พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2025 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ อาทิตย์ที่ 4

          เรื่องราวการประสูติของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นดังนี้ พระนางมารีย์ พระมารดาของพระองค์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟคู่หมั้นของพระนางเป็นผู้ชอบธรรมไม่ต้องการฟ้องหย่าพระนางอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่โยเซฟกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า นางจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู เพราะเขาจะช่วยประชากรของเขาให้รอดพ้นจากบาป” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพื่อพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสผ่านประกาศกจะเป็นความจริงว่า หญิงพรหมจารีจะตั้งครรภ์ และจะคลอดบุตรชายซึ่งจะได้รับนามว่า “อิมมานูเอล” แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเรา” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้น เขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย
(มัทธิว.1:18-24)








วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ผลงานของพระจิต



              พระจิตเจ้าทรงก่อกำเนิดพระศาสนจักรในวันเพนเตคอส (พระจิตเสด็จมา) โดยลงมาสู่ชุมนุมชนแห่งการสวดภาวนาซึ่งมีพระนางมารีย์และอัครสาวกอยู่รวมกัน  แก่นแท้ของชุมนุมชนนี้ก่อตัวขึ้นในวันเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย  และยัญบูชาแห่งกาวารีได้ทำให้สำเร็จสมบูรณ์ในสถาบันพระสงฆ์และในศีลมหาสนิท  ดังที่มีเขียนไว้ว่า Haec quotiescumque feceritis in mei memoriam facietisพวกเขาอุทิศตนปฏิบัติตามคำสอนของอัครสาวกอย่างต่อเนื่องและเป็นหนึ่งเดียวกันในการหักขนมปังและในการสวดภาวนา พระจิตเจ้าทรงทำให้พวกเขาเพิ่มทวีจำนวนมากขึ้น  ตระเตรียมพวกเขาเพื่อให้ไปประกาศข่าวดีแก่คนทุกภาษาและทุกชนชาติ เพราะทุกคนจะได้ยินพวกเขาประกาศกิจการมหัศจรรย์ของพระเป็นเจ้าในภาษาของแต่ละคน  เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำรงไว้ , ส่งเสริมและทำให้มีชีวิตชีวา ในความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งเดียวกันของคาทอลิกและความสืบเนื่องจากอัครสาวก  ตามที่นักบุญลูกาเขียนไว้ว่า พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในท่ามกลางชุมนุมชนของผู้มีความเชื่อ...พวกเขาแบ่งปันทุกสิ่งแก่กัน....นี่แหละพลังอันยิ่งใหญ่ซึ่งบรรดาอัครสาวกเป็นพยานยืนยันของการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระคริสตเจ้า  และพระหรรษทานมากมายที่พวกเขาได้รับ  จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการสวดภาวนาร่วมกัน ในการร่วมพิธีมิสซาและรับศีลศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนจักรเพื่อทำให้พระคุณยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น