การงานอันศักดิ์ศิทธิ์ของเราจะดำเนินต่อไปในสวรรค์

ทุกสิ่งจะผ่านพ้นไป เว้นแต่การงานด้านจิตวิญญาณ และงานนั้นจะนำไปสู่อาณาจักรสวรรค์ เมื่ออยู่ที่นั่นเราจะไม่นั่งอยู่เฉยๆเพียงแค่มองดูคนที่เรารักหรือเหล่ามวลมนุษยชาติ
>>>อ่านต่อ

บาปที่หนักที่สุดคือบาปของเนื้อหนัง

“วิญญาณจำนวนมากต้องตกนรกเพราะบาปของเนื้อหนังมากกว่าบาปอื่นๆ” พระดำรัสแม่พระแห่งฟาติมา
>>>อ่านต่อ

หย่อนอารมณ์

            ลูกชายถามพ่อ “พ่อครับ คนติดเหล้านี่เป็นยังไงครับ?”
            พ่อ – “ลูกเห็นต้นไม้ 4 ต้นตรงนั้นไหม? คนติดเหล้าจะเห็นเป็นต้นไม้ 8 ต้น”
            ลูกชาย – “อืม...พ่อครับ แต่ตรงนั้นมีต้นไม้แค่ 2 ต้นนะครับ”
          

ผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจ ตอบโต้ Fr. Arturo Sosa

องค์กรคาทอลิกผู้ทำพิธีขับไล่ปีศาจสากล (international organization of Catholic exorcists) ได้ตอบโต้ Fr. Arturo Sosa, SJ อธิการใหญ่คณะเยซูอิต
>>>อ่านต่อ 

สาส์นแม่พระแห่งสันติภาพ บราซิล 20/8/2019

            สาส์นวันที่ 20 ส.ค. 2019 ผ่านทางเปโดร เรจิส ณ. Anquera บราซิล
           ลูกรักทั้งหลาย
            พระบัญญัติศักดิ์สิทธิ์จะถูกดูหมิ่น และจะมีการทำให้เกิดความเสื่อมเสียในพระนิเวศของพระเจ้า การขาดความกระตือรือร้นของนายชุมพาบาลที่ไม่ดีจะทำให้เกิดความสับสนและความแตกแยก แม่ต้องทนทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกลูก จงรักและปกป้องความจริง จงบอกทุกคนว่าพระเจ้ากำลังรีบและนี่คือเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ จงอย่าท้อถอย จงคุกเข่าลงสวดภาวนาเถิด จงแสวงหาความเข้มแข็งในพระวรสารและในศีลมหาสนิท อย่ายอมให้มีสิ่งใดหรือใครก็ตามมาทำให้ลูกหลงไปจากเส้นทางแห่งความจริง จงเดินหน้าต่อไปโดยไม่ต้องกลัว แม่รักพวกลูกและแม่จะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ นี่คือสาส์นที่แม่ขอมอบให้ลูกในวันนี้ในพระนามของพระตรีเอกภาพ ขอขอบใจที่อนุญาตให้แม่รวบรวมพวกลูกให้มารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง แม่ขออวยพรลูกในพระนามของพระบิดา พระบุตรและพระจิต
          อาแมน จงไปในสันติเถิด

            เมื่อวันพุธที่ 21 ส.ค. 2019 อธิการใหญ่ของคณะเยซูอิต Fr. Arturo Sosa กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับแมกกาซีนอิตาเลี่ยน Tempi ว่า ปีศาจเป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวตน โดยบอกว่า “ปีศาจเป็นสิ่งชั่วร้ายที่มีโครงสร้างที่แตกต่างออกไป แต่ไม่ได้เป็นบุคคล, เพราะไม่ใช่ลักษณะบุคคลที่กระทำความชั่วร้าย มันไม่เป็นบุคคลเหมือนตัวตนมนุษย์ มันเป็นหนทางแห่งความชั่วร้ายที่ปรากฏในชีวิตมนุษย์”
          “ความดีและความชั่วเป็นการสู้รบถาวรในจิตสำนึกของมนุษย์และเรามีวิธีที่จะกำจัดมันออกไป เรารู้ว่าพระเจ้าคือความดีพร้อมสมบูรณ์ สัญลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของความจริง และปีศาจเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นความจริง ไม่ใช่เป็นบุคคลที่เป็นความจริง”
            คำกล่าวของอธิการใหญ่ผู้นี้ทำให้เกิดความสับสนกับคำสอนของพระศาสนจักรที่บอกว่า ปีศาจมีตัวตนอยู่จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ตามที่ท่านกล่าว นี่เป็นสิ่งที่แม่พระตรัสไว้ในสาส์นข้างบน "การขาดความกระตือรือร้นของนายชุมพาบาลที่ไม่ดีจะทำให้เกิดความสับสนและความแตกแยก"
          นอกจากนี้ป่าอะเมซอนเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ (ซึ่งเป็นฝีมือของมนุษย์) ส่วนใหญ่เกิดในเขตของบราซิล เหตุการณ์ไฟไหม้นี้คือสิ่งเดียวกับที่แม่พระซึ่งประจักษ์ในบราซิลทรงกล่าวถึงการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ใช่ไหม?

สาส์นแม่พระ 2+25 ส.ค. 2019

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ส.ค. 2019

ลูกที่รักทั้งหลาย

          จงสวดภาวนา ทำงานและเป็นพยานด้วยความรักเพื่ออาณาจักรสวรรค์ซึ่งเป็นความดีสำหรับลูกบนโลกนี้
         ลูกน้อยทั้งหลาย, พระเจ้าจะทรงอวยพรความพยายามของลูกเป็นร้อยเท่า ลูกจะเป็นพยานท่ามกลางประชาชน วิญญาณของผู้ไม่มีความเชื่อจะรู้สึกถึงพระหรรษทานแห่งการกลับใจ   และสวรรค์จะกตัญญูต่อความพยายามและความเสียสละของลูก
         ลูกน้อยทั้งหลาย, จงเป็นพยานด้วยสายประคำที่อยู่ในมือที่แสดงว่าลูกเป็นของแม่และลูกได้เลือกที่จะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์  
                     ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

 สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 ส.ค. 2019
ลูกที่รักทั้งหลาย

ความรักขององค์พระบุตรของแม่ยิ่งใหญ่นัก ถ้าหากลูกรู้ถึงความยิ่งใหญ่แห่งความรักของพระองค์แล้ว ลูกจะไม่มีวันหยุดขอบพระคุณและเทิดทูนเคารพพระองค์เลย  

พระองค์ทรงดำรงอยู่กับพวกลูกในศีลมหาสนิทเสมอ เพราะศีลมหาสนิทคือดวงพระทัยของพระองค์ ศีลมหาสนิทคือหัวใจของความเชื่อ 

พระองค์จะไม่มีวันทิ้งลูกเลย ถึงแม้ว่าลูกจะหนีห่างจากพระองค์ไป แต่พระองค์จะไม่ทิ้งลูก ด้วยเหตุนี้ดวงใจของแม่จึงมีความสุขเมื่อเฝ้ามองดูพวกลูกได้กลับมาหาพระองค์และเต็มเปี่ยมด้วยความรัก เมื่อแม่ได้เห็นว่าพวกลูกกำลังมาหาพระอ งค์โดยหนทางแห่งการคืนดีกัน , หนทางแห่งความรัก และหนทางแห่งความหวัง  

ดวงใจเยี่ยงมารดาของแม่รู้ว่า เมื่อลูกเริ่มต้นมาสู่หนทางแห่งความเชื่อแล้ว ลูกจะแตกหน่อ แต่ด้วยการสวดภาวนาและการพลีกรรมอดอาการ ลูกจะบังเกิดผล ดอกไม้ทั้งหลายของแม่, อัครสาวกแห่งความรักของแม่, พวกลูกเป็นผู้นำความสว่างและจะส่องสว่างให้แก่ทุกคนที่อยู่รอบตัวลูกด้วยความรักและปรีชาญาณ   

ลูกทั้งหลายของแม่ ในฐานะมารดา,แม่ขอวิงวอนต่อลูกให้สวดภาวนา , คิดและไตร่ตรองถึงความงดงามของทุกสิ่ง ความเจ็บปวดและความยินดีที่เกิดขึ้นกับลูก ทุกสิ่งนี้จะทำให้ลูกเจริญเติบโตฝ่ายจิตวิญญาณ เพื่อที่องค์พระบุตรของแม่จะได้เจริญเติบโตในลูก     

ลูกทั้งหลายของแม่, จงมอบตัวลูกแด่พระองค์เถิด จงเชื่อในพระองค์ วางใจในความรักของพระองค์ ให้พระองค์นำทางลูก ให้ศีลมหาสนิทเป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณของลูก และหลังจากนั้น จงเผยแพร่ความรักและความจริง จงเป็นพยานถึงองค์พระบุตรของแม่       

 

ขอขอบใจพวกลูก 

การสวดภาวนาไม่มีวันสูญเปล่า

“แล้วคุณจะได้เห็นว่า การสวดภาวนาจะไม่มีวันสูญเปล่า”
>>>อ่านต่อ

อัศจรรย์เล็กๆ

“พระเจ้าทรงกระทำสิ่งนี้ หาใช่ผู้ใดไม่ พระเจ้าทรงโอบอุ้มฉันไว้ ทรงประทานพระวาจาแก่ฉัน ทรงประทานพระอานุภาพให้มาสู่ฉัน และนั่นน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง”
>>>อ่านต่อ

จากคนติดเหล้ากลายเป็นผู้เผยแพร่ความเชื่อ

อาแลน เอเมส (Alan Ames) เป็นชาวออสเตรเลีย เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคาทอลิกในสหรัฐในฐานะผู้บำบัดรักษาของพระเจ้า และเคยไปทำเช่นเดียวกันในประเทศอื่นอีกมากกว่า 40 ประเทศ
>>>อ่านต่อ

หญิงชาวจีนทำให้หลายร้อยคนมาสู่ความเชื่อคาทอลิก

“ขอให้สวดภาวนาเพื่อประเทศจีน สถานการณ์ในประเทศจีนเวลานี้เลวร้ายยิ่งขึ้นสำหรับพวกเรา...พวกเขาต้องการทำลายทุกศาสนา”
>>>อ่านต่อ

การทำกิจใช้โทษบาปของนักบุญโดมินิก

            
              ผู้รับใช้คนนั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังทำดังนี้ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะแต่งตั้งเขาให้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของตน แต่ถ้าผู้รับใช้คนนั้นคิดว่า “นายจะมาช้า” และเริ่มตบตีผู้รับใช้ทั้งชายและหญิง กินดื่มจนเมามาย นายของผู้รับใช้คนนั้นจะกลับมาในวันที่เขามิได้คาดหมาย ในเวลาที่เขาไม่รู้ นายจะแยกเขาออก ให้ไปอยู่กับพวกคนที่ไม่ซื่อสัตย์
             ‘ผู้รับใช้ที่รู้ใจนายของตน แต่ไม่เตรียมพร้อมและไม่ทำตามใจนาย จะต้องถูกเฆี่ยนมาก แต่ผู้รับใช้ที่ไม่รู้ใจนาย แม้ทำสิ่งที่ควรจะถูกเฆี่ยน ก็จะถูกเฆี่ยนน้อย ผู้ใดได้รับฝากไว้มาก ผู้นั้นก็จะถูกทวงกลับไปมากด้วย (ลูกา12:43-48)
             รูปภาพเฟรสโกที่วาดบนปูนเปียก ในศตวรรษที่ 14 อยูที่อารามใหญ่ Great Cloister of Santa Maria Novella in Florence แสดงภาพของนักบุญโดมินิก กำลังสวดภาวนาและใช้โทษบาปโดยการเฆี่ยนตีตัวเองด้วยโซ่เพื่อชดเชยแทนคนบาป เมื่อทำดังนี้ท่านก็พูดว่า “พระเยซูเจ้า อะไรจะเกิดขึ้นกับคนบาปเล่า? โปรดทรงพระเมตตาต่อเราด้วยเทอญ” บางทีท่านนักบุญคงได้รับแรงบันดาลใจจากพระวรสารบทนี้ ท่านเพ่งมองดูที่ไม้กางเขนซึ่งพระเยซูทรงถูกตรึงเพราะเห็นแก่พวกเรา พระองค์ทรงยอมรับความทรมานเพื่อคนบาปทั้งหลาย พวกเขาจะได้ไม่ต้องรับโทษถูกสาปแช่งในนรกแต่ได้รับความรอดนิรันดร นักบุญโดมินิกเลียนแบบพระเยซูเจ้าโดยการใช้โทษบาปแทนคนบาป

แฟลชม็อบ

แฟลชม็อบคือการแสดงที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจ นี่เป็นการแสดงแฟลชม็อบในรถไฟใต้ดินในเมืองโคเปนเฮเกน เพลงซิมโฟนีของ Edvard Grieg Peer Gynt Suite no.1 op.46 Morning Mood
Famous Classical Music (ดับเบิลคลิ๊กเพื่อชมภาพเต็มจอ และคลิ๊กเพื่อกลับสภาพเดิม)

โบสถ์กลายเป็นสวนสนุก

โบสถ์คริสต์นิกายแองกลิกัน นำเครื่องเล่นในสวนสนุกมาตั้งไว้แทนพระแท่นบูชา

ฉลองแม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ

ความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่เผาไหม้ในดวงหทัยของพระนางมารีย์ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ จนพระกายมนุษย์ของพระนางมิอาจทนทานได้  ดังนั้นพระวิญญาณของพระนางมารีย์ที่เปรียบเสมือนนกพิราบที่โบยบินไป ก็ได้แยกจากพระกายของพระนาง และโบยบินไปสู่พระอุระของผู้เป็นสุดที่รักของพระนาง   แต่พระเยซูเจ้าผู้ทรงปกครองในสวรรค์ในพระกายมนุษย์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ที่พระองค์ทรงได้รับมาจากพระครรภ์ของพระนางพรหมจารีย์มารีย์  ทรงปรารถนาให้พระมารดาของพระองค์ ไม่เพียงแต่พระวิญญาณของพระนางเท่านั้นแต่รวมถึงพระกายของพระนางด้วย  ได้มาอยู่กับพระองค์และได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์อย่างบริบูรณ์  และสิ่งนี้เป็นความชอบธรรมและถูกต้อง  พระกายของพระนางซึ่งไม่เคยเป็นทาสของปีศาจหรือบาปใดๆเลย  ไม่สมควรที่จะต้องเปื่อยเน่าไป

>>>อ่านต่อ

18 ส.ค. ฉลองแม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญา

 ความรักอันศักดิ์สิทธิ์ที่เผาไหม้ในดวงหทัยของพระนางมารีย์ร้อนแรงเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ จนพระกายมนุษย์ของพระนางมิอาจทนทานได้
>>>อ่านต่อ 

ความบังเอิญของพระเจ้า

ในเดือนมิถุนายน ท่านมีประสบการณ์ของ ”ความบังเอิญของพระเจ้า” (Godincidences) ซึ่งความผิดพลาดได้ช่วยให้ท่านได้พบกับบางคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
>>>อ่านต่อ

”กุหลายแห่งความอดทน”

            "ดอกกุหลาบได้รับการปกป้องด้วยหนามอันแหลมคม ผู้ที่ต้องการเด็ดดอกกุหลาบก็เสี่ยงที่จะหลั่งเลือด คำว่า”กุหลาบแห่งความอดทน”('Rose of Patience') มีความเชื่อมโยงกับสองแนวคิดที่น่าสนใจ คือ ความงามแห่งความอดทนของนักบุญโดมินิคและความกล้าหาญของท่าน ความอดทนช่วยให้มนุษย์อดทนต่อความชั่วร้ายโดยไม่พ่ายแพ้ต่อมัน ความอดทนช่วยให้มนุษย์จัดการกับความเศร้าโศกในปัจจุบันได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น... ชีวิตคือหุบเขาแห่งน้ำตา , นี่คือบทเรียนของอาดัมผู้เป็นบรรพบุรุษของเรา สิ่งสำคัญก็คือการเรียนรู้ที่จะมีความอดทนหรือวิธีใช้ชีวิตในความเศร้าอย่างชาญฉลาด คุณธรรม... ความอดทนที่แท้จริงไม่เรียกร้องให้คนเราอดทน เราต้องทำในสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อบรรเทาสถานการณ์...และในการทำเช่นนั้นเขาทำหน้าที่อย่างมีเหตุผล นั่นคือคุณธรรม การกระทำดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าคนนั้นไม่มีความอดทน แต่มีบางสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรนอกจากอดทนอย่างสงบและมีใจสันติ... ความอดทนของ นักบุญโดมินิกได้รับรางวัล โดยการเก็บเกี่ยววิญญาณที่ได้ผลดีเกินคาด และทำให้มีการจัดตั้งคณะโดมินิกันเพื่อรับใช้พระศาสนจักรและมนุษยชาติขึ้นในปี 1216 เป็นบุญของผู้มีความอดทนเพราะพวกเขาจะได้รับรางวัลเช่นกัน รางวัลส่วนหนึ่งก็คือการมีมุมมองที่กว้างขึ้น ความเศร้าโศกที่มีในแต่ละวัน นำพาให้มีความอดทนสำหรับแต่ละวัน...บรรดาศิษย์ของนักบุญโดมินิคต้องคอยเพ่งมองไปที่ความทุกข์ทรมานของพระผู้ไถ่ของพวกเขา เมื่อพระองค์เผชิญหน้ากับความเศร้าโศก แล้วนั้นพวกเขาจะไม่หดหู่ใจหรือท้อแท้ แต่จะยอมรับว่าที่เขาต้องเจ็บปวดและเป็นทุกข์นั้นเป็นการใช้โทษบาปของตน เป็นโอกาสที่เขาจะพิสูจน์ถึงความรักของพวกเขาที่มีต่อพระเจ้า "
            - Fr Richard Murphy OP ภาพปูนเปียกสมัยศตวรรษที่ 17 แสดงการตายของนักบุญโดมินิก(St Dominic)ซึ่งเกิดขึ้นในวันนี้ (6 สิงหาคม) ในปี 1221 ภาพนี้อยู่ในอารามใหญ่ของอาสนวิหาร Santa Maria Novella ในฟลอเรนซ์

4 สัญญาณอาการสายตาเอียง

เคยสังเกตอาการของตัวเองบ้างหรือไม่ว่า ทำไมเวลามองตัวเลขที่มีลักษณะคล้ายๆกันอย่างเช่น เลข 3 หรือเลข 8 แล้วแยกไม่ออก
>>>อ่านต่อ

หย่อนอารมณ์

            ลูกชายตัวน้อยที่ช่างสงสัยไปหาพ่อแล้วถามว่า “พ่อครับ ต้นกำเนิดของคนเรามาจากไหนครับ?”
             พ่อตอบ – “เริ่มแรกพระเจ้าทรงสร้างอาดัมและเอวา แล้วทั้งคู่ก็ให้กำเนิดลูกหลานมากมาย และลูกหลานของเขาก็มีลูกหลานต่อๆมา จนถึงปัจจุบันนี้ คนเราจึงมีต้นกำเนิดมาจากอาดัมและเอวานี่แหละ”
            ลูกเดินไปหาแม่และถามคำถามเดียวกัน
            แม่ตอบ – “ในยุคโบราณลิงได้มีวิวัฒนาการแบบค่อยเป็นค่อยไป จนเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นมนุษย์ทุกวันนี้ คนเราจึงมีต้นกำเนิดมาจากลิง”
            “ลูกชายเดินไปหาพ่อและพูดกับพ่อว่า “คุณพ่อโกหก แม่บอกว่าคนเรามีต้นกำเนิดมาจากลิงต่างหาก”
            พ่อตอบ – “พ่อไม่ได้โกหกหรอก ที่แม่พูดอย่างนั้นเพราะแม่กำลังพูดถึงบรรพบุรุษทางครอบครัวของเขาน่ะ”

พระเยซูประทานบทภาวนาสั้นๆแก่เรา

“พระเยซูทรงเปิดเผยถึงดวงพระทัยที่ทนทุกข์อย่างยิ่งอันเนื่องมาจากการไม่มีความเชื่อของวิญญาณที่ถวายตนแด่พระองค์ ”
>>>อ่านต่อ

ความลับข้อที่สามของฟาติมาส่วนที่ขาดหายไป

“ในกรุงโรมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน สิ่งที่เน่าเฟะจะล่วงหล่นและสิ่งที่ล่วงหล่นแล้วก็จะไม่ถูกเก็บไว้ พระศาสนจักรจะถูกบดบังและโลกทั้งโลกจะถูกโยนลงไปในความสับสน”
>>>อ่านต่อ

ไม้กางเขนแห่งนากาซากิ

          ภายถ่ายวันที่7 ม.ค. 1946 โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมลในเมืองนากาซากิซึ่งถูกทำลายจากลูกระเบิดปรมาณูในวันที่ 9 ส.ค. 1945
             ทางวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ได้คืนไม้กางเขนทำด้วยไม้ที่นำมาจากโบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมล ไม้กางเขนถูกค้นพบจากซากของโบสถ์ที่เหลืออยู่หลังจากถูกระเบิดปรมาณูในวันที่ 9 ส.ค. 1945 การมอบคืนไม้กางเขนนี้เพื่อเป็นเครื่องหมายของ"สันติภาพและการคืนดีกัน” Dr. Tanya Maus, ผู้อำนายการของ Wilmington College's Peace Resource Center, มีแผนที่จะคืนไม้กางเขนในวันที่ 7 ส.ค. 2019 ให้แก่โบสถ์ที่เมืองนากาซากิ
             ในวันที่ 6 ส.ค. 1945 เมืองฮิโรชิมาถูกระเบิดปรมาณูทำลาย และในวันที่ 9 ส.ค. เมืองนากาซากิก็ถูกทิ้งระเบิดปรมาณูต่อมา
             ชาวเมืองฮิโรชิมาเสียชีวิตทันทีประมาณ 80,000 คน และรังสีจากระเบิดยังทำให้คนอีก 130,000 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมาอีกด้วย ส่วนเมืองนากาซากิ ผู้คนเสียชีวิตไปประมาณ 40,000 คน อาคารของเมืองสามในสี่ส่วนถูกทำลายจนราบเรียบ
             เมืองนากาซากิเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนา นับตั้งแต่นักบุญฟรังซิส เซเวียร์มาเผยแพร่ที่ญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 16 เมื่อจักรพรรดิญี่ปุ่นปิดประเทศด้วยความกลัวว่าจะถูกต่างชาติยึดครองและคริสตชนก็ถูกจับกุมและทรมานจำนวนมากมาย คริสตชนคาทอลิกญี่ปุ่นที่เมืองนากาซากิสามารถรอดพ้นจากการถูกเบียดเบียนมาได้ จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงได้มีการให้อิสรภาพในการนับถือศาสนาอีกครั้งในศตวรรษที่ 19
             โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมลของเดิมถูกทำลายไป(ตามรูปภาพ) และได้มีการร้างขึ้นใหม่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบใหม่สำเร็จในปี 1959
             Walter Hooke ซึ่งเป็นนาวิกโยธินสหรัฐ และเป็นคาทอลิกได้พบไม้กางเขนและนำไปให้มารดาของเขา ต่อมาเขาได้มอบไม้กางเขนให้แก่ Peace Resource Center
             ไม้กางเขนที่ถูกส่งมอบคืนนี้จะนำมาแสดงในโบสถ์นี้

นักบุญ 9 องค์พูดถึงนรก

สถานที่แบบใดหนอที่มีแต่เสียงร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน..ที่ซึ่งแม้แต่ซาตานก็ยังต้องสั่นสะท้าน?
>>>อ่านต่อ

6 สิงหาคม ระลึกถึงวันถล่มฮิโรชิม่าด้วยระเบิดปรมาณู

เมื่อเวลา 2:45 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 ได้ออกจากเกาะทิเนียนเพื่อทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกในญี่ปุ่น
>>>อ่านต่อ

ทำไมเทวดาจึงถูกทดสอบ

สิ่งสำคัญที่สุดและเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับการที่พระเป็นเจ้าทรงประทานพระพรแห่งอิสระภาพแก่บรรดาทูตสวรรค์นั้นเพื่อให้ทูตสวรรค์มีความรัก
>>>อ่านต่อ

หย่อนอารมณ์

            พ่อนั่งกินอาหารกับลูกชายตัวน้อยที่ช่างพูด ลูกชายถามพ่อว่า
             “พ่อครับถ้ากินแมลงแล้วจะเป็นอะไรไหมครับ?”
            พ่อ – “อย่าพูดเวลากินอาหารสิลูก มันไม่สุภาพนะ”
            หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พ่อก็พูดกับลูกชายว่า
            “เอาละ ตะกี้ลูกต้องการถามอะไรพ่อนะ?”
            ลูกชาย – “ไม่มีอะไรหรอกครับ ตอนกินอาหารมีแมลงอยู่ในจานของพ่อน่ะ แต่ตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว”

นักบุญบริจิตแห่งสวีเดน-นิมิตวันพระคริสตสมภพ

             "ดิฉันเห็นทารกน้อยทรงพระเกียรติรุ่งโรจน์กำลังนอนอยู่บนพื้นดิน ร่างกายเปล่าเปลือยและส่องประกายสดใสแต่สงบเรียบร้อยเป็นยิ่งนัก เมื่อพระนางพรหมจารีย์ทรงรู้สึกพระองค์ว่าพระนางทรงให้กำเนิดทารกแล้ว ในทันที, พระนางทรงก้มพระเศียรถวายบังคม พระหัตถ์ประนบน้อมสักการด้วยความสง่างามและด้วยความเทิดทูนเป็นที่ยิ่ง พระนางตรัสแก่พระกุมารน้อยว่า “ขอต้อนรับ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า, เจ้านายของข้าพเจ้า, และองค์พระบุตรของข้าพเจ้า!” และนั้น พระกุมารทรงร้องไห้และพระกายสั่นด้วยความหนาวเย็นและด้วยความแข็งกระด้างของพื้นแผ่นดินที่ทรงนอนอยู่ พระกุมารทรงบิดพระกายเล็กน้อยและกางพระหัตถ์ออกเพื่อหาความสดชื่นจากความรักของพระมารดา...เมื่อสิ่งเหล่านี้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ชายชรา(นักบุญโยเซฟ) ได้เข้ามาและท่านกราบถวายบังคมลงแทบพื้นดินแล้วคุกเข่าร้องไห้ด้วยความยินดี”
                จากหนังสือ 'Prophecies and Revelations of St Bridget of Sweden' วันที่ 23 ก.ค. เป็นวันฉลองของนักบุญบริจิตแห่งสวีเดน  Fra Angelico จิตรกรที่วาดรูปภาพการบังเกิดของพระคริสต์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อเขียนของท่านนักบุญ และรูปภาพนี้อยู่ในห้องหนึ่งของคอนแวนต์โดมินิกันแห่งซานมาร์โกในเมืองฟลอเรนส์

พิจารณาไตร่ตรองศีลมหาสนิท

ถ้าพระองค์ทรงแสดงพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ในเวลานี้บนโลก เราจะไม่กล้าเข้าใกล้พระองค์ ดังนั้นในเวลานี้พระองค์ทรงซ่อนพระองค์เหมือนกับนักโทษที่อยู่ในคุก
>>>อ่านต่อ

คุณพ่อปีโอ “การแต่งงานคือเขากาวารี”

"บนเขากาวารี คนเราพบความทุกข์ยากในการถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซูเจ้า”
>>>อ่านต่อ

หย่อนอารมณ์3

ถ้าอย่างนั้นก็โอเค
อาดัมมีลูกชายชื่อจอนนี่ เขาเป็นคนที่มีฐานะดีพอสมควร และเขาได้วางแผนการณ์ในอนาคตให้กับลูกชาย วันหนึ่งเขาพูดกับลูกชายว่า
อาดัม – พ่อได้มองหาเจ้าสาวไว้ให้ลูกแล้ว เธอชื่อ อาแมนดา ลูกต้องแต่งงานกับเธอ
จอนนี่ – ไม่ , ผมไม่แต่งกับเธอหรอก ผมจะแต่งกับผู้หญิงที่ผมเลือก
อาดัม – แต่อาแมนดาเป็นลูกสาวของบิลเก็ต เจ้าของบริษัทไมโครซอฟท์นะ
จอนนี่ – อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็โอเค

ต่อมาอาดัมไปพบกับผู้อำนวยการของธนาคารโลก (World Bank) และพูดกับเขาว่า
อาดัม – ผมขอแนะนำจอนนี่ลูกชายของผมให้มาทำงานเป็นผู้ช่วยของคุณในตำแหน่ง รองผู้อำนวยการครับ เขาเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถมาก
ผู้อำนวยการ – (รู้สึกขำ แต่ไม่อยากเสียมารยาท) ขอขอบคุณครับที่แนะนำลูกชายของคุณ แต่ผมยังไม่อยากได้ผู้ช่วยในตอนนี้หรอกครับ
อาดัม – แต่เขาเป็นลูกเขยของบิลเก็ตนะครับ
ผู้อำนวนการ – อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็โอเค

ต่อมาอาดัมไปพบกับบิลเก็ตและพูดกับเขาว่า
อาดัม – ผมอยากจะขอให้จอนนี่ลูกชายของผมได้แต่งงานกับอาแมนดาลูกสาวของคุณครับ เขาเป็นชายหนุ่มที่มีอนาคตที่สดใส
บิลเก็ต –  (รู้สึกสงสัยและพูดอย่างค่อนข้างไม่มีเยื่อใย) ขอขอบคุณครับที่แนะนำลูกชายของคุณ แต่ลูกสาวของผมคงไม่ยอมแต่งงานด้วยหรอก
อาดัม – แต่จอนนี่เป็นรองผู้อำนวยการธนาคารโลกนะครับ
บิลเก็ต – อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็โอเค

-------------------------
(ที่มา – หัวข้ออบรมการวางแผนธุรกิจ)