พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 พระเยซูเจ้าทรงรักเราและดำรงอยู่ในเรา

           พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์ นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกันเหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเราถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร เราเรียกท่านเป็นมิตรสหายเพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล และผลของท่านจะคงอยู่ เพื่อว่าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่ท่าน เราสั่งท่านทั้งหลายดังนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงรักกัน
(ยอห์น 15:9-17)








วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การแสดง-แสง-เสียง-สี



9 ธ.ค. 2015 -การแสดง แสง เสียง สี ที่วาติกัน  เพื่อสนองตอบต่อพระสมณสาส์น "Laudato Si” ของพระสันตปาปาฟรังซิสซึ่งเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเดินขบวนประท้วงในสเปน


ชาวคาทอลิกในสเปนเดินขบวนประท้วงการทุรจารศีลมหาสนิทจำนวน 248 แผ่นที่มีผู้ขโมยไปจากโบสถ์

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประตูแห่งพระเมตตา


“ก่อนที่เราจะมาในฐานะผู้พิพากษาทรงความยุติธรรม  เราจะเปิดประตูแห่งพระเมตตาของเรา  ผู้ที่ปฏิเสธไม่ยอมเข้าประตูแห่งพระเมตตานี้  จะต้องเข้าประตูแห่งพระยุติธรรมของเราแทน”  พระเยซูเจ้าตรัสกับ น.โฟสตินา

ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม  8 ธ.ค. 2015 – 20 พ.ย. 2016

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อันตรายจากสาหร่ายทอดกรอบ

        ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ "สาหร่ายทะเลแห้ง" เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีนและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง สาหร่ายทะเลแห้งที่จำหน่ายในท้องตลาด มีการปรุงแต่งรส และกลิ่นให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้ สาหร่ายทะเลแห้งกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตรวจพบการปนเปื้อนที่มีนัยสำคัญทางสถิติและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับประทาน
        ในเรื่องนี้ ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า สถาบันอาหารได้ตรวจสอบพบในตัวอย่างที่สุ่มมาตรวจมีสารแคดเมียมปนเปื้อนเกิน 2 มก./กก. ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่หลายประเทศกำหนดไว้ โดยปกติสาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีขีดความสามารถในการดูดซับสารที่อยู่ในทะเลได้มาก ดังนั้น หากบริเวณที่สาหร่ายทะเลขึ้นอยู่มีสารปนเปื้อนที่เป็นพิษสูง สาหร่ายก็จะดูดซับสารเหล่านั้นเข้ามาไว้ เมื่อนำมาบริโภคก็จะเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ แต่คนไทยไม่ได้บริโภคสาหร่ายทะเลเป็นอาหารหลักเหมือนกับญี่ปุ่น หรือ จีน และไม่ได้บริโภคกันในปริมาณมากนัก เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค จึงควรรับประทานสาหร่ายแห้งในปริมาณที่ไม่มาก และติดต่อกันนานเกินไป รวมทั้งต้องบริโภคอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย และลดโอกาสในการได้รับสารพิษจากสาหร่ายทะเลแห้งเพราะแคดเมียมเป็นสารที่ร่างกายสามารถขับออกมาได้ตามธรรมชาติ"
        ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ แต่ละประเทศจะมีมาตรฐานของการปนเปื้อนสารแคดเมียมในปริมาณที่แตกต่างกัน เแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 2 มก./กก. ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารไว้แน่ชัด แต่ได้กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนในน้ำดื่มว่า หากเป็นน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะกำหนดไม่ให้เกิน 0.003 พีพีเอ็ม และหากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดจะต้องไม่เกิน 0.005 พีพีเอ็ม
         จากเรื่องสาหร่ายทะเลแห้ง ก็มาถึงเรื่องความปลอดภัยในอาหารการกินอื่น ๆ กันบ้าง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปนเปื้อนน้อยลงลดลง โดยในกลุ่มอาหารสด เช่น สารเร่งเนื้อแดง สารฟอกสี สารกันรา บอแรกซ์ ฟอร์มาลิน และสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันนี้ ไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่า เนื้อสัตว์และพืชผักทั้งหลายที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีความปลอดภัยต่อการบริโภคมากน้อยเพียงใด
        มีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือไม่ อย่างไร ทางที่ดีจึงต้องใช้แนวทางของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยหันมาลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองเลือกกินผักผลไม้พื้นบ้านในท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมทั้งช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การเผาปีศาจ


7 ธ.ค. 2015 ที่กัวเตมาลา  ชาวคาทอลิกรวมตัวกันที่จัตุรัสของเมืองในวันจันทร์นี้  เพื่อร่วมในประเพณีเก่าแก่ของประเทศที่เรียกว่า “เผาปีศาจ”  ไฟลุกโชติช่วงที่ใจกลางถนนเป็นสัญญลักษณ์ว่าเทศกาลวันหยุดเริ่มต้นขึ้นแล้ว  ชาวกัวเตมาลาจะฉลองด้วยการเผารูปของซาตานในวันก่อนวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล  และถือเป็นการเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดคริสต์มาสอย่างไม่เป็นทางการด้วย

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ผู้เคยเห็นแม่พระในเมดจูกอเรจ์

แมกกาซีน National Geographic ฉบับเดือนธันวาคมนี้ ไดน่า มาร์โกเซียนได้สำรวจความศรัทธาต่อพระนางพรหมจารีย์มารีย์ของผู้คนทั่วโลก >>> อ่านต่อ

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คำถามเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์



คำถามเกี่ยวกับปีศักดิ์สิทธิ์
ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาที่พิเศษสำรับชาวคาทอลิก โดยปกติปีศักดิ์สิทธิ์จะมีขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 4 ศตวรรษ  แต่ในปีนี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตา ต่อไปนี้เป็นคำตอบในคำถามต่างๆ
1. ปีศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?
ปีศักดิ์สิทธิ์มีประวัติสืบเนื่องมาจากประเพณีของชาวยิว  และเริ่มต้นในปี 1300 โดยพระสันตะปาปาโบนีฟาสที่ 8 ปีศักดิ์สิทธิ์เป็นการให้อภัยบาปแก่คนทั่วไป  เป็นพระหรรษทานพิเศษทำให้เราสามารถใกล้ชิดพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์
2. ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษ แตกต่างอย่างไรจากปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา?
ตั้งแต่ปี 1475 ปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาจะมีขึ้น 1 ครั้งในทุก 25 ปี  ส่วนปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษจะมีขึ้นในโอกาสพิเศษ
จนถึงปัจจุบันนี้ มีปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา 24 ครั้ง และมีปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษแล้ว 4 ครั้ง  ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้ พระสันตปาปาฟรังซิสทรงกำหนดให้มีขึ้นและจะเป็นครั้งที่ 5
ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษครั้งล่าสุดกำหนดขึ้นโดยพระสันตปปายอห์นปอลที่ 2 ในปี 1983  และพระองค์ทรงกำหนดปีศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาขึ้นในปี 2000 ด้วย
3. ทำไมพระสันตะปาปาจึงทรงกำหนดปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษขึ้น?
พระสันตะปาปาทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในเดือนมีนาคม 2015  พระองค์ทรงตัดสินพระทัยอย่างเป็นทางการในเดือน เมษายน ในเวลานั้นพระองค์ทรงอธิบายว่า
POPE FRANCIS
April 11, 2015
“ทำไมจึงมีปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมในเวลานี้?  เป็นเพราะพระศาสนจักรมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และเรียกร้องให้แสดงเครื่องหมายแห่งการถวายตนแด่พระเจ้าในการใกล้ชิดกับพระเป็นเจ้า  นี่ไม่ใช่เวลาแห่งการแยกตัวออกจากพระองค์”
และผู้ดำเนินการในปีศักดิ์สิทธิ์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า
RINO FISICHELLA
Organizer, Jubilee of Mercy 
“เราต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า  ความหมายหลักของปีศักดิ์สิทธิ์คือการที่เราต้องตระหนักว่าเราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเป็นเจ้า”
4. ปีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อไร?
ปีศักดิ์สิทธิ์ไม่จำเป็นต้องสิ้นสุดเมื่อครบ 365 วัน  ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมมีระยะเวลาน้อยกว่า1 ปี  มันเริ่มต้นวันที่ 8 ธันวาคมและสิ้นสุดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2016
5. จะมีคนมากเท่าไรที่จะมาที่โรม?
ปีศักดิ์สิทธิ์ 2000 มีคนมาที่โรมประมาณ 25 ล้านคน  และคาดว่าในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมนี้จะมีคนมาจำนวนเท่าเดิม 
6. จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง?
มันจะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งมาก  มีพิธีเปิดประตูพระวิหารวันที่ 8 ธ.ค.  และประตูในวิหารอื่นๆในเมืองต่างๆก็จะถูกเปิดตามมา  พระสงฆ์จะเอาใจใส่เป็นพิเศษในการฟังแก้บาปซึ่งเป็นกุญแจหลักของปีศักดิ์สิทธิ์
RINO FISICHELLA
Organizer, Jubilee of Mercy 
 “ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการให้อภัยบาปจะเป็นศูนย์กลางในทุกวันของปีศักดิ์สิทธิ์  แต่จะมีโบสถ์ที่ถูกกำหนดเป็นพิเศษให้เป็นแสวงบุญ  มีโบสถ์สามแห่งใกล้วิหารนักบุญเปโตร  ที่จะให้มีการโปรดศีลอภัยบาปเป็นพิเศษ”
จะมีการสวดภาวนาที่เรียกว่า "dry the tears”ในเดือนพฤษภาคมและมีปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักโทษในเดือน พฤศจิกายน  ต้องการรู้เพิ่มเติมให้ไปที่ www.im.va
7. ประตูศักดิ์สิทธิ์คืออะไร?
พิธีกรรมแรกในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมคือการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์
ในเวลาที่พระสันตปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนอัฟริกา  พระองค์ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ในอาสนวิหารแห่ง Bangui ที่สาธารณรัฐอัฟริการกลาง   เป็นการบอกว่าปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมได้เริ่มต้นขึ้นแล้วทั่วโลก
แต่พระองค์ก็ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารนักบุญเปโตรด้วย  ประตูนี้โดยปกติจะเปิดเพียงหนึ่งครั้งทุก 25 ปี  มีกำแพงอิฐถูกก่อขึ้นบังประตูนี้ไว้และจะถูกพังลงเมื่อมีปีศักดิ์สิทธิ์  และเพราะปีนี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษ  ประตูศักดิ์สิทธิ์จึงถูกเปิดเร็วขึ้น
ประตูศักดิ์สิทธิ์เป็นเครื่องหมายว่าชาวคาทอลิกต้องเปิดใจตนเองให้แก่ความเชื่อ  สำหรับผู้แสวงบุญ  การเดินเข้าสู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นสิ่งพิเศษ
                       8. การไปกรุงโรมมีความปลอดภัยไหม?
การโจมตีปารีสของผู้ก่อการร้ายทำให้หน่วยรักษาความปลอดภัยต้องเพิ่มมาตรการไปทั่วยุโรป  กรุงโรมอยู่ใจกลางของทวีปยุโรปและอาจเป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้ายได้  หน่วยทหารและตำรวจอิตาลีจับตามองแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้ายเท่าที่จะทำได้  โดยเฉพาะที่วาติกันและจัตุรัสนักบุญเปโตร