พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันเสาร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566

พระรูปแม่พระและหีบพันธสัญญา


นี่คือพระรูปที่ประดิษฐานอยู่ที่โบสถ์เซนต์สตานิสลอส คอสต์กา(St. Stanislaus Kostka) ในชิคาโก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาสนวิหารแห่งพระเมตตาด้วย, คุณพ่อ Anthony Bus, CR เป็นอธิการคนปัจจุบัน,และอยู่มาเป็นเวลานานของวัดนี้ ท่านมีความฝันเกี่ยวกับพระรูปในลักษณะนี้ (ซึ่งต่อมาถูกสร้างขึ้นมาตามความฝันของท่าน) ในฐานะที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมือง โบสถ์แห่งนี้เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ผู้คนมานมัสการพระเจ้าได้ตลอดเวลาในโบสถ์ที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงามในชิคาโก

วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2566

ปีศาจปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์


นักบุญจูเลียนาถูกจำคุกและถูกทรมานเพราะการเป็นคริสตชน 
ตามประวัติเล่าว่า หลังจากที่เธอถูกเฆี่ยนและถูกเขวนด้วยเส้นผมของเธอ,ปีศาจได้ปรากฏต่อเธอในห้องขังในรูปปรากฏของทูตสวรรค์ แน่นอนว่าปีศาจยังคงมีคุณสมบัติของทูตสวรรค์อยู่ แต่มันเป็นทูตสวรรค์ที่ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ ในห้องขังนั้น,มันแสร้งทำตัวเป็นทูตสวรรค์ที่ดี มันพยายามล่อลวงจูเลียนาให้หันหลังให้กับความเชื่อของเธอ แต่จูเลียนารู้ทันการหลอกลวงนี้และขับไล่ปีศาจให้พ้นไป มีบางที่บอกว่าเธอได้ทำกระทั่งล่ามโซ่ปีศาจเอาไว้ด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566

แม้แต่นักบุญก็ยังบ่น


มีเรื่องตลกขบขันเกี่ยวกับนักบุญเทเรซาแห่งอาวีลาอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นความจริงในเรื่องนี้ รายละเอียดอาจจะแตกต่างกันไป แต่แก่นของเรื่องก็คือ ขณะที่นักบุญเทเรซาเดินทางไปยังคอนแวนต์แห่งหนึ่งของเธอ เธอก็ตกจากหลังม้าขณะข้ามลำธารอันหนาวเย็น กระแสน้ำแรงมาก เธอเสียหลักและเกือบจะถูกพัดหายไป เมื่อเทเรซาบ่นเกี่ยวกับการทดลองที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อย่าบ่นเลย ลูกสาว เพราะว่าเราจะปฏิบัติต่อเพื่อนของเราในลักษณะนี้เสมอ” 
เทเรซาตอบด้วยอารมณ์ขันตามปกติของเธอว่า “โอ้พระเยซูเจ้า เพราะเหตุนั้นพระองค์จึงมีเพื่อนน้อยเช่นกัน!” ในภาษาอังกฤษของสมัยใหม่เขียนว่า เทเรซาตะโกนใส่พระเยซูเจ้าว่า "ถ้านี่คือวิธีที่พระองค์ปฏิบัติต่อเพื่อนของพระองค์แล้วละก็ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พระองค์มีเพื่อนน้อยมาก"

วันพุธที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2566

แม่พระและหีบแห่งพันธสัญญา


พระธรรมเดิม
2ซามูแอล 6:9 กษัตริย์ดาวิดกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นใครเล่า หีบของพระเจ้าจึงมาสู่ข้าพเจ้า” 
พระธรรมใหม่ 
ลูกา 1:43 นางเอลีซาเบธกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นใครเล่า พระมารดาของพระเจ้าจึงมาเยี่ยมข้าพเจ้า” 
พระธรรมเดิมบอกเล่าถึงพระธรรมใหม่ พระธรรมใหม่ทำให้พระธรรมเดิมสมบูรณ์ 
พระนางมารีย์เปรียบได้กับหีบพันธสัญญาในพระธรรมเดิม
#Catholic 4 Life

วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566

สาส์นแม่พระ 25 ก.ย. 2023

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ก.ย. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          แม่ขอให้ลูกสวดภาวนาอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น  ลัทธิสมัยใหม่นิยมกำลังเข้าสู่ความคิดของลูกและมันขโมยความยินดีในการสวดภาวนาและการได้พบกับพระเยซูเจ้าไปจากลูก ลูกน้อยที่รักทั้งหลายของแม่,นี่คือเหตุผลที่แม่ขอให้ลูกรื้อฟื้นการสวดภาวนาในครอบครัวของลูกขึ้นมาใหม่ เพื่อที่หัวใจเยี่ยงมารดาของแม่จะเต็มเปี่ยมด้วยความยินดีเหมือนในวันแรก,เมื่อแม่เลือกพวกลูก,และลูกสวดภาวนาทั้งกลางวันและกลางคืน --- และสวรรค์ไม่อาจเงียบเสียงได้แต่หลั่งพระพรแห่งสันติภาพลงมาอย่างมากมายและอวยพรมากมายแก่สถานที่แห่งพระหรรษทานแห่งนี้     

          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

วันจันทร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566

ปีศาจกับนักบุญ2


บุญราศีอันนา มาเรีย ไทจิ ถูกปีศาจโจมตีอย่างโหดร้าย มองซิเยอร์นาตาลี,ซึ่งพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ชั้นบนในบ้านของบุญราศี, ครั้งหนึ่งถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงของการโจมตี เขารีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว คว้าขวดน้ำเสกแล้วรีบลงไปชั้นล่าง เขาพบอันนา มาเรียอยู่บนพื้นเต็มไปด้วยเลือด หลังจากที่เขาพรมน้ำเสกไปทั่วห้องแล้ว อันนาก็สามารถลุกขึ้นและสวดภาวนาต่อไปได้ 
Tanquerey คิดว่าน้ำเสกทำให้ปีศาจหนีไป "เพราะซาตานรู้สึดอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งและต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อเห็นว่าตัวมันมึนงงกับอุปกรณ์ง่ายๆเช่นนี้" 
Source: Angels and Devils

วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2566

โดมินิก ซาวีโอปรากฏแก่คุณพ่อบอสโก


“สิ่งหนึ่งที่ปลอบใจผมมากที่สุดในช่วงเวลาแห่งความตาย” ซาวิโอตอบ
>>>ดูเพิ่มเติม>>>อ่านต่อ

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566

วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566

ปีศาจกับนักบุญ


นักบุญมาร์กาเร็ต มารี อาลาก็อกเขียนไว้ในสมุดอัตชีวประวัติของเธอว่า หลังจากได้รับประสบการณ์การมาเยือนจากพระเยซูเจ้าแล้ว, ปีศาจได้มาปรากฏต่อเธอด้วย “มันได้ปรากฏตัวต่อดิฉันภายใต้รูปลักษณ์ของชาวแขกมัวร์ที่น่าสะพรึงกลัว, ดวงตาของมันมีแสงราวกับถ่านที่มีชีวิตสองก้อน มันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ดิฉัน” มันพูดว่า “ขอสาปแช่งเจ้า ข้าจะจับเจ้า และถ้าข้าได้ตัวเจ้าด้วยอำนาจของเราแล้ว, เราจะทำให้เจ้ารู้สึกถึงสิ่งที่เราทำได้, เราจะทำร้ายเจ้าในทุกโอกาส" นักบุญกล่าวต่อไปว่า "ถึงกระนั้นดิฉันก็ไม่กลัวสิ่งใดเลย ความเข้มแข็งภายในที่ดิฉันสัมผัสนั้นยิ่งใหญ่มาก... เพราะดิฉันมีไม้กางเขนเล็กๆอยู่กับตัวเสมอ ซึ่งพระผู้ช่วยให้รอดของดิฉันได้มอบอำนาจที่จะขับไล่ความโกรธแค้นอันชั่วร้ายทั้งหมดนี้ไปจากดิฉัน" 
Devils And Their Odors

วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566

คำพูดของนักบุญ


“สิ่งที่ยึดครองจิตใจและทำร้ายจิตวิญญาณมิใช่สิ่งของของโลกนี้ แต่เป็นความพอใจและความปรารถนาต่อสิ่งเหล่านั้น เพราะสิ่งที่เข้าไปในวิญญาณและสถิตอยู่ในนั้น มิใช่สิ่งของ แต่เป็นความปรารถนาในสิ่งของต่างๆ"
พระเจ้าทรงวัดความดีสมบูรณ์ของเราไม่ใช่จากปริมาณหรือความยิ่งใหญ่ของการกระทำของเรา แต่วัดจากลักษณะที่เรากระทำสิ่งเหล่านั้น” 
 - นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน 

วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566

สวดภาวนาเพื่อผู้เสียชีวิต


ครั้งหนึ่งในปี 1949 คุณพ่อปีโอพูดกับนายแพทย์คนหนึ่งซึ่งสนิทสนมกับท่านมาก ทั้งสองคุยกันเรื่องการสวดภาวนาเพื่อคนที่เสียชีวิตไปแล้ง คุณพ่อปีโอพูดกับเขาว่า “บางทีคุณคงไม่รู้ว่าแม้แต่ในตอนนี้พ่อก็ยังสามารถสวดภาวนาให้ปู่ทวดของพ่อให้พวกท่านตายอย่างมีความสุขได้!” แต่นายแพทย์กลับตั้งข้อสังเกตว่าปู่ทวดของคุณพ่อปีโอเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว และคุณพ่อปีโอจะสวดภาวนาเพื่อให้คนเหล่านั้นเสียชีวิตอย่างดีได้อย่างไร? แล้วคุณพ่อปีโอก็อธิบายว่า “เพราะว่าอดีตไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งคือปัจจุบันชั่วนิรันดร์ คำภาวนาเหล่านี้ได้รับการพิจารณาด้วย ดังนั้นพ่อจึงขอย้ำอีกครั้งว่าแม้ในตอนนี้พ่อก็สามารถสวดภาวนาให้ปู่ทวดของพ่อให้พวกท่านเสียชีวิตอย่างมีความสุขได้!”

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566

คำพูดของนักบุญ


ยุคสมัยใหม่ถูกครอบงำโดยซาตาน และมันจะเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต 
มนุษย์ไม่สามารถต่อกรกับความขัดแย้งกับนรกนี้ได้,แม้แต่คนที่ฉลาดที่สุด 
แม่พระปฏิสนธินิรมลแต่เพียงผู้เดียวที่ทรงได้รับพระสัญญาจากพระเจ้าว่าจะมีชัยชนะเหนือซาตาน 
อย่างไรก็ตาม,พระนางทรงถูกยกขึ้นสู่สวรรค์แล้ว 
เวลานี้,พระมารดาของพระเจ้าทรงต้องการความร่วมมือของพวกเรา 
พระนางแสวงหาวิญญาณที่ถวายตัวของพวกเขาทั้งครบแด่พระนาง 
ผู้ซึ่งจะกลับกลายเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพในพระหัตถ์ของพระนางเพื่อที่จะพิชิตซาตาน 
และแพร่กระจายพระอาณาจักรของพระเจ้าไปบนแผ่นดินโลก 
- คุณพ่อแม็กซิมิเลียน โคลเบ “

วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566

เชื่อมต่อขาที่ขาด


นักบุญแอนโทนี,ระหว่างเดินทางไปอิตาลีโดยผ่านสเปนเพื่อไปเทศน์ที่เมืองเลริดา(Lerida) เมืองนี้อยู่บริเวณชายแดนสเปนและอิตาลี 
มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อเลโอนาร์โดอาศัยอยู่ในเมืองนี้ และเขาใช้ชีวิตในบาป วันหนึ่งแม่ของเขาพยายามแนะนำเขาให้ดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อเธอพูดกับเขาเช่นนั้น เขาก็โกรธ เขาผลักเธอล้มลงอย่างรุนแรงด้วยความโกรธและเตะเธอด้วย แม้ว่าเขาจะโกรธมาก แต่เขาก็ยังนึกถึงโบสถ์ที่อยู่ใกล้ๆ และไปที่นั้น แอนโทนี่กำลังเทศน์สอนผู้คนอยู่ คำเทศนามีผลทำให้ชายหนุ่มผ่อนคลายและคิดถึงชีวิตของเขาด้วย เขาตระหนักว่าเขาใช้ชีวิตแบบคนชั่วและตัดสินใจสารภาพบาปกับแอนโทนีและขออภัยบาป 
เมื่อเขาสารภาพบาปกับแอนโทนี เขาเล่าสิ่งที่เขาทำกับแม่ของเขา แอนโทนีบอกเขาว่าการชดเชยใช้โทษบาปของเขาก็คือให้ตัดสิ่งที่เขากระทำต่อแม่ของเขา ชายหนุ่มผู้กลับใจยอมรับคำพูดของแอนโทนีอย่างจริงจัง เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาก็ใช้ดาบตัดขาของเขาออก 
แม่ของเขาเห็นการกระทำอันน่าสยดสยองของลูกชายก็ตกใจและโศกเศร้า เธอถามลูกชายของเธอว่าทำไมเขาถึงทำร้ายตัวเองขนาดนี้ และเขาบอกเธอว่าเขาทำตามคำแนะนำของแอนโทนี หลังจากทราบข่าวจากลูกชายว่าแอนโทนีอยู่ที่ไหน เธอจึงรีบไปโบสถ์และร้องไห้ไปตลอดทาง เมื่อไปถึงโบสถ์เธอบอกแอนโทนีถึงสิ่งที่ลูกชายของเธอทำ แอนโทนีรู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำบอกเล่าที่น่าเศร้าของเธอ เขาอธิบายให้เธอฟังอย่างอดทนว่าท่านขอให้เขาตัดชีวิตที่บาปของเขา ไม่ใช่ตัดขาของเขา เขาปลอบเธอโดยบอกเธอว่าลูกชายของเธอจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่อย่างแน่นอนสำหรับการกลับใจ และบอกว่าจะไปที่บ้านเธอพร้อมกับเธอ 
เมื่อแอนโทนีมาถึงบ้านของหญิงผู้นั้น,เขาก็เห็นลูกชายนอนอยู่บนกองเลือด,บิดตัวด้วยความเจ็บปวด, มือข้างหนึ่งมีขาขาดและมีดาบอยู่อีกข้างหนึ่ง แอนโทนีหยิบขาที่ถูกตัดแล้ววางไว้ตรงจุดที่ถูกตัดแล้วทำเครื่องหมายไม้กางเขนไว้บนนั้น กระดูกที่หักกลับมารวมกันอีกครั้ง และเนื้อที่ถูกตัดออกก็กลับมารวมกันอีกกลายเป็นขาทั้งหมด การไหลเวียนโลหิต ณ จุดนั้นก็กลายเป็นปกติเช่นกัน ชายหนุ่มที่กลับใจลุกขึ้นยืนทันทีและเดินเหมือนคนปกติ เขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าและแอนโทนี่อย่างมาก

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566

บันไดสวรรค์


ในชีวประวัติของนักบุญโดมินิก (1170-1221) ยังมีการกล่าวถึงบันไดสวรรค์ด้วย เรื่องเกิดขึ้นในวันหนึ่งที่คุณพ่อกัวโล โรมาโนนิ(Guallo Romanoni) อธิการของอาราม Friars Preachers ในเมืองเบรสเชีย(Brescia) ได้เผลอหลับไปโดยพิงอยู่ที่หอระฆังในโบสถ์ของท่าน และท่านก็ฝันไป,ในความฝันท่านเห็นบันไดสองอันพาดลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบน ที่ด้านบนสุดของบันไดอันหนึ่งคือพระเยซูเจ้า และที่ด้านบนสุดของบันไดอีกอันหนึ่งคือพระมารดาของพระองค์ เหล่าทูตสวรรค์เดินขึ้นๆลงๆบนบันไดทั้งสอง และที่ปลายด้านล่างของบันไดมีผู้หนึ่งที่แต่งกายนักบวชยืนอยู่ แต่ใบหน้าของเขาถูกคลุมด้วยหมวกของเสื้อคลุม ตามแบบที่นักบวชทั้งหลายทำในการคลุมหน้าของผู้ตายเวลาที่พวกเขาจะนำผู้ตายไปฝังศพ แล้วบันไดก็ถูกลากขึ้นสู่สวรรค์ และคุณพ่อโรมาโนนีเห็นนักบวชที่ไม่รู้จักคนนั้นถูกรับขึ้นไปเข้าร่วมกับเหล่าทูตสวรรค์,รายล้อมไปด้วยพระสิริรุ่งโรจน์อันเจิดจ้า และอยู่แทบพระบาทของพระเยซู เมื่อคุณพ่อโรมาโนนีตื่นขึ้นมาก็รู้สึกงุนงงกับความหมายของนิมิตความฝันนี้ แต่ในไม่ช้าท่านก็รู้ว่าในเวลาเดียวกันกับที่ท่านฝัน,นักบุญดอมินิกได้สิ้นชีวิตในเมืองโบโลญญา 
ที่มา: Angels and Devils

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

เป็นนักบุญทั้งครอบครัว


นี่คือภาพเหมือนอย่างเป็นทางการของครอบครัวอุลมา(Ulma family)ที่ได้รับการเปิดเผยระหว่างพิธีมิสซาสถาปนาพวกเขาเป็นบุญราศีมรณสักขี โดยเป็นภาพของ Józef และ Wiktoria กับลูกๆท่ามกลางทิวทัศน์ในช่วงฤดูร้อน ภาพวาดนี้วาดขึ้นโดยศิลปิน Oleg Chizhovsky ในภาพจะเห็นบ้านของครอบครัว Ulmas, ทางด้านซ้ายมือเป็นรังผึ้ง, และสวนผลไม้อยู่ทางด้านขวา โดยอ้างอิงจากความสนใจในการทำสวนของพวกเขา 
Blessed Wiktoria Ulma กำลังตั้งครรภ์และอุ้มลูกสาวคนเล็กชื่อ Marysia โจเซฟยืนอยู่ทางด้านขวาของภาพและมีกิ่งปาล์มอยู่ในมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรับความทรมานของพวกเขา 
สตาเซีย(Stasia)กำลังถือดอกลิลลี่สีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสา Antoš โชว์ไม้กางเขนที่ทำจากไม้ให้ Basia น้องสาวของเขาดู ลูกชายคนโตสองคน Wladzio และ Frania อยู่ระหว่างพ่อแม่ของพวกเขา 
พระคาร์ดินัลผู้แทนพระสันตปาปาได้ประกอบพิธีมิสซาสถาปนาบุคคลในครอบครัวนี้ทุกคน(รวมทั้งทารกในครรภ์ด้วย)เป็นมรณสักขีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2023 ที่หมู่บ้านMarkowa,ทางตอนใต้ของโปแลนด์ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการสถาปนาครอบครัวเป็นบุญราศี ครอบครัวอุลมาทุกคนได้ให้ความช่วยเหลือชาวยิว 8 คนให้พ้นจากเงื้อมมือของทหารนาซี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยซ่อนพวกเขาไว้ แต่ทหารนาซีก็ค้นหาจนพบ ทหารจึงฆ่าคนในครอบครัวอุลมาทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2566

สายประคำไม่พันกัน


ปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งในการประจักษ์ที่การาบังดัลคือการที่สายประคำคืนสู่เจ้าของ เวลานั้นผู้คนเริ่มเชื่อว่าพระแม่มารีย์ทรงประจักษ์ที่การาบันดัลจริงๆ คนนับร้อยนับพันคนจึงนำสายประคำและเหรียญพระรูปมาให้แม่พระทรงจุมพิต ศาสนภัณฑ์ทั้งหมดถูกวางกองไว้บนโต๊ะเพื่อให้เด็กหญิงถวายแด่แม่พระ สายประคำทั้งหมดที่ผู้คนนำมานั้นพันกันจนแยกไม่ออก เมื่อเด็กหญิงถวายสายประคำเหล่านั้นให้แม่พระและส่งคืนให้เจ้าของ,สายประคำกลับแยกจากกันเอง,ไม่พันกันเหมือนในตอนแรก เด็กหญิงผู้เห็นแม่พระส่งคืนสายประคำให้แก่เจ้าของได้อย่างถูกต้องไม่เคยผิดพลาด และไม่ต้องมองหาเจ้าของเลย แม่พระทรงพาพวกเขาไปหาเจ้าของสายประคำแต่ละเส้นทั้งๆที่เด็กหญิงจ้องมองขึ้นไปที่แม่พระตลอดเวลา 
เรื่องราวนี้ถูกกล่าวถึงในหนังสือ “Garabandal” โดย J. Serre หน้า 50-54 
“She went in haste to the Mountain” เล่ม 1 หน้า 76-80

วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2566

คำตอบของซาตาน


เธอถูกครอบงำโดยปีศาจมากถึง 10 ตัว ซึ่งบางตัวก็เผยตัวออกมา อาทิเช่น - ลูซิเฟอร์
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2566

เจ้าสาวของพระจิตเจ้า

ในหลายตอนของพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ พระจิตเจ้าทรงเรียกพระนางมารีย์ว่าทรงเป็นเจ้าสาวของพระองค์ แม้แต่ในชั่วเวลาแรกที่พระนางทรงปฏิสนธิ พระองค์ทรงประทานพระหรรษทานอันไพบูลย์แก่พระนางเป็นอันมากจนบรรดาทูตสวรรค์และนักบุญทั้งหมดรวมกันยังไม่ได้รับความสมบูรณ์ถึงระดับนั้น 
พระจิตเจ้าทรงปีติยินดีในความงามของพระนางมารีย์และทรงอุทานด้วยความชื่นชมว่า "เธอช่างงดงามยิ่งนัก,สุดที่รักของเรา” (บทเพลง. 4:1). แต่เหนือสิ่งอื่นใดในการมาบังเกิดขององค์พระบุตรของพระเจ้าทำให้พระนางมารีย์กลายเป็นเจ้าสาวที่แท้จริงของพระจิตเจ้า เพราะพระนางทรงครรภ์พระวจนาตถ์นิรันดรด้วยพระฤทธานุภาพของพระจิตเจ้า 
 โดยผ่านทางพระนางมารีย์ และพร้อมกับพระนางมารีย์ และในพระนางมารีย์, พระจิตเจ้าทรงนำมนุษย์-พระเจ้าบังเกิดมาในโลก และในทำนองเดียวกัน,ในทุกวันจนถึงวันสิ้นพิภพ,พระองค์จะทรงนำบรรดาบุตรที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ออกมาเช่นกัน นักบุญหลุยส์ มารีกรีญอง เดอ มงฟอร์ต กล่าวว่า "พระจิตเจ้าทรงประทานพระพรอันทรงคุณค่าจนมิอาจประเมินได้ของพระองค์แก่พระนางมารีย์ และทรงแต่งตั้งพระนางให้เป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทานทั้งหมดของพระองค์ เพื่อที่พระนางจะทรงแจกจ่ายพระพรและพระหรรษทานของพระองค์แก่ผู้ที่พระนางทรงประสงค์, มากเท่าที่พระนางทรงประสงค์ และด้วยวิธีและสถานที่ที่พระนางทรงประสงค์ สวรรค์จะไม่ประทานพระหรรษทานใดๆแก่มนุษย์เว้นแต่โดยผ่านทางมือของพระนางพรหมจารีย์” นักบุญเบอร์นาร์ดและนักบุญอัลฟอนโซและนักเทวศาสตร์อีกหลายคนมีความเห็นเช่นเดียวกัน 
เพื่อทำให้พระนางมารีย์ได้รับตำแหน่งใหม่อันสูงส่งในฐานะมารดาแห่งบุตรธิดาทุกคนของพระเจ้า พระนางต้องการพระหรรษทานครบบริบูรณ์ และสิ่งนี้พระนางทรงได้รับจากพระจิตเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จมาในวันเพ็นเทคอสต์ พระนางมารีย์ทรงอยู่ร่วมกับอัครสาวกในห้องชั้นบน(Cenacle) และสวดภาวนาร่วมกับพวกเขาเป็นเวลาเก้าวันและพระนางทรงถอนหายใจสำหรับการเสด็จมาของพระผู้บรรเทาจากสวรรค์ ด้วยคำสวดภาวนาและความปรารถนาอันแรงกล้าของพระนางที่ทำให้พระจิตเจ้าเสด็จลงมาพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติแห่งพระหรรษทานทั้งหลาย 
เราต้องแสวงหาพระหรรษทานโดยทางพระนางมารีย์ เพราะพระนางคือเจ้าสาวของพระจิตเจ้า และพระหรรษทานทั้งหมดถูกแจกจ่ายผ่านทางมือของพระนางเท่านั้น 
 ที่มา: Devotion to the Holy Ghost

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2566

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2566

ไฟแห่งนรก


ในกองไฟนี้ ผู้อยู่ในนั้นจะต้องทนทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็นด้วย
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566

สวดสายประคำทุกวัน


นี่คือภาพวาดตามความฝันของผู้น่าเคารพคุณพ่อโซลานุส เคย์ซี (Venerable Fr. Solanus Casey) เมื่อเขายังเป็นเด็ก,คุณพ่อโซลานุสสวดสายประคำทุกคืน คืนหนึ่ง, เนื่องจากเขาเหน็ดเหนื่อยมาก, เขาพยายามอย่างหนักที่จะสวดสายประคำ และเขาก็ทำได้สำเร็จ คืนนั้นเขาฝัน, ในความฝันเขาอยู่เหนือหลุมไฟใหญ่และถือลูกประคำไว้เหนือศีรษะเพื่อหนีไฟ 
สายประคำเป็นการสวดภาวนาที่สำคัญอย่างยิ่งที่พระแม่มารีย์ได้ประทานแก่เรา เป็นความศรัทธาซึ่งพวกเราทุกคนควรปฏิบัติเสมอทุกวัน แม่พระแห่งฟาติมาเปิดเผยกับเราว่าเราต้องสวดสายประคำทุกวันเพื่อให้ทั่วโลกมีสันติภาพ 
การสวดสายประคำให้ผลลัพท์ที่น่าอัศจรรย์มากมาย ทั้งสำหรับผู้ที่สวดเองและสำหรับคนรอบข้างด้วย ผลของการสวดสายประคำสามารถเห็นได้ทั่วโลก ขอให้ระลึกถึงการสู้รบที่เลปันโต ซึ่งคริสตศาสนจักรได้รับชัยชนะจากผู้รุกรานชาวมุสลิมอย่างเด็ดขาดเพราะการแทรกแซงช่วยเหลือของพระแม่มารีย์ 
สวดสายประคำวันละครั้งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เถิด! เมื่อคุณทำครบ 1 สัปดาห์แล้ว จะไม่มีอะไรหยุดคุณได้ คุณจะได้ใช้เวลาอันมีค่าในการใคร่ครวญเกี่ยวกับพระธรรมลึกลับ แม้แต่มาร์ติน ลูเทอร์ผู้ให้กำเนิดโปรแตสแตนท์เองก็เคยพูดว่า "คำอธิษฐานของเราควรรวมถึงพระมารดาของพระเจ้าด้วย . . บทวันทามารีย์คือการถวายพระสิริรุ่งโรจน์ทั้งหมดแด่พระเจ้า โดยใช้คำพูดเหล่านี้: "วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้ได้รับพระพรยิ่งกว่าสตรีใดๆ และพระเยซูโอรสของท่านทรงได้รับพระพรยิ่งนัก........ อาเมน!" เราควรสวดสายประคำเพื่อขอให้ทุกคนได้รู้จักและเคารพพระนางมารีย์ด้วย”
#Catholic 4 Life🌹❤️🙏

วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2566

มหาวิหารแม่พระแห่งสุขภาพดี


ประชากรคริสตชนในอินเดียมีอยู่ 2% +ของประชากรทั้งหมด ในวันที่ 29 สิงหาคม ผู้คน 2 ล้านคน (คริสตชน, ฮินดู, มุสลิม, ซิกข์, ชาวพุทธ ฯลฯ) ร่วมเป็นสักขีพยานในการชักธงและสวดภาวนาที่มหาวิหารแม่พระแห่งสุขภาพที่ดี หรือที่เรียกว่า 'เมืองลูร์ดแห่งตะวันออก' ในแต่ละสัปดาห์ ผู้คนหนึ่งล้านคนมาเยี่ยมชมมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จำนวนผู้มาแสวงบุญณ.ที่แห่งนี้มีจำนวนมากกว่ามากเมื่อเทียบกับสักการะสถานพระแม่แห่งลูร์ดในเมืองลูร์ด, ประเทศฝรั่งเศส (วันที่ 8 กันยายน เป็นวันคล้ายวันเกิดแม่พระ) 
“ต่อนี้ไปมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่าผู้ได้รับพระพรยิ่งใหญ่” 
✝️ ลูกา 1:46-49) “
#Catholic 4 Life “

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2566

การทรมานกายเพื่อเอาชนะตนเอง


พระองค์ใช้เวลา 40 วันในการจำศีลอดอาหาร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสาธารณะของพระองค์
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566

สายประคำกับหญิงที่ถูกปีศาจเข้าสิง


ในหนังสือ”ความลับแห่งสายประคำ (The Secret of the Rosary)”, นักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ต เล่าว่าคุณพ่อฌอง อามัต(Father Jean Amat) คณะโดมินิกันกำลังปฏิบัติจำศีลอดอาหารในอาณาจักรแห่งอารากอน ประเทศสเปน มีเด็กสาวที่ถูกปีศาจเข้าสิงถูกนำมาหาท่าน 
คุณพ่ออามัตเริ่มประกอบพิธีขับไล่ปีศาจ หลังจากพยายามไม่สำเร็จหลายครั้ง,คุณพ่อก็มีความคิดหนึ่ง ท่านเอาสายประคำคล้องไว้ที่คอของหญิงสาว 
 ไม่ทันที่ท่านจะทำเช่นนี้, เด็กสาวก็เริ่มดิ้นและกรีดร้อง และปีศาจก็ตะโกนทางปากของเธอว่า “ถอดมันออก,ถอดออก, ถอด; ลูกปัดเหล่านี้กำลังทรมานข้า!” 
ในที่สุด,ด้วยความสงสารหญิงสาว,คุณพ่ออามัตก็เอาสายประคำออกจากคอของเธอ 
คืนต่อมา, ขณะที่พระสงฆ์โดมินิกันนอนอยู่บนเตียง ปีศาจที่สิงเด็กสาวก็เข้ามาในห้องของท่าน พวกมันพยายามจับตัวพระสงฆ์ด้วยความโกรธแค้น แต่ท่านถือสายประคำไว้ในมือ และความพยายามใดๆของปีศาจที่จะดึงสายประคำไปจากพระสงฆ์ก็ไม่ประสบความสำเร็จ 
จากนั้นพระสงฆ์เริ่มรุกและใช้สายประคำเป็นอาวุธประจำกาย, คุณพ่ออามัติทำการไล่ปีศาจโดยร้องว่า “พระแม่มารีย์, พระแม่แห่งสายประคำ, กรุณาช่วยลูกด้วยเถิด,โปรดเสด็จมาช่วยลูกด้วย!” และปีศาจก็หนีไป 
วันต่อมา, ระหว่างทางไปโบสถ์, คุณพ่ออามัติได้พบกับเด็กหญิงผู้น่าสงสารคนเดิม, ซึ่งยังคงถูกครอบงำอยู่ ปิศาจตนหนึ่งในตัวเธอเยาะเย้ยคุณพ่อว่า “ว่าไงล่ะ,บราเดอร์,ถ้าหากท่านไม่มีสายประคำ, พวกเราอาจจะช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆให้ท่านนะ…” 
ด้วยความไว้วางใจที่เพิ่มขึ้น,คุณพ่ออามัติปลดสายประคำออกจากผ้าคาดเอวของท่าน และเหวี่ยงสายประคำไปที่คอของหญิงสาวพร้อมกับสั่งว่า “ด้วยพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูและพระนางมารีย์ พระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ และด้วยอำนาจแห่งสายประคำอันศักดิ์สิทธิ์ เราขอสั่งเจ้า, วิญญาณชั่วร้าย,ให้ออกจากร่างของหญิงสาวคนนี้ทันที” 
ปีศาจถูกบังคับให้เชื่อฟังเขาทันที และเด็กสาวก็ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ 
“เรื่องราวเหล่านี้” นักบุญหลุยส์ เดอ มงฟอร์ตสรุป “แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจของสายประคำศักดิ์สิทธิ์ในการเอาชนะการล่อลวงทุกประเภทจากวิญญาณชั่วร้ายและบาปทุกประเภท เพราะสายประคำที่ได้รับการอวยพรเหล่านี้ทำให้ปีศาจพ่ายแพ้” 
~ #Catholic 4 Life🌹❤️🙏