พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ฉลองพระคริสตกายา -แห่ศีลมหาสนิท



Pange Lingua Gloriosi - Catholic Hymns, Gregorian Chant 
บทเพลงสรรเสริญพระคริสตกายา (ศีลมหาสนิท) ที่ไพเราะตลอดกาล ประพันธ์โดย นักบุญโทมัส อไควนัส นักปราชญ์ของพระศาสนจักร
              ในอีกโอกาสหนึ่ง เทวดาแห่งสันติภาพได้มาหาเด็กทั้งสามแห่งฟาติมา แต่ในครั้งนี้ได้นำพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้ามาให้เด็กด้วย แต่ก่อนจะให้เด็กรับศีล เทวดาได้ปล่อยจอกกาลิกษ์และแผ่นศีลลอยอยู่ในอากาศ เทวดาก้มกราบนมัสการแทบพื้นดินและสอนเด็กสวดภาวนาสามครั้งว่า
“ข้าแต่พระตรีเอกภาพสูงสุด พระบิดา พระบุตร และพระจิต ลูกขอถวายพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์ พระวิญญาณและพระเทวภาพของพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงประทับอยู่ในตู้ศีลทุกแห่งทั่วโลก เพื่อชดเชยแทนการกระทำทุรจาร การล่วงเกิน และความอกตัญญูของมนุษย์ ที่กระทำต่อพระองค์ และโดยอาศัยพระเมตตาหาที่สุดมิได้แห่งดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า พร้อมด้วยดวงพระทัยนิรมลของพระมารดามารีย์ ลูกขอวิงวอนพระองค์โปรดบันดาลให้คนบาปกลับใจด้วยเทอญ”
หลังจากนั้นเทวดาจึงให้ลูซีอารับแผ่นศีลซึ่งเป็นพระกายพระคริสตเจ้า ส่วนฟรังซิสโกและยาชินทา เทวดาให้ดื่มเหล้าองุ่นซึ่งเป็นพระโลหิต

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วาทะของนักบุญฟรังซิส อัสซีซี

“เราต้องตื่นตัวและระมัดระวังเล่ห์เหลี่ยมความชั่วร้ายของซาตานอยู่เสมอ   ความปรารถนาอย่างหนึ่งของมันคือการทำให้จิตใจของมนุษย์หันเหออกจากพระเป็นเจ้า ... มันต้องการดับแสงสว่างในหัวใจของมนุษย์โดยการทำให้มนุษย์มัวแต่ยุ่งอยู่กับธุรกิจทางโลกและมีแต่ความวิตกกังวลในหัวใจ ".

-          นักบุญฟรังซิส  แห่ง อัสซีซี

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สาส์นแม่พระ 2 - 25 พ.ค. 2015

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 พ.ค. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่มาอยู่กับพวกลูกในวันนี้อีกครั้งหนึ่ง  และด้วยความชื่นชมยินดีแม่ขอให้ลูกสวดภาวนาและเชื่อในพลังอำนาจของการสวดภาวนา  ลูกน้อยทั้งหลาย  จงเปิดใจของลูกเถิด  เพื่อที่พระเป็นเจ้าจะทรงเติมเต็มหัวใจของลูกด้วยความรักของพระองค์  แล้วลูกจะกลายเป็นความชื่นชมยินดีให้กับคนอื่นๆ  การเป็นพยานของลูกจะมีพลังอำนาจและทุกสิ่งที่ลูกกระทำจะประสานเข้ากับความอ่อนโยนของพระเป็นเจ้า  แม่อยู่กับลูกเสมอและแม่สวดภาวนาเพื่อลูก  เพื่อการกลับใจของลูกจนกว่าลูกจะยอมให้พระเป็นเจ้าเป็นที่หนึ่งในชีวิตของลูก
ขอขอบใจลูกที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 พ.ค. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
จงเปิดใจของลูกและพยายามรับรู้ว่าแม่รักลูกมากสักเพียงไรและแม่ปรารถนามากสักเพียงไรที่จะให้ลูกรักองค์พระบุตรของแม่ แม่ปรารถนาให้ลูกมารู้จักพระองค์ให้มากขึ้น เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เมื่อรู้จักพระองค์แล้วและจะไม่รักพระองค์เพราะพระองค์คือความรัก ลูกๆทั้งหลาย,แม่รู้จักลูก แม่รู้ถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ของลูก เพราะแม่ก็มีชีวิตในสภาพเช่นนั้น เมื่อลูกมีความชื่นชมยินดี แม่ก็ชื่นชมยินดีด้วย เมื่อลูกมีความทุกข์ แม่ก็เป็นทุกข์ด้วย แม่จะไม่ยอมละทิ้งลูกเลย แม่พูดกับลูกเสมอด้วยความอ่อนโยนของมารดา และแม่, ในฐานะมารดา, ต้องการให้ใจที่เปิดกว้างของลูกช่วยเผยแพร่ความรักขององค์พระบุตรของแม่โดยอาศํยปรีชาญาณและความเรียบง่าย แม่ต้องการให้ลูกมีใจเปิดกว้างและอ่อนไหวต่อความดีและความเมตตา แม่ต้องการให้ลูกเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระบุตรของแม่ เพราะแม่ปรารถนาให้ลูกมีความสุขและช่วยแม่นำความสุขไปมอบให้แก่บรรดาลูกทั้งหลายของแม่ทุกคน อัครสาวกของแม่เอ๋ย,แม่ต้องการให้ลูกแสดงให้ทุกคนเห็นความจริงของพระเป็นเจ้า เพื่อที่ดวงใจของแม่ซึ่งกำลังทนทุกข์ และทุกวันนี้ยิ่งทนทุกข์มากขึ้น จะได้รับชัยชนะในความรัก จงสวดภาวนาเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของบรรดานายชุมพาบาลของลูกด้วย เพื่อที่พวกท่าน,โดยอาศัยพระนามขององค์พระบุตรของแม่,จะได้ทำอัศจรรย์ เพราะความศักดิ์สิทธิ์จะกระทำสิ่งอัศจรรย์

ขอขอบใจลูก

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พระสันตปาปากับฟาติมา


เมื่อปลายเดือนเมษายนนี้  พระสันตปาปาฟรังซิสได้เสด็จไปที่ฟาติมา เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของการประจักษ์ของแม่พระ 
เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่เราระลึกถึงแม่พระแห่งฟาติมา  มีการส่งพระรูปแม่พระแห่งฟาติมาไปที่วาติกันและพระสันตะปาปาทรงถวายความเคารพต่อพระรูปแม่พระ  พระองค์ทรงคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสาส์นแห่งฟาติมา? ทำไมดูเหมือนว่าแม่พระแห่งฟาติมามีความสำคัญพิเศษต่อพระองค์  เช่นเดียวกับพระสันตปาปาองค์ก่อนสองพระองค์?
เหตุการณ์อัศจรรย์ที่ฟาติมาในปี 1917 เกิดขึ้น ในเวลาที่โลกกำลังเข้าสู่ศตวรรษที่ 20  ศตวรรษที่เกิดสงครามโลกสองครั้ง  เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จำนวนมากมาย  มีการประดิษฐ์อาวุธนิวเคลียร์ และเทคโนโลยี่ใหม่ๆมากมายกำเนิดขึ้นซึ่งเปลี่ยนแปลงโลกและเผ่าพันธุ์มนุษย์
ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2013 พระคาร์ดินัลแห่งลิสบอนได้ประกอบพิธีถวายสมณะสมัยของพระสันตปาปาฟรังซิสแด่แม่พระแห่งฟาติมา  และท่านได้สวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาขอให้พระองค์ “ได้รับพระพรที่จะรู้ถึงหนทางที่จะฟื้นฟูพระศาสนจักรขึ้นใหม่” และขอให้พระองค์ได้รับการปกป้อง “ในเวลาแห่งความยุ่งยากและเป็นทุกข์ เ พื่อที่พระองค์จะได้มีชัยชนะในความรักต่อการทดลองเพื่อนำพระศาสนจักรไปสู่การฟื้นฟู”   และ 5 เดือนต่อมา  พระสันตปาปาฟรังซิสก็ทรงถวายโลกแด่แม่พระแห่งฟาติมาในวันที่ 13 ตุลาคม 2013
พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เสด็จเยือนฟาติมาสามครั้ง และในปี 2000 ทรงประกาศให้ฟรังซิสโกและยาชินทาเป็นบุญราศี  ทั้งทรงถวายสหัสวรรษที่สามแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์เบื้องหน้าพระรูปแม่พระแห่งฟาติมา  ในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2000 โดยมีพระสังฆราช 1,400 องค์ร่วมพิธีมิสซาพระคุณการุณย์ยูบีลี
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงสนับสนุนฟาติมาและได้เสด็จเยี่ยมในเดือน พ.ค. 2010 ครั้งนั้นพระองค์ตรัสว่า “พวกเราเข้าใจผิดที่คิดว่าคำทำนายแห่งฟาติมาสำเร็จสมบูรณ์แล้ว”
มีเรื่องราวที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับนิมิตของพระสันตปาปาเลโอที่ 13   พระองค์ได้ยินซาตานพูดเบื้องพระพักตร์พระเป็นเจ้าว่า  ถ้าหากมันมีเวลา 100 ปี  มันจะสามารถทำลายพระศาสนจักรได้  และเป็นที่น่าสังเกตุว่าวันนั้นคือวันที่ 13 ตุลาคม 1884  วันซึ่งตรงกันอย่างน่าประหลาดใจ
13 พ.ค. 1917 แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาครั้งแรก
13 ต.ค. 1917 เกิดอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา
13 พ.ค. 1981 พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์
13 ต.ค. 2013 พระสันตปาปาฟรังซิสถวายโลกแด่แม่พระแห่งฟาติมา
เป็นไปได้ไหมที่ระยะเวลาที่เราดำรงชีวิตอยู่นี้คือระยะเวลาที่ซาตานพยายามทำลายพระศาสนจักร? ถ้าเป็นดังนั้นเวลานั้นกำลังสิ้นสุดลงในปี 2017 ใช่ไหม?  นี่จะทำให้การที่พระสันตปาปาเสด็จเยี่ยมฟาติมาในปี 2017 เป็นเวลาที่สำคัญเป็นพิเศษหรือไม่?
            เมื่อพระสันตปาปาฟรังซิสประกอบพิธีฉลองในวันที่ 13 ต.ค. 2013 พระองค์ตรัสว่า “พระรูปแม่พระซึ่งมาจากฟาติมานี้ ทำให้เรารู้สึกว่าพระนางประทับอยู่ท่ามกลางพวกเรา  แม่พระทรงนำพวกเราไปหาพระเยซูเจ้าเสมอ...ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเมตตาของพระเป็นเจ้า  แม้แต่เงื่อนปมที่ยุ่งยากที่สุดก็หลุดได้โดยพระหรรษทานของพระองค์  และพระนางมารีย์ผู้ขานรับ “ได้ค่ะ” ต่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า  ก็ได้เปิดประตูให้แด่พระเป็นเจ้าเพื่อทรงกำจัดเงื่อนปมของความไม่นบนอบเชื่อฟังในอดีตกาลให้หมดสิ้นไป  ความรักและความอดทนของพระนางที่มีต่อพวกเราที่ได้นำพวกเราไปสู่พระเป็นเจ้า  เพื่อที่พระองค์จะทรงกำจัดเงื่อนปมที่แน่นหนาในวิญญาณของเราโดยอาศัยพระเมตตาของพระองค์”

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วาทะของคุณพ่อปีโอ


“ท่านบอกว่าท่านกังวลใจเกี่ยวกับอนาคตของท่าน  แต่ท่านไม่ทราบหรือว่าพระเยซูเจ้าทรงอยู่กับท่านเสมอ  และศัตรูของเราไม่มีอำนาจเหนือผู้ที่ตั้งใจจะเป็นของพระเยซูเจ้าอย่างสิ้นเชิง” (3/29/1914)


คุณพ่อปีโอ

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับซิสเตอร์ลูซีอาแห่งฟาติมา

ซิสเตอร์คาร์เมไลท์ผู้หนึ่งซึ่งอยู่ที่คอนแวนต์ในโคอิมบรา,โปรตุเกส   และเป็นผู้ใกล้ชิดกับซิสเตอร์ลูซีอา แห่งฟาติมา (หรือในชื่อว่า  ลูซีอา แห่งพระเยซูและดวงหทัยนิรมลของแม่พระ)  ท่านได้เขียนหนังสืออัตชีวประวัติของซิสเตอร์ลูซีอา 
.....อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อัศจรรย์จากแผ่นดินไหว

คุณพ่อ Tek Raj Paudel กำลังคุกเข่าต่อหน้าบิดามารดาของท่าน  Indra Bahadur Paudel และ Uttra Kumari เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2015 ซึ่งมีพิธีมิสซาบวชเป็นพระสงฆ์ของท่านในหมู่บ้าน Tarkerabari  – Courtesy of the Society of Jesus/Sunny D'Costa

อัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ ฟาติมา 1917


13 ต.ค. 1917 เกิดอัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา  โปรตุเกส  แม่พระทรงประจักษ์แก่เด็กสามคน และอัศจรรย์เกิดขึ้นตามที่แม่พระทรงสัญญาไว้  ผู้ที่มาชุมนุมต่างเห็นดวงอาทิตย์หมุนส่งแสงกระจายออกไปโดยรอบๆ  และในทันทีทันใด เหมือนดวงอาทิตย์หลุดออกจากตำแหน่งของมัน และตกลงมายังโลก  ทุกคนต่างหวาดกลัวบางคนร้องขอให้พระเจ้าอภัยบาปให้แก่เขา  วันนั้นมีคนที่มาชุมนุมประมาณ 70,000 คน มาจากทุกชนชั้น  ทุกฐานะ ทุกอาชีพ มีทั้งผู้ที่เชื่อและไม่เชื่อ  (วีดีโอ จากภาพยนต์เรื่อง 13th day)

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รูปแม่พระ 13 รูป

รูปแม่พระ 13 รูป
เราเคยเห็นรูปแม่พระที่สวยงามในสไตล์ยุโรปเป็นส่วนใหญ่  แต่ความจริงแล้ว  แม่พระเป็นชาวยิว  ดังนั้นรูปร่าง  หน้าตา  สีผิวที่แท้จริงของแม่พระคงไม่ตรงตามรูปภาพที่เราเคยเห็นกัน

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทภาวนาแห่งฟาติมา



ฤดูใบไม้ผลิปี 1916  ลูซีอา ฟรังซิสโก และยาชินทา ได้พบกับทูตสวรรค์  ในเวลาเช้าเด็กทั้งสามได้ต้อนแกะ ขึ้นไปบนเนินเขา Cabeco  ในท่ามกลางหมู่ต้นมะกอก  พวกเด็กๆอยู่ที่นั่นจนถึงเวลาเที่ยงจึงเริ่มทานอาหารกลางวัน  ทานเสร็จแล้วก็สวดสายประคำ  หลังจากนั้นพวกเด็กเล่นเกมส์ก้อนหินกัน  ต่อมามีลมพัดแรงจนต้นไม้สั่นไหวทั้งๆที่วันนั้นเป็นวันอากาศแจ่มใส  เด็กๆมองไปทั่ว  และทันทีทันใดก็เห็นแสงสว่างส่องมาจากยอดไม้เคลื่อนที่ลงมาหาพวกเขา  เด็กๆต่างนิ่งเงียบ  แล้วทูตสวรรค์ก็พูดกับเด็ก
“อย่ากลัวเลย  เราคือเทวดาแห่งสันติภาพ  มาสวดภาวนาพร้อมกับเราเถิด”  แล้วเทวดาก็ก้มลงกราบแทบพื้นดินและสอนเด็กให้สวดภาวนา
“พระเจ้าข้า  ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกกราบนมัสการพระองค์  วางใจในพระองค์และรักพระองค์  ลูกกราบขออภัยโทษแทนผู้ที่ไม่เชื่อในพระองค์  ไม่นมัสการพระองค์  ไม่วางใจในพระองค์และไม่รักพระองค์”
เทวดาบอกกับเด็กว่า “จงสวดภาวนาเช่นนี้  แล้วดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์จะสดับฟังคำวิงวอนของพวกเธอเสมอ”
ในอีกโอกาสหนึ่ง เทวดาแห่งสันติภาพได้มาหาเด็ก  แต่ในครั้งนี้ได้นำพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้ามาให้เด็กด้วย  แต่ก่อนจะให้เด็กรับศีล  เทวดาได้ปล่อยจอกกาลิกษ์และแผ่นศีลลอยอยู่ในอากาศ  เทวดาก้มกราบนมัสการแทบพื้นดินและสอนเด็กสวดภาวนาสามครั้งว่า
“ข้าแต่พระตรีเอกภาพสูงสุด พระบิดา พระบุตร และพระจิต  ลูกขอถวายพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์  พระวิญญาณและพระเทวภาพของพระเยซูคริสตเจ้า  ผู้ทรงประทับอยู่ในตู้ศีลทุกแห่งทั่วโลก  เพื่อชดเชยแทนการกระทำทุรจาร  การล่วงเกิน และความอกตัญญูของมนุษย์  ที่กระทำต่อพระองค์  และโดยอาศัยพระเมตตาหาที่สุดมิได้แห่งดวงพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า  พร้อมด้วยดวงพระทัยนิรมลของพระมารดามารีย์  ลูกขอวิงวอนพระองค์โปรดบันดาลให้คนบาปกลับใจด้วยเทอญ”
หลังจากนั้นเทวดาจึงให้ลูซีอารับแผ่นศีลซึ่งเป็นพระกายพระคริสตเจ้า  ส่วนฟรังซิสโกและยาชินทา  เทวดาให้ดื่มเหล้าองุ่นซึ่งเป็นพระโลหิต
ในการประจักษ์ครั้งหนึ่ง  แม่พระได้สอนเด็กๆสวดภาวนาว่า
“พระเยซูเจ้าข้า  โปรดอภัยบาปของชาวเรา  โปรดช่วยเราให้พ้นไฟนรก  โปรดนำวิญญาณทั้งหลายไปสู่สวรรค์   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  วิญญาณของผู้ที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด” 

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรื่องเล่าจากหนังสือเก่า 3

ลองอ่านเรื่องที่ 3 นะครับ  - เรื่องเล่าจากหนังสือสมโภช 100 ปี (1890-1990) วัดพระคริสตประจักษ์ บ้านเล่า ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นครนายก  มีบทความที่น่าสนใจดี
.....อ่านต่อ
 

วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พระสังฆราชไนจีเรียเห็นนิมิตพระเยซูเจ้า



โรม,อิตาลี, 21 เม.ย. 2015(CNA/EWTN News) – พระสังฆราช โอลีเวอร์ ดาเช โดมี แห่งไนจีเรียเล่าว่า ท่านได้เห็นพระคริสต์ในนิมิต  และเดี๋ยวนี้ท่านตระหนักแล้วว่า  สายประคำคือกุญแจสำคัญในการกำจัดกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามที่กำลังรุกรานประเทศอยู่ในเวลานี้
              พระสังฆราชกล่าวว่า  พระเป็นเจ้าทรงชี้แนะแก่ท่านให้เป็นผู้นำประชาชนในการสวดสายประคำจนกว่ากลุ่มก่อการร้ายจะสูญหายไป
“เมื่อปลายปีที่แล้ว  ผมอยู่ในโบสถ์น้อยและอยู่เบื้องหน้าศีลมหาสนิท...ผมสวดสายประคำ  และทันทีทันใด พระเยซูเจ้าก็ทรงปรากฏมา” พระสังฆราชเล่าให้ทาง CAN เมื่อ 8 เม.ย. 2015
ท่านเล่าต่อไปว่า  ในนิมิตนั้น พระเยซูเจ้ามิได้ตรัสอะไร  แต่ทรงยื่นดาบมาให้ท่าน  และท่านก็รับดาบนั้น
“ทันทีที่ผมรับดาบ  ดาบก็กลายเป็นสายประคำ”  พระสังฆราชเล่า  และพระเยซูเจ้าตรัสกับท่านสามครั้งว่า “โบโกฮารามจะสูญสิ้นไป”
“ผมไม่ต้องการประกาศกเพื่อให้คำอธิบาย  มันชัดเจนว่า ด้วยสายประคำ  เราจะสามารถขับไล่โบโกฮารามได้”
พระสังฆราชไม่ประสงค์จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง  แต่ท่านรู้สึกว่าพระจิตเจ้าทรงผลักดันท่านให้ต้องเล่า
ท่านเริ่มต้นกับพระสงฆ์ในสังฆมณฑลของท่านก่อน แล้วจึงบอกเล่าให้ผู้ที่มาร่วมประชุม N2015 ซึ่งจัดประชุมในกรุงแมดริดของสเปน  วันที่ 17-19 เม.ย. 2015  การประชุมจัดขึ้นในหัวข้อว่า  จะช่วยให้คริสตชนดำเนินชีวิตในประเทศที่มีการเบียดเบียนได้อย่างไร
พระสังฆราชปกครองสังฆมณฑล Maiduguri  อยู่ทางตอนเหนือของไนจีเรีย  ซึ่งมีคาทอลิกประมาณ 125,000 คน  หลังจากกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารามเริ่มรุกรานคริสตชน  ทุกวันนี้มีคริสตชนเหลือเพียง 50,000 – 60,000 คน  หลายคนหลบหนีไปสู่ที่ปลอดภัยในส่วนอื่นของไนจีเรีย
ในปี 2014 โบโกฮาราม เริ่มเป็นที่รู้จักในประชาคมโลก  จากการลักพาตัวเด็กนักเรียนหญิง 300 คน  เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2015  และต่อมาได้มีการระเบิดฆ่าตัวตาย 5 ครั้งในเมืองหลวงมาดากูรี  กลุ่มก่อการร้ายยังได้สังหารคน 1,000 คนในระยะเวลาสามเดือน  ทาง Human Rights Watch ได้รายงานว่า  มีประชาชน 6,000 คนที่ถูกกลุ่มนี้สังหารตั้งแต่ปี 2009
พระสังฆราชเชื่อว่า  พระเยซูเจ้าทรงขอให้ท่านเผยแพร่ความศรัทธาในการสวดสายประคำเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และท่านก็ทำเช่นนั้น
ไม่เพียงแต่พระสังฆราชดาเช่ เท่านั้นที่มีความศรัทธาในพระมารดาของพระคริสตเจ้าและมอบอนาคตของประเทศไว้ในพระหัตถ์ของพระนางมารีย์  ในการประชุมพระสังฆราชของไนจีเรียก็ได้มีการมอบถวายประเทศแด่พระนางถึงสองครั้งด้วย