์เจ้าอาวาสและนักบวชอีกสามท่าน
“ผมเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากเมือง Karemlesh โดยมีศีลมหาสนิทอยู่ในมือของผม”
มาร์ตินและเพื่อนสามเณรรู้ข่าวว่าอนาคตของคริสต์ศาสนาในอิรักแทบหมดหวังแล้ว  คริสตชนในอิรักที่มีอยู่ 1.5 ล้านคนก่อนปี 2003 ได้ลดลงเหลือเพียง 300,000 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศอื่น
มาร์ตินไม่ได้หลบหนี  เขาพูดว่า “ผมอาจหนีไปได้ง่ายมาก  เพราะครอบครัวผมตอนนี้อยู่ที่คาร์ลิฟฟอร์เนีย  ผมมีวิซ่าพร้อมแล้วที่จะไปอเมริกาได้  แต่ผมต้องการอยู่  ผมไม่ต้องการหนีจากปัญหา”  มาร์ตินเลือกที่รับใช้ประชาชนที่ยังคงอยู่ที่อิรัก
 “เราต้องยืนหยัดเพื่อสิทธิอันชอบธรรมของเรา  เราต้องไม่กลัว”
มาร์ตินศึกษาต่อเพื่อเป็นพระสงฆ์ในเมือง Erbil และในเดือนกันยายน 2016 เขาก็ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์  เวลานี้เขากำลังทำงานในเมืองบ้านเกิดของเขาซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระจากกลุ่ม ISIS แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น