พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฏาคม 2025 อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี

         & ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”
         & ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้องจึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
(ลูกา 10:25-37)








วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พระสันตปาปากับฟาติมา


เมื่อปลายเดือนเมษายนนี้  พระสันตปาปาฟรังซิสได้เสด็จไปที่ฟาติมา เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของการประจักษ์ของแม่พระ 
เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่เราระลึกถึงแม่พระแห่งฟาติมา  มีการส่งพระรูปแม่พระแห่งฟาติมาไปที่วาติกันและพระสันตะปาปาทรงถวายความเคารพต่อพระรูปแม่พระ  พระองค์ทรงคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสาส์นแห่งฟาติมา? ทำไมดูเหมือนว่าแม่พระแห่งฟาติมามีความสำคัญพิเศษต่อพระองค์  เช่นเดียวกับพระสันตปาปาองค์ก่อนสองพระองค์?
เหตุการณ์อัศจรรย์ที่ฟาติมาในปี 1917 เกิดขึ้น ในเวลาที่โลกกำลังเข้าสู่ศตวรรษที่ 20  ศตวรรษที่เกิดสงครามโลกสองครั้ง  เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จำนวนมากมาย  มีการประดิษฐ์อาวุธนิวเคลียร์ และเทคโนโลยี่ใหม่ๆมากมายกำเนิดขึ้นซึ่งเปลี่ยนแปลงโลกและเผ่าพันธุ์มนุษย์
ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2013 พระคาร์ดินัลแห่งลิสบอนได้ประกอบพิธีถวายสมณะสมัยของพระสันตปาปาฟรังซิสแด่แม่พระแห่งฟาติมา  และท่านได้สวดภาวนาเพื่อพระสันตะปาปาขอให้พระองค์ “ได้รับพระพรที่จะรู้ถึงหนทางที่จะฟื้นฟูพระศาสนจักรขึ้นใหม่” และขอให้พระองค์ได้รับการปกป้อง “ในเวลาแห่งความยุ่งยากและเป็นทุกข์ เ พื่อที่พระองค์จะได้มีชัยชนะในความรักต่อการทดลองเพื่อนำพระศาสนจักรไปสู่การฟื้นฟู”   และ 5 เดือนต่อมา  พระสันตปาปาฟรังซิสก็ทรงถวายโลกแด่แม่พระแห่งฟาติมาในวันที่ 13 ตุลาคม 2013
พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 เสด็จเยือนฟาติมาสามครั้ง และในปี 2000 ทรงประกาศให้ฟรังซิสโกและยาชินทาเป็นบุญราศี  ทั้งทรงถวายสหัสวรรษที่สามแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์เบื้องหน้าพระรูปแม่พระแห่งฟาติมา  ในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2000 โดยมีพระสังฆราช 1,400 องค์ร่วมพิธีมิสซาพระคุณการุณย์ยูบีลี
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงสนับสนุนฟาติมาและได้เสด็จเยี่ยมในเดือน พ.ค. 2010 ครั้งนั้นพระองค์ตรัสว่า “พวกเราเข้าใจผิดที่คิดว่าคำทำนายแห่งฟาติมาสำเร็จสมบูรณ์แล้ว”
มีเรื่องราวที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับนิมิตของพระสันตปาปาเลโอที่ 13   พระองค์ได้ยินซาตานพูดเบื้องพระพักตร์พระเป็นเจ้าว่า  ถ้าหากมันมีเวลา 100 ปี  มันจะสามารถทำลายพระศาสนจักรได้  และเป็นที่น่าสังเกตุว่าวันนั้นคือวันที่ 13 ตุลาคม 1884  วันซึ่งตรงกันอย่างน่าประหลาดใจ
13 พ.ค. 1917 แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาครั้งแรก
13 ต.ค. 1917 เกิดอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา
13 พ.ค. 1981 พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์
13 ต.ค. 2013 พระสันตปาปาฟรังซิสถวายโลกแด่แม่พระแห่งฟาติมา
เป็นไปได้ไหมที่ระยะเวลาที่เราดำรงชีวิตอยู่นี้คือระยะเวลาที่ซาตานพยายามทำลายพระศาสนจักร? ถ้าเป็นดังนั้นเวลานั้นกำลังสิ้นสุดลงในปี 2017 ใช่ไหม?  นี่จะทำให้การที่พระสันตปาปาเสด็จเยี่ยมฟาติมาในปี 2017 เป็นเวลาที่สำคัญเป็นพิเศษหรือไม่?
            เมื่อพระสันตปาปาฟรังซิสประกอบพิธีฉลองในวันที่ 13 ต.ค. 2013 พระองค์ตรัสว่า “พระรูปแม่พระซึ่งมาจากฟาติมานี้ ทำให้เรารู้สึกว่าพระนางประทับอยู่ท่ามกลางพวกเรา  แม่พระทรงนำพวกเราไปหาพระเยซูเจ้าเสมอ...ไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้สำหรับพระเมตตาของพระเป็นเจ้า  แม้แต่เงื่อนปมที่ยุ่งยากที่สุดก็หลุดได้โดยพระหรรษทานของพระองค์  และพระนางมารีย์ผู้ขานรับ “ได้ค่ะ” ต่อพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า  ก็ได้เปิดประตูให้แด่พระเป็นเจ้าเพื่อทรงกำจัดเงื่อนปมของความไม่นบนอบเชื่อฟังในอดีตกาลให้หมดสิ้นไป  ความรักและความอดทนของพระนางที่มีต่อพวกเราที่ได้นำพวกเราไปสู่พระเป็นเจ้า  เพื่อที่พระองค์จะทรงกำจัดเงื่อนปมที่แน่นหนาในวิญญาณของเราโดยอาศัยพระเมตตาของพระองค์”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น