นี่คือพระรูปที่ประดิษฐานอยู่ที่โบสถ์เซนต์สตานิสลอส คอสต์กา(St. Stanislaus Kostka) ในชิคาโก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาสนวิหารแห่งพระเมตตาด้วย, คุณพ่อ Anthony Bus, CR เป็นอธิการคนปัจจุบัน,และอยู่มาเป็นเวลานานของวัดนี้ ท่านมีความฝันเกี่ยวกับพระรูปในลักษณะนี้ (ซึ่งต่อมาถูกสร้างขึ้นมาตามความฝันของท่าน) ในฐานะที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมือง โบสถ์แห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ผู้คนมานมัสการพระเจ้าได้ตลอดเวลาในโบสถ์ที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงามในชิคาโก
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม
  ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
  พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
  เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม
  ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
  พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
  เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)
วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2566
ปีศาจปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์
นักบุญจูเลียนาถูกจำคุกและถูกทรมานเพราะการเป็นคริสตชน
ตามประวัติเล่าว่า หลังจากที่เธอถูกเฆี่ยนและถูกเขวนด้วยเส้นผมของเธอ,ปีศาจได้ปรากฏต่อเธอในห้องขังในรูปปรากฏของทูตสวรรค์ แน่นอนว่าปีศาจยังคงมีคุณสมบัติของทูตสวรรค์อยู่ แต่มันเป็นทูตสวรรค์ที่ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ ในห้องขังนั้น,มันแสร้งทำตัวเป็นทูตสวรรค์ที่ดี มันพยายามล่อลวงจูเลียนาให้หันหลังให้กับความเชื่อของเธอ แต่จูเลียนารู้ทันการหลอกลวงนี้และขับไล่ปีศาจให้พ้นไป มีบางที่บอกว่าเธอได้ทำกระทั่งล่ามโซ่ปีศาจเอาไว้ด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566
แม้แต่นักบุญก็ยังบ่น
มีเรื่องตลกขบขันเกี่ยวกับนักบุญเทเรซาแห่งอาวีลาอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นความจริงในเรื่องนี้ รายละเอียดอาจจะแตกต่างกันไป แต่แก่นของเรื่องก็คือ ขณะที่นักบุญเทเรซาเดินทางไปยังคอนแวนต์แห่งหนึ่งของเธอ เธอก็ตกจากหลังม้าขณะข้ามลำธารอันหนาวเย็น กระแสน้ำแรงมาก เธอเสียหลักและเกือบจะถูกพัดหายไป เมื่อเทเรซาบ่นเกี่ยวกับการทดลองที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าบ่นเลย ลูกสาว เพราะว่าเราจะปฏิบัติต่อเพื่อนของเราในลักษณะนี้เสมอ”
เทเรซาตอบด้วยอารมณ์ขันตามปกติของเธอว่า “โอ้พระเยซูเจ้า เพราะเหตุนั้นพระองค์จึงมีเพื่อนน้อยเช่นกัน!” ในภาษาอังกฤษของสมัยใหม่เขียนว่า เทเรซาตะโกนใส่พระเยซูเจ้าว่า "ถ้านี่คือวิธีที่พระองค์ปฏิบัติต่อเพื่อนของพระองค์แล้วละก็ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พระองค์มีเพื่อนน้อยมาก"
วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566
แม่พระและหีบแห่งพันธสัญญา
พระธรรมเดิม
2ซามูแอล 6:9 กษัตริย์ดาวิดกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นใครเล่า หีบของพระเจ้าจึงมาสู่ข้าพเจ้า”
พระธรรมใหม่
ลูกา 1:43 นางเอลีซาเบธกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นใครเล่า พระมารดาของพระเจ้าจึงมาเยี่ยมข้าพเจ้า”
พระธรรมเดิมบอกเล่าถึงพระธรรมใหม่ พระธรรมใหม่ทำให้พระธรรมเดิมสมบูรณ์
พระนางมารีย์เปรียบได้กับหีบพันธสัญญาในพระธรรมเดิม
#Catholic 4 Life
วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566
สาส์นแม่พระ 25 ก.ย. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
แม่ขอให้ลูกสวดภาวนาอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น ลัทธิสมัยใหม่นิยมกำลังเข้าสู่ความคิดของลูกและมันขโมยความยินดีในการสวดภาวนาและการได้พบกับพระเยซูเจ้าไปจากลูก ลูกน้อยที่รักทั้งหลายของแม่,นี่คือเหตุผลที่แม่ขอให้ลูกรื้อฟื้นการสวดภาวนาในครอบครัวของลูกขึ้นมาใหม่ เพื่อที่หัวใจเยี่ยงมารดาของแม่จะเต็มเปี่ยมด้วยความยินดีเหมือนในวันแรก,เมื่อแม่เลือกพวกลูก,และลูกสวดภาวนาทั้งกลางวันและกลางคืน --- และสวรรค์ไม่อาจเงียบเสียงได้แต่หลั่งพระพรแห่งสันติภาพลงมาอย่างมากมายและอวยพรมากมายแก่สถานที่แห่งพระหรรษทานแห่งนี้
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566
ปีศาจกับนักบุญ2
บุญราศีอันนา มาเรีย ไทจิ ถูกปีศาจโจมตีอย่างโหดร้าย มองซิเยอร์นาตาลี,ซึ่งพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ชั้นบนในบ้านของบุญราศี, ครั้งหนึ่งถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงของการโจมตี เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว คว้าขวดน้ำเสกแล้วรีบลงไปชั้นล่าง เขาพบอันนา มาเรียอยู่บนพื้นเต็มไปด้วยเลือด หลังจากที่เขาพรมน้ำเสกไปทั่วห้องแล้ว อันนาก็สามารถลุกขึ้นและสวดภาวนาต่อไปได้
Tanquerey คิดว่าน้ำเสกทำให้ปีศาจหนีไป "เพราะซาตานรู้สึดอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งและต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อเห็นว่าตัวมันมึนงงกับอุปกรณ์ง่ายๆเช่นนี้"
Source: Angels and Devils
วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566
ปีศาจกับนักบุญ
นักบุญมาร์กาเร็ต มารี อาลาก็อกเขียนไว้ในสมุดอัตชีวประวัติของเธอว่า หลังจากได้รับประสบการณ์การมาเยือนจากพระเยซูเจ้าแล้ว, ปีศาจได้มาปรากฏต่อเธอด้วย “มันได้ปรากฏตัวต่อดิฉันภายใต้รูปลักษณ์ของชาวแขกมัวร์ที่น่าสะพรึงกลัว, ดวงตาของมันมีแสงราวกับถ่านที่มีชีวิตสองก้อน มันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ดิฉัน” มันพูดว่า “ขอสาปแช่งเจ้า ข้าจะจับเจ้า และถ้าข้าได้ตัวเจ้าด้วยอำนาจของเราแล้ว, เราจะทำให้เจ้ารู้สึกถึงสิ่งที่เราทำได้, เราจะทำร้ายเจ้าในทุกโอกาส" นักบุญกล่าวต่อไปว่า "ถึงกระนั้นดิฉันก็ไม่กลัวสิ่งใดเลย ความเข้มแข็งภายในที่ดิฉันสัมผัสนั้นยิ่งใหญ่มาก... เพราะดิฉันมีไม้กางเขนเล็กๆอยู่กับตัวเสมอ ซึ่งพระผู้ช่วยให้รอดของดิฉันได้มอบอำนาจที่จะขับไล่ความโกรธแค้นอันชั่วร้ายทั้งหมดนี้ไปจากดิฉัน"
Devils And Their Odors
วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566
คำพูดของนักบุญ
“สิ่งที่ยึดครองจิตใจและทำร้ายจิตวิญญาณมิใช่สิ่งของของโลกนี้ แต่เป็นความพอใจและความปรารถนาต่อสิ่งเหล่านั้น เพราะสิ่งที่เข้าไปในวิญญาณและสถิตอยู่ในนั้น มิใช่สิ่งของ แต่เป็นความปรารถนาในสิ่งของต่างๆ"
พระเจ้าทรงวัดความดีสมบูรณ์ของเราไม่ใช่จากปริมาณหรือความยิ่งใหญ่ของการกระทำของเรา แต่วัดจากลักษณะที่เรากระทำสิ่งเหล่านั้น”
- นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน
วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566
สวดภาวนาเพื่อผู้เสียชีวิต
ครั้งหนึ่งในปี 1949 คุณพ่อปีโอพูดกับนายแพทย์คนหนึ่งซึ่งสนิทสนมกับท่านมาก ทั้งสองคุยกันเรื่องการสวดภาวนาเพื่อคนที่เสียชีวิตไปแล้ง คุณพ่อปีโอพูดกับเขาว่า “บางทีคุณคงไม่รู้ว่าแม้แต่ในตอนนี้พ่อก็ยังสามารถสวดภาวนาให้ปู่ทวดของพ่อให้พวกท่านตายอย่างมีความสุขได้!” แต่นายแพทย์กลับตั้งข้อสังเกตว่าปู่ทวดของคุณพ่อปีโอเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว และคุณพ่อปีโอจะสวดภาวนาเพื่อให้คนเหล่านั้นเสียชีวิตอย่างดีได้อย่างไร? แล้วคุณพ่อปีโอก็อธิบายว่า “เพราะว่าอดีตไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งคือปัจจุบันชั่วนิรันดร์ คำภาวนาเหล่านี้ได้รับการพิจารณาด้วย ดังนั้นพ่อจึงขอย้ำอีกครั้งว่าแม้ในตอนนี้พ่อก็สามารถสวดภาวนาให้ปู่ทวดของพ่อให้พวกท่านเสียชีวิตอย่างมีความสุขได้!”
วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566
คำพูดของนักบุญ
ยุคสมัยใหม่ถูกครอบงำโดยซาตาน และมันจะเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต
มนุษย์ไม่สามารถต่อกรกับความขัดแย้งกับนรกนี้ได้,แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุด
แม่พระปฏิสนธินิรมลแต่เพียงผู้เดียวที่ทรงได้รับพระสัญญาจากพระเจ้าว่าจะมีชัยชนะเหนือซาตาน
อย่างไรก็ตาม,พระนางทรงถูกยกขึ้นสู่สวรรค์แล้ว
เวลานี้,พระมารดาของพระเจ้าทรงต้องการความร่วมมือของพวกเรา
พระนางแสวงหาวิญญาณที่ถวายตัวของพวกเขาทั้งครบแด่พระนาง
ผู้ซึ่งจะกลับกลายเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพในพระหัตถ์ของพระนางเพื่อที่จะพิชิตซาตาน
และแพร่กระจายพระอาณาจักรของพระเจ้าไปบนแผ่นดินโลก
- คุณพ่อแม็กซิมิเลียน โคลเบ
“
วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566
เชื่อมต่อขาที่ขาด
นักบุญแอนโทนี,ระหว่างเดินทางไปอิตาลีโดยผ่านสเปนเพื่อไปเทศน์ที่เมืองเลริดา(Lerida) เมืองนี้อยู่บริเวณชายแดนสเปนและอิตาลี
มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อเลโอนาร์โดอาศัยอยู่ในเมืองนี้ และเขาใช้ชีวิตในบาป วันหนึ่งแม่ของเขาพยายามแนะนำเขาให้ดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อเธอพูดกับเขาเช่นนั้น เขาก็โกรธ เขาผลักเธอล้มลงอย่างรุนแรงด้วยความโกรธและเตะเธอด้วย แม้ว่าเขาจะโกรธมาก แต่เขาก็ยังนึกถึงโบสถ์ที่อยู่ใกล้ๆ และไปที่นั้น แอนโทนี่กำลังเทศน์สอนผู้คนอยู่ คำเทศนามีผลทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายและคิดถึงชีวิตของเขาด้วย เขาตระหนักว่าเขาใช้ชีวิตแบบคนชั่วและตัดสินใจสารภาพบาปกับแอนโทนีและขออภัยบาป
เมื่อเขาสารภาพบาปกับแอนโทนี เขาเล่าสิ่งที่เขาทำกับแม่ของเขา แอนโทนีบอกเขาว่าการชดเชยใช้โทษบาปของเขาก็คือให้ตัดสิ่งที่เขากระทำต่อแม่ของเขา ชายหนุ่มผู้กลับใจยอมรับคำพูดของแอนโทนีอย่างจริงจัง เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาก็ใช้ดาบตัดขาของเขาออก
แม่ของเขาเห็นการกระทำอันน่าสยดสยองของลูกชายก็ตกใจและโศกเศร้า เธอถามลูกชายของเธอว่าทำไมเขาถึงทำร้ายตัวเองขนาดนี้ และเขาบอกเธอว่าเขาทำตามคำแนะนำของแอนโทนี หลังจากทราบข่าวจากลูกชายว่าแอนโทนีอยู่ที่ไหน เธอจึงรีบไปโบสถ์และร้องไห้ไปตลอดทาง เมื่อไปถึงโบสถ์เธอบอกแอนโทนีถึงสิ่งที่ลูกชายของเธอทำ แอนโทนีรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำบอกเล่าที่น่าเศร้าของเธอ เขาอธิบายให้เธอฟังอย่างอดทนว่าท่านขอให้เขาตัดชีวิตที่บาปของเขา ไม่ใช่ตัดขาของเขา เขาปลอบเธอโดยบอกเธอว่าลูกชายของเธอจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่อย่างแน่นอนสำหรับการกลับใจ และบอกว่าจะไปที่บ้านเธอพร้อมกับเธอ
เมื่อแอนโทนีมาถึงบ้านของหญิงผู้นั้น,เขาก็เห็นลูกชายนอนอยู่บนกองเลือด,บิดตัวด้วยความเจ็บปวด, มือข้างหนึ่งมีขาขาดและมีดาบอยู่อีกข้างหนึ่ง แอนโทนีหยิบขาที่ถูกตัดแล้ววางไว้ตรงจุดที่ถูกตัดแล้วทำเครื่องหมายไม้กางเขนไว้บนนั้น กระดูกที่หักกลับมารวมกันอีกครั้ง และเนื้อที่ถูกตัดออกก็กลับมารวมกันอีกกลายเป็นขาทั้งหมด การไหลเวียนโลหิต ณ จุดนั้นก็กลายเป็นปกติเช่นกัน ชายหนุ่มที่กลับใจลุกขึ้นยืนทันทีและเดินเหมือนคนปกติ เขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าและแอนโทนี่อย่างมาก
วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566
บันไดสวรรค์
ในชีวประวัติของนักบุญโดมินิก (1170-1221) ยังมีการกล่าวถึงบันไดสวรรค์ด้วย เรื่องเกิดขึ้นในวันหนึ่งที่คุณพ่อกัวโล โรมาโนนิ(Guallo Romanoni) อธิการของอาราม Friars Preachers ในเมืองเบรสเชีย(Brescia) ได้เผลอหลับไปโดยพิงอยู่ที่หอระฆังในโบสถ์ของท่าน และท่านก็ฝันไป,ในความฝันท่านเห็นบันไดสองอันพาดลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบน ที่ด้านบนสุดของบันไดอันหนึ่งคือพระเยซูเจ้า และที่ด้านบนสุดของบันไดอีกอันหนึ่งคือพระมารดาของพระองค์ เหล่าทูตสวรรค์เดินขึ้นๆลงๆบนบันไดทั้งสอง และที่ปลายด้านล่างของบันไดมีผู้หนึ่งที่แต่งกายนักบวชยืนอยู่ แต่ใบหน้าของเขาถูกคลุมด้วยหมวกของเสื้อคลุม ตามแบบที่นักบวชทั้งหลายทำในการคลุมหน้าของผู้ตายเวลาที่พวกเขาจะนำผู้ตายไปฝังศพ แล้วบันไดก็ถูกลากขึ้นสู่สวรรค์ และคุณพ่อโรมาโนนีเห็นนักบวชที่ไม่รู้จักคนนั้นถูกรับขึ้นไปเข้าร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์,รายล้อมไปด้วยพระสิริรุ่งโรจน์อันเจิดจ้า และอยู่แทบพระบาทของพระเยซู เมื่อคุณพ่อโรมาโนนีตื่นขึ้นมาก็รู้สึกงุนงงกับความหมายของนิมิตความฝันนี้ แต่ในไม่ช้าท่านก็รู้ว่าในเวลาเดียวกันกับที่ท่านฝัน,นักบุญดอมินิกได้สิ้นชีวิตในเมืองโบโลญญา
ที่มา: Angels and Devils
วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566
เป็นนักบุญทั้งครอบครัว
นี่คือภาพเหมือนอย่างเป็นทางการของครอบครัวอุลมา(Ulma family)ที่ได้รับการเปิดเผยระหว่างพิธีมิสซาสถาปนาพวกเขาเป็นบุญราศีมรณสักขี โดยเป็นภาพของ Józef และ Wiktoria กับลูกๆท่ามกลางทิวทัศน์ในช่วงฤดูร้อน ภาพวาดนี้วาดขึ้นโดยศิลปิน Oleg Chizhovsky ในภาพจะเห็นบ้านของครอบครัว Ulmas, ทางด้านซ้ายมือเป็นรังผึ้ง, และสวนผลไม้อยู่ทางด้านขวา โดยอ้างอิงจากความสนใจในการทำสวนของพวกเขา
Blessed Wiktoria Ulma กำลังตั้งครรภ์และอุ้มลูกสาวคนเล็กชื่อ Marysia โจเซฟยืนอยู่ทางด้านขวาของภาพและมีกิ่งปาล์มอยู่ในมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรับความทรมานของพวกเขา
สตาเซีย(Stasia)กำลังถือดอกลิลลี่สีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา Antoš โชว์ไม้กางเขนที่ทำจากไม้ให้ Basia น้องสาวของเขาดู ลูกชายคนโตสองคน Wladzio และ Frania อยู่ระหว่างพ่อแม่ของพวกเขา
พระคาร์ดินัลผู้แทนพระสันตปาปาได้ประกอบพิธีมิสซาสถาปนาบุคคลในครอบครัวนี้ทุกคน(รวมทั้งทารกในครรภ์ด้วย)เป็นมรณสักขีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2023 ที่หมู่บ้านMarkowa,ทางตอนใต้ของโปแลนด์ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการสถาปนาครอบครัวเป็นบุญราศี ครอบครัวอุลมาทุกคนได้ให้ความช่วยเหลือชาวยิว 8 คนให้พ้นจากเงื้อมมือของทหารนาซี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยซ่อนพวกเขาไว้ แต่ทหารนาซีก็ค้นหาจนพบ ทหารจึงฆ่าคนในครอบครัวอุลมาทั้งหมด
วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2566
สายประคำไม่พันกัน
ปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งในการประจักษ์ที่การาบังดัลคือการที่สายประคำคืนสู่เจ้าของ เวลานั้นผู้คนเริ่มเชื่อว่าพระแม่มารีย์ทรงประจักษ์ที่การาบันดัลจริงๆ คนนับร้อยนับพันคนจึงนำสายประคำและเหรียญพระรูปมาให้แม่พระทรงจุมพิต ศาสนภัณฑ์ทั้งหมดถูกวางกองไว้บนโต๊ะเพื่อให้เด็กหญิงถวายแด่แม่พระ สายประคำทั้งหมดที่ผู้คนนำมานั้นพันกันจนแยกไม่ออก เมื่อเด็กหญิงถวายสายประคำเหล่านั้นให้แม่พระและส่งคืนให้เจ้าของ,สายประคำกลับแยกจากกันเอง,ไม่พันกันเหมือนในตอนแรก เด็กหญิงผู้เห็นแม่พระส่งคืนสายประคำให้แก่เจ้าของได้อย่างถูกต้องไม่เคยผิดพลาด และไม่ต้องมองหาเจ้าของเลย แม่พระทรงพาพวกเขาไปหาเจ้าของสายประคำแต่ละเส้นทั้งๆที่เด็กหญิงจ้องมองขึ้นไปที่แม่พระตลอดเวลา
เรื่องราวนี้ถูกกล่าวถึงในหนังสือ “Garabandal” โดย J. Serre หน้า 50-54
“She went in haste to the Mountain” เล่ม 1 หน้า 76-80
วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2566
เจ้าสาวของพระจิตเจ้า
ในหลายตอนของพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ พระจิตเจ้าทรงเรียกพระนางมารีย์ว่าทรงเป็นเจ้าสาวของพระองค์ แม้แต่ในชั่วเวลาแรกที่พระนางทรงปฏิสนธิ พระองค์ทรงประทานพระหรรษทานอันไพบูลย์แก่พระนางเป็นอันมากจนบรรดาทูตสวรรค์และนักบุญทั้งหมดรวมกันยังไม่ได้รับความสมบูรณ์ถึงระดับนั้น
พระจิตเจ้าทรงปีติยินดีในความงามของพระนางมารีย์และทรงอุทานด้วยความชื่นชมว่า "เธอช่างงดงามยิ่งนัก,สุดที่รักของเรา” (บทเพลง. 4:1). แต่เหนือสิ่งอื่นใดในการมาบังเกิดขององค์พระบุตรของพระเจ้าทำให้พระนางมารีย์กลายเป็นเจ้าสาวที่แท้จริงของพระจิตเจ้า เพราะพระนางทรงครรภ์พระวจนาตถ์นิรันดรด้วยพระฤทธานุภาพของพระจิตเจ้า
โดยผ่านทางพระนางมารีย์ และพร้อมกับพระนางมารีย์ และในพระนางมารีย์, พระจิตเจ้าทรงนำมนุษย์-พระเจ้าบังเกิดมาในโลก และในทำนองเดียวกัน,ในทุกวันจนถึงวันสิ้นพิภพ,พระองค์จะทรงนำบรรดาบุตรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ออกมาเช่นกัน นักบุญหลุยส์ มารีกรีญอง เดอ มงฟอร์ต กล่าวว่า "พระจิตเจ้าทรงประทานพระพรอันทรงคุณค่าจนมิอาจประเมินได้ของพระองค์แก่พระนางมารีย์ และทรงแต่งตั้งพระนางให้เป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทานทั้งหมดของพระองค์ เพื่อที่พระนางจะทรงแจกจ่ายพระพรและพระหรรษทานของพระองค์แก่ผู้ที่พระนางทรงประสงค์, มากเท่าที่พระนางทรงประสงค์ และด้วยวิธีและสถานที่ที่พระนางทรงประสงค์ สวรรค์จะไม่ประทานพระหรรษทานใดๆแก่มนุษย์เว้นแต่โดยผ่านทางมือของพระนางพรหมจารีย์” นักบุญเบอร์นาร์ดและนักบุญอัลฟอนโซและนักเทวศาสตร์อีกหลายคนมีความเห็นเช่นเดียวกัน
เพื่อทำให้พระนางมารีย์ได้รับตำแหน่งใหม่อันสูงส่งในฐานะมารดาแห่งบุตรธิดาทุกคนของพระเจ้า พระนางต้องการพระหรรษทานครบบริบูรณ์ และสิ่งนี้พระนางทรงได้รับจากพระจิตเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จมาในวันเพ็นเทคอสต์ พระนางมารีย์ทรงอยู่ร่วมกับอัครสาวกในห้องชั้นบน(Cenacle) และสวดภาวนาร่วมกับพวกเขาเป็นเวลาเก้าวันและพระนางทรงถอนหายใจสำหรับการเสด็จมาของพระผู้บรรเทาจากสวรรค์ ด้วยคำสวดภาวนาและความปรารถนาอันแรงกล้าของพระนางที่ทำให้พระจิตเจ้าเสด็จลงมาพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติแห่งพระหรรษทานทั้งหลาย
เราต้องแสวงหาพระหรรษทานโดยทางพระนางมารีย์ เพราะพระนางคือเจ้าสาวของพระจิตเจ้า และพระหรรษทานทั้งหมดถูกแจกจ่ายผ่านทางมือของพระนางเท่านั้น
ที่มา: Devotion to the Holy Ghost
วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2566
วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2566
วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566
สวดสายประคำทุกวัน
นี่คือภาพวาดตามความฝันของผู้น่าเคารพคุณพ่อโซลานุส เคย์ซี (Venerable Fr. Solanus Casey) เมื่อเขายังเป็นเด็ก,คุณพ่อโซลานุสสวดสายประคำทุกคืน คืนหนึ่ง, เนื่องจากเขาเหน็ดเหนื่อยมาก, เขาพยายามอย่างหนักที่จะสวดสายประคำ และเขาก็ทำได้สำเร็จ คืนนั้นเขาฝัน, ในความฝันเขาอยู่เหนือหลุมไฟใหญ่และถือลูกประคำไว้เหนือศีรษะเพื่อหนีไฟ
สายประคำเป็นการสวดภาวนาที่สำคัญอย่างยิ่งที่พระแม่มารีย์ได้ประทานแก่เรา เป็นความศรัทธาซึ่งพวกเราทุกคนควรปฏิบัติเสมอทุกวัน แม่พระแห่งฟาติมาเปิดเผยกับเราว่าเราต้องสวดสายประคำทุกวันเพื่อให้ทั่วโลกมีสันติภาพ
การสวดสายประคำให้ผลลัพท์ที่น่าอัศจรรย์มากมาย ทั้งสำหรับผู้ที่สวดเองและสำหรับคนรอบข้างด้วย ผลของการสวดสายประคำสามารถเห็นได้ทั่วโลก ขอให้ระลึกถึงการสู้รบที่เลปันโต ซึ่งคริสตศาสนจักรได้รับชัยชนะจากผู้รุกรานชาวมุสลิมอย่างเด็ดขาดเพราะการแทรกแซงช่วยเหลือของพระแม่มารีย์
สวดสายประคำวันละครั้งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เถิด! เมื่อคุณทำครบ 1 สัปดาห์แล้ว จะไม่มีอะไรหยุดคุณได้ คุณจะได้ใช้เวลาอันมีค่าในการใคร่ครวญเกี่ยวกับพระธรรมลึกลับ แม้แต่มาร์ติน ลูเทอร์ผู้ให้กำเนิดโปรแตสแตนท์เองก็เคยพูดว่า "คำอธิษฐานของเราควรรวมถึงพระมารดาของพระเจ้าด้วย . . บทวันทามารีย์คือการถวายพระสิริรุ่งโรจน์ทั้งหมดแด่พระเจ้า โดยใช้คำพูดเหล่านี้: "วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้ได้รับพระพรยิ่งกว่าสตรีใดๆ และพระเยซูโอรสของท่านทรงได้รับพระพรยิ่งนัก........ อาเมน!" เราควรสวดสายประคำเพื่อขอให้ทุกคนได้รู้จักและเคารพพระนางมารีย์ด้วย”
#Catholic 4 Life🌹❤️🙏
วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566
มหาวิหารแม่พระแห่งสุขภาพดี
ประชากรคริสตชนในอินเดียมีอยู่ 2% +ของประชากรทั้งหมด ในวันที่ 29 สิงหาคม ผู้คน 2 ล้านคน (คริสตชน, ฮินดู, มุสลิม, ซิกข์, ชาวพุทธ ฯลฯ) ร่วมเป็นสักขีพยานในการชักธงและสวดภาวนาที่มหาวิหารแม่พระแห่งสุขภาพที่ดี หรือที่เรียกว่า 'เมืองลูร์ดแห่งตะวันออก' ในแต่ละสัปดาห์ ผู้คนหนึ่งล้านคนมาเยี่ยมชมมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จำนวนผู้มาแสวงบุญณ.ที่แห่งนี้มีจำนวนมากกว่ามากเมื่อเทียบกับสักการะสถานพระแม่แห่งลูร์ดในเมืองลูร์ด, ประเทศฝรั่งเศส (วันที่ 8 กันยายน เป็นวันคล้ายวันเกิดแม่พระ)
“ต่อนี้ไปมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่าผู้ได้รับพระพรยิ่งใหญ่”
✝️ ลูกา 1:46-49)
“
#Catholic 4 Life
“
วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566
สายประคำกับหญิงที่ถูกปีศาจเข้าสิง
ในหนังสือ”ความลับแห่งสายประคำ (The Secret of the Rosary)”, นักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต เล่าว่าคุณพ่อฌอง อามัต(Father Jean Amat) คณะโดมินิกันกำลังปฏิบัติจำศีลอดอาหารในอาณาจักรแห่งอารากอน ประเทศสเปน มีเด็กสาวที่ถูกปีศาจเข้าสิงถูกนำมาหาท่าน
คุณพ่ออามัตเริ่มประกอบพิธีขับไล่ปีศาจ หลังจากพยายามไม่สำเร็จหลายครั้ง,คุณพ่อก็มีความคิดหนึ่ง ท่านเอาสายประคำคล้องไว้ที่คอของหญิงสาว
ไม่ทันที่ท่านจะทำเช่นนี้, เด็กสาวก็เริ่มดิ้นและกรีดร้อง และปีศาจก็ตะโกนทางปากของเธอว่า “ถอดมันออก,ถอดออก, ถอด; ลูกปัดเหล่านี้กำลังทรมานข้า!”
ในที่สุด,ด้วยความสงสารหญิงสาว,คุณพ่ออามัตก็เอาสายประคำออกจากคอของเธอ
คืนต่อมา, ขณะที่พระสงฆ์โดมินิกันนอนอยู่บนเตียง ปีศาจที่สิงเด็กสาวก็เข้ามาในห้องของท่าน พวกมันพยายามจับตัวพระสงฆ์ด้วยความโกรธแค้น แต่ท่านถือสายประคำไว้ในมือ และความพยายามใดๆของปีศาจที่จะดึงสายประคำไปจากพระสงฆ์ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
จากนั้นพระสงฆ์เริ่มรุกและใช้สายประคำเป็นอาวุธประจำกาย, คุณพ่ออามัติทำการไล่ปีศาจโดยร้องว่า “พระแม่มารีย์, พระแม่แห่งสายประคำ, กรุณาช่วยลูกด้วยเถิด,โปรดเสด็จมาช่วยลูกด้วย!” และปีศาจก็หนีไป
วันต่อมา, ระหว่างทางไปโบสถ์, คุณพ่ออามัติได้พบกับเด็กหญิงผู้น่าสงสารคนเดิม, ซึ่งยังคงถูกครอบงำอยู่ ปิศาจตนหนึ่งในตัวเธอเยาะเย้ยคุณพ่อว่า “ว่าไงล่ะ,บราเดอร์,ถ้าหากท่านไม่มีสายประคำ, พวกเราอาจจะช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆให้ท่านนะ…”
ด้วยความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้น,คุณพ่ออามัติปลดสายประคำออกจากผ้าคาดเอวของท่าน และเหวี่ยงสายประคำไปที่คอของหญิงสาวพร้อมกับสั่งว่า “ด้วยพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูและพระนางมารีย์ พระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และด้วยอำนาจแห่งสายประคำอันศักดิ์สิทธิ์ เราขอสั่งเจ้า, วิญญาณชั่วร้าย,ให้ออกจากร่างของหญิงสาวคนนี้ทันที”
ปีศาจถูกบังคับให้เชื่อฟังเขาทันที และเด็กสาวก็ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
“เรื่องราวเหล่านี้” นักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ตสรุป “แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจของสายประคำศักดิ์สิทธิ์ในการเอาชนะการล่อลวงทุกประเภทจากวิญญาณชั่วร้ายและบาปทุกประเภท เพราะสายประคำที่ได้รับการอวยพรเหล่านี้ทำให้ปีศาจพ่ายแพ้”
~ #Catholic 4 Life🌹❤️🙏
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)