พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระนางมารีย์รับเกียรติขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ


"เพราะฉะนั้น,พระแม่มารีย์จึงทรงมีชีวิตนิรันดรตราบจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากพระผู้สถิตในพระนางได้พาพระนางไปยังดินแดนแห่งชัยชนะของพระนาง" (Timothy of Jerusalem Homily on Simeon and Anna; 400 AD) 
"และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกคนก็รู้ว่าร่างกายที่ไร้มลทินและทรงคุณค่านี้ได้ถูกย้ายไปยังสรวงสวรรค์แล้ว" (John the Theologian, The Falling Asleep of Mary; 400 AD) 
“บรรดาอัครสาวกนำร่างของพระนางไว้บนคานหามและนำไปวางไว้ในพระคูหา และพวกเขาเฝ้ายามป้องกันไว้,โดยคาดหวังว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา และดูเถิด, องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับยืนอยู่ข้างพวกเขา และทรงรับร่างอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์ไว้ พระองค์ทรงบัญชาให้นำร่างของพระนางขึ้นไปในเมฆสู่สรวงสวรรค์ ที่ซึ่งเวลานี้,ร่างพระนางมารีย์ได้เข้าร่วมกับวิญญาณอีกครั้งและชื่นชมยินดีกับเหล่าผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร..." (Gregory of Tours, Eight Books of Miracles, 1:4; 575-593 A.D.) 
“ในฐานะพระมารดาผู้รุ่งโรจน์ที่สุดของพระคริสต์, พระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของเรา, และผู้ทรงประทานชีวิตและความเป็นอมตะ, พระนางทรงได้รับชีวิตจากพระองค์ พระนางได้รับพระวรกายที่ไม่เน่าเปื่อยชั่วนิรันดร์และประทับอยู่พร้อมกับพระองค์ผู้ทรงชุบพระนางขึ้นมาจากพระคูหาและ ได้พาพระนางขึ้นมาหาพระองค์เองในลักษณะที่มีแต่เพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงทราบ" (Modestus of Jerusalem, Encomium in dormitionnem Sanctissimae Dominae nostrae Deiparae semperque Virginis Mariae (PG 86-II,3306 ก่อน ค.ศ. 634)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น