พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2024 พระเยซูเจ้ากับเศรษฐีหนุ่ม

           ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์
           พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครเล่าจะรอดพ้นได้” พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”
           เปโตรทูลพระเยซูเจ้าว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สละทุกสิ่งและติดตามพระองค์แล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียนและในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร
(มาระโก 10:17-30)








วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2566

โลกเหลือเวลาอีก5ปี


รู้หรือไม่ ? มนุษยชาติเหลือเวลาอีกไม่เกิน 5 ปี โลกจะร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส 
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกขององค์การสหประชาชาติ (UN) ชี้ว่าโลกจะร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี และปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ 
 โดยปรากฏการณ์เอลนีโญหมายถึงปรากฎการณ์ที่กระแสลมอ่อนเปลี่ยนทิศทางพัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกไปด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปฟิซิก ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลไปยังทวีปอเมริกาใต้แทน ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศในทวีปอเมริกาใต้มีฝนตกชุก ในขณะที่พื้นที่อื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, จีนตอนเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลจะประสบกับภัยแล้ง 
นักวิทยาศาสตร์ได้เตือนว่าเมื่ออุณหภูมิของโลกข้ามเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียส สภาพอากาศของโลกจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้และจะก่อให้เกิดภัยทางธรรมชาติมากมาย เช่น การพังทลายของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกตะวันตก , คลื่นความร้อนสูงและสภาพอากาศรุนแรงในพื้นที่ส่วนใหญ่

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566

หญิงพรหมจารีย์สิบคน


ทำไมจึงมีพรหมจารีย์ฉลาด 5 คนและพรหมจารีย์โง่เขลา 5 คน? หญิงพรหมจารีย์ 10 คนนี้ก็คือคริสตชนทั้งหมด,แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าจะบอกแก่พวกท่าน,ซึ่งอาจเป็นพระเจ้าที่ทรงดลใจข้าพเจ้า, พวกเขาไม่ใช่บุคคลทั่วไป,แต่เป็นผู้ที่มีความเชื่อคาทอลิกเป็นการเฉพาะ และดูเหมือนพวกเขาจะทำกิจการที่ดีในพระศาสนจักรของพระเจ้าด้วย อย่างไรก็ตาม,พวกเขาถูกระบุว่า 5 คนเป็นคนฉลาดและ 5 คนเป็นคนโง่ 
ทุกคนที่มีชีวิต,มีร่างกาย,จะมีอวัยวะสำคัญประจำตัว 5 สิ่ง เพราะร่างกายรับรู้สิ่งต่างๆได้โดยอาศัยประตูทั้งห้าซึ่งก็คือประสาทสัมผัสทั้งห้า อันได้แก่ การมองเห็น,ได้ยิน,ได้กลิ่น,รับรสและรู้สึกสัมผัส 
ผู้ใดที่ละเว้นจากการดูสิ่งที่ไม่ดี,ละเว้นฟังในสิ่งที่ไม่ดี,ละเว้นดมกลิ่นในสิ่งที่ไม่ดี,ละเว้นรับรสในสิ่งที่ไม่ดี,ละเว้นสัมผัสในสิ่งที่ไม่ดี ด้วยเหตุผลอันชอบธรรม,พวกเขาถูกเรียกว่าพรหมจารีย์
- นักบุญออกัสติน

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ไม้กางเขนแห่งการให้อภัย


นี่เป็นเรื่องราวเบื้องหลังไม้กางเขนอันเป็นเอกลักษณ์นี้ เรื่องนี้ไม่ได้รับการยืนยัน แต่สาส์นที่ให้ถือเป็นความจริง: 
'ในโบสถ์ภายในอารามซานตาอานาและซานโจเซ(Santa Ana and San Jose)ในเมืองคอร์โดบา, ประเทศสเปน มีไม้กางเขนโบราณอยู่อันหนึ่ง, เป็นพระรูปไม้กางเขนแห่งการให้อภัยที่แสดงให้เห็นว่าพระเยซูถูกตรึงบนกางเขนโดยที่แขนขวาของพระรูปถูกปลดออกจากไม้กางเขนและห้อยดิ่งลงมา 
พวกเขาเล่าว่าวันหนึ่งมีคนบาปคนหนึ่งไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ซึ่งนั่งอยู่ภายใต้ไม้กางเขนนี้ โดยปกติแล้ว, เมื่อคนบาปทำบาปร้ายแรง,พระสงฆ์ผู้นี้จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาก 
ไม่นานต่อมา,ชายคนนี้ทำบาปอีกและมาสารภาพบาปกับพระสงฆ์องค์นี้ พระสงฆ์พูดเชิงขู่เขาว่า “พ่อจะยกโทษให้คุณครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย” 
หลายเดือนผ่านไป, ชายผู้นั้นก็มาคุกเข่าต่อหน้าพระสงฆ์ซึ่งนั่งอยู่ใต้ไม้กางเขนและสารภาพบาปอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้,พระสงฆ์พูดอย่างชัดเจนว่า “อย่าล้อเล่นกับพระเจ้า ขอโทษเถิด,พ่อไม่อาจยอมให้คุณทำบาปต่อไป พ่อจะไม่ยกโทษบาปให้ในครั้งนี้” 
แต่น่าแปลกใจ, เมื่อพระสงฆ์ปฏิเสธต่อคนบาป จู่ๆก็ได้ยินเสียงดังจากไม้กางเขน, พระหัตถ์ขวาของพระเยซูหลุดออก, ด้วยความสำนึกผิดของชายผู้นั้น, จึงได้ยินคำพูดต่อไปนี้: “เราคือผู้ที่หลั่งโลหิตเพื่อชายผู้นี้ ไม่ใช่ท่าน”
ตั้งแต่นั้นมา พระหัตถ์ขวาของพระเยซูก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งนั้น เพื่อเชื้อเชิญมนุษย์ทุกคนให้เข้ามาขอและรับการอภัยจากพระเยซูตลอดเวลา

วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ความโง่เขลาของโลก


ผู้น่าเคารพยอห์น แห่งอาวีลา(Venerable John Avila) เปรียบเทียบโลกว่าเป็นเหมือนคุก และท่านแบ่งโลกออกเป็นคุกสองคุก คุกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่เชื่อพระเจ้า และอีกคุกหนึ่งสำหรับคริสตชนที่อยู่ในบาป,ห่างไกลจากพระเจ้า คุกอย่างหลังนี้เขาเรียกว่าคุกของคนเขลา แต่ความน่าสมเพชและความร้ายแรงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุกนี้คือ คนที่น่าสมเพชเหล่านี้คิดว่าตนเองฉลาดและสุขุม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนโง่เขลาและไร้ความรอบคอบที่สุดในบรรดามนุษย์ทั้งหลายก็ตาม บางคนโง่เขลาเพราะรักเกียรติยศ, บางคนเพราะแสวงหาความสุขจากโลก,จากการยึดติดกับวัตถุสิ่งของที่น่าสังเวชของโลกนี้ พวกเขากลับคิดว่าเป็นการโง่เขลาที่จะยอมรับการดูถูกและการให้อภัยหรือยอมรับความเจ็บไข้ เขาถือว่าเป็นความเขลาถ้าหากเว้นจากกามราคะ เป็นความเขลาถ้าควบคุมตนเองด้วยการทำพลีกรรม เป็นความเขลาถ้ายอมสละเกียรติยศและทรัพย์สมบัติ เป็นความเขลาในการรักความสันโดษ และใช้ชีวิตสมถะและซ่อนเร้น
แต่สำหรับพระเจ้าแล้วปัญญาของโลกเช่นนี้คือความโง่เขลา

วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2566

แม่พระแห่งน็อค,ไอร์แลนด์


ทุกคนเห็นนิมิตอันอัศจรรย์และชีวิตพวกเขาเปลี่ยนไปจากประสบการณ์นั้น
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566

สาส์นแม่พระ 25 ส.ค.2023

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 ส.ค. 2023
ลูกที่รักทั้งหลาย
          ในช่วงเวลาแห่งพระหรรษทานนี้,แม่ขอให้ลูกสวดภาวนาด้วยหัวใจ ลูกน้อยทั้งหลาย,ขอให้ลูกยกจิตใจขึ้นถึงสวรรค์ในการสวดภาวนา,เพื่อที่หัวใจของลูกจะรู้สึกได้ถึงความรักของพระเจ้า,พระผู้ทรงเยียวยารักษาลูกและรักลูกด้วยความรักอันมากล้นมิอาจวัดได้ ด้วยเหตุนี้แม่จึงมาอยู่กับลูก,เพื่อนำทางพวกลูกให้เดินไปในหนทางแห่งการกลับใจในหัวใจ     

          ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระเมตตาของพระเยซูเจ้า


“พระจิตเจ้าไม่ตรัสกับวิญญาณ 
ที่ไม่คิดถึงพระเจ้าและชอบพูดในเรื่องไร้สาระ 
พระองค์ตรัสโดยการดลใจอย่างเงียบๆ 
แก่วิญญาณที่ครุ่นคิดถึงพระองค์, 
แก่วิญญาณที่รู้วิธีรักษาความเงียบ”
– นักบุญโฟสตีนา โควาสกา, ไดอารี่ 552🌹❤️🙏

วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ช่วยเหลือดัชเชสจากการกล่าวหาอย่างผิดๆ


ดยุกแห่งเฟอร์ราราในสมัยนั้น มีภรรยาที่สวยงามและมีความศรัทธาในพระศาสนา สามีภรรยาคู่นี้มีลูกที่น่ารัก และครอบครัวเล็กๆก็มีความสุข แต่แล้วจู่ๆ,ครอบครัวที่สุขสันต์กลับต้องพบกับปัญหา ท่านดยุกเริ่มสงสัยเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของภรรยาและเขาเริ่มทรมานเธอโดยกล่าวหาว่าเธอนอกใจเขา ดัชเชสผู้น่าสงสารซึ่งอยู่ในความปวดร้าวและทุกข์ใจอย่างยิ่งไปหานักบุญแอนโทนีและระบายความโศกเศร้าของเธอให้เขาฟัง เธอยังขอให้เขาช่วยโน้มน้าวสามีของเธอให้เชื่อถึงความบริสุทธิ์ของเธอ 
แอนโทนี่สามารถแยกแยะได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ และเขาต้องการช่วยเธอ เขาไปที่ปราสาทของดยุกทันที เมื่อเขาอยู่ในปราสาท, เขาเรียกให้นำทารกน้อยผู้น่ารักมาให้เขาและพูดว่า: "ทารกผู้บริสุทธิ์ที่รักของฉัน ฉันขอให้ลูกในนามของพระกุมารเยซูศักดิ์สิทธิ์และพระนางแม่มารีย์พรหมจารีย์,ให้บอกฉันว่า พ่อของลูกเป็นใคร" ทารกที่ยังไม่ได้เริ่มพูดชี้ไปที่ท่านดยุคและพูดด้วยน้ำเสียงเด็กน้อยว่า "นี่คือพ่อของฉัน" 
แอนโทนีหันไปหาทั้งคู่และพูดว่า: "ครอบครัวที่มีความสุขแตกสลายเมื่อสามีสงสัยเกี่ยวกับภรรยาและเมื่อภรรยาสงสัยเกี่ยวกับสามี คู่รักเหล่านี้ทำลายความสุขของครอบครัวและหย่าร้าง พวกเขาจะทำได้ดีขึ้นเมื่อพวกเขามีความเข้าใจว่าพระเจ้าสถิตในสถานที่ที่มีรักแท้ เพราะฉะนั้น,โปรดเข้าใจกันและกันให้ดี และใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข" 
แอนโทนี่อุ้มทารกไว้ในอ้อมแขนและมอบให้พ่อของเขา เขาพูดกับดยุคว่า "ทารกคือเลือดเนื้อของคุณ ตอนนี้คุณเข้าใจดีแล้วจากลูกน้อยของคุณว่าภรรยาของคุณเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นคุณจึงควรปฏิบัติต่อเธอด้วยความกรุณาและด้วยความรัก" 
ดยุคเมื่อเข้าใจความโง่เขลาของเขาแล้ว เขาจึงขออภัยภรรยาของเขาและเริ่มมีชีวิตที่มีความสุขอีกครั้ง
#Catholic 4 Life🌹❤️🙏

วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ความศรัทธาต่อนักบุญยอแซฟ


" ดิฉันเรียกหานักบุญยอแซฟผู้เป็นองค์อุปถัมภ์และเจ้านายของฉัน และวอนขอความต้องการของฉันอย่างจริงจังต่อท่าน ฉันเห็นชัดเจนว่าทั้งปัญหาในปัจจุบันของฉันเองและจากเรื่องอื่นๆที่มีความสำคัญมากกว่า,จะมีความสัมพันธ์กับความวางใจและความท้อแท้ในวิญญาณของฉันต่อท่านนักบุญผู้เป็นบิดาและเจ้านายของฉัน ท่านได้ช่วยเหลือฉันมากเกินกว่าที่ฉันวอนขอหรือคาดหวังไว้ ฉันยังนึกไม่ออกเลยว่ามีสิ่งใดบ้างที่ฉันวอนขอจากท่านนักบุญแล้วท่านไม่มอบให้ และฉันเต็มไปด้วยความประหลาดใจเมื่อพิจารณาถึงความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานแก่ฉันผ่านทางท่านนักบุญผู้น่าเคารพนี้ ซึ่งได้แก่ภยันตรายต่างๆซึ่งท่านช่วยฉันไว้ทั้งฝ่ายร่างกายและจิตใจ"
-นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลลา🌹❤️🙏

วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ในโครเอเชีย


ชาวโครเอเชียอลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์
ในวันสมโภชนี้ถือเป็นวันยิ่งใหญ่ของชาวโครเอเชียและเป็นวันหยุดราชการ

วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระนางมารีย์เสด็จสู่สวรรค์และรับสวมมงกุฏ


บัดนี้,พระนางทรงได้รับพระเกียรติสูงสุดที่สมควรได้รับ และมีส่วนร่วมในพระราชอำนาจของพระเจ้า
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2566

คำสอนแห่งความจริง


ความดีสมบูรณ์ในชีวิตนี้ย่อมมีความไม่ดีปะปนอยู่บ้าง 
และการเรียนรู้ของเราก็ยังมีสิ่งที่ไม่ชัดเจน 
ถ่อมใจตนเพื่อรู้จักตัวเองเป็นเส้นทางสู่พระเจ้าที่แน่นอนกว่าการแสวงหาการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น 
การเรียนรู้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ดี การแสวงหาความรู้เป็นความดีในตัวมันเองและเป็นสิ่งที่ได้รับมาจากพระเจ้า; แต่การมีมโนธรรมที่บริสุทธิ์ผ่องใสและมีคุณธรรมในชีวิตย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าเสมอ 
หลายคนมักทำผิดพลาดและประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยหรือไม่ประสบความสำเร็จเลย,เพราะพวกเขาแสวงหาความรู้มากกว่าที่จะพยายามดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น 
++ 
ถ้ามนุษย์ใช้ความพยายามในการถอนรากถอนโคนความชั่วและปลูกฝังคุณธรรมให้กับตนเองมากเท่ากับที่พวกเขาทำในการถกเถียงปัญหาไร้สาระเหล่านั้น, จะไม่มีความชั่วร้ายมากมายและมีเรื่องอื้อฉาวในโลกหรือมีความหละหลวมในคณะนักบวชต่างๆ 
ในวันแห่งการพิพากษา, แน่นอน, เราจะไม่ถูกถามว่าเราได้อ่านหนังสืออะไรบ้างแต่จะถูกถามว่าเราได้กระทำความดีอะไร 
เราจะไม่ถูกถามว่าพูด,สอนได้ดีแค่ไหน, แต่ถูกถามว่าเราดำเนินชีวิตอย่างดีเพียงใด 
-โทมัส เคมปิส - จำลองแบบพระคริสต์ เล่ม 1 บทที่ 3

วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2566

อัศจรรย์โบสถ์ในเมาวี,ฮาวาย


ไฟไหม้ครั้งมโหฬารในเมืองเมาวี,ฮาวาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 99 คนและสูญหายอีกประมาณหนึ่งพัน โบสถ์มารีย์ ลานาคีล(Maria Lanakil church)ในเมาวีกลับไม่ได้รับความเสียหายหรือจากความร้อนเลย มองซิเยอร์เทอร์เรนซ์ วาตานาบี(Reverend Monsignor Terrence Watanabe)จากโบสถ์เซนต์แอนโทนีที่อยู่ใกล้เคียงกล่าว่านี่เป็น “อัศจรรย์ที่เหลือเชื่อ” โบสถ์ไม่ได้รับความเสียหายขณะที่อาคารโดยรอบพังทลาย

วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระนางมารีย์รับเกียรติขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ


"เพราะฉะนั้น,พระแม่มารีย์จึงทรงมีชีวิตนิรันดรตราบจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากพระผู้สถิตในพระนางได้พาพระนางไปยังดินแดนแห่งชัยชนะของพระนาง" (Timothy of Jerusalem Homily on Simeon and Anna; 400 AD) 
"และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกคนก็รู้ว่าร่างกายที่ไร้มลทินและทรงคุณค่านี้ได้ถูกย้ายไปยังสรวงสวรรค์แล้ว" (John the Theologian, The Falling Asleep of Mary; 400 AD) 
“บรรดาอัครสาวกนำร่างของพระนางไว้บนคานหามและนำไปวางไว้ในพระคูหา และพวกเขาเฝ้ายามป้องกันไว้,โดยคาดหวังว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา และดูเถิด, องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับยืนอยู่ข้างพวกเขา และทรงรับร่างอันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางมารีย์ไว้ พระองค์ทรงบัญชาให้นำร่างของพระนางขึ้นไปในเมฆสู่สรวงสวรรค์ ที่ซึ่งเวลานี้,ร่างพระนางมารีย์ได้เข้าร่วมกับวิญญาณอีกครั้งและชื่นชมยินดีกับเหล่าผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร..." (Gregory of Tours, Eight Books of Miracles, 1:4; 575-593 A.D.) 
“ในฐานะพระมารดาผู้รุ่งโรจน์ที่สุดของพระคริสต์, พระผู้ช่วยให้รอดและพระเจ้าของเรา, และผู้ทรงประทานชีวิตและความเป็นอมตะ, พระนางทรงได้รับชีวิตจากพระองค์ พระนางได้รับพระวรกายที่ไม่เน่าเปื่อยชั่วนิรันดร์และประทับอยู่พร้อมกับพระองค์ผู้ทรงชุบพระนางขึ้นมาจากพระคูหาและ ได้พาพระนางขึ้นมาหาพระองค์เองในลักษณะที่มีแต่เพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงทราบ" (Modestus of Jerusalem, Encomium in dormitionnem Sanctissimae Dominae nostrae Deiparae semperque Virginis Mariae (PG 86-II,3306 ก่อน ค.ศ. 634)

วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2566

คำพูดของนักบุญ


"จงมองไปยังบั้นปลายชีวิตของท่าน,จงมองให้ชัด, อย่าลืมจุดมุ่งหมายและปลายทางของท่านในฐานะสิ่งสร้างของพระเจ้า สิ่งที่ท่านเป็นในสายพระเนตรของพระองค์ก็คือสิ่งที่ท่านเป็นและไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น จำไว้ว่าเมื่อท่านจากโลกนี้ไป ท่านจะเอาสิ่งที่ท่านได้รับมาไปด้วยไม่ได้, แต่เอาไปได้เฉพาะสิ่งที่ท่านให้ ซึ่งก็คือจิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยการรับใช้อย่างซื่อสัตย์, ความรัก, ความเสียสละ, และความกล้าหาญ" 
~ นักบุญฟรังซิส อัสซีซี🌹❤️🙏

วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ผ้าเช็ดหน้าของพระนางมารีย์


คนเหล่านั้นคือคนที่สูญเสียคุณธรรม แต่พวกเขาได้ชดใช้ด้วยการสารภาพบาป 
>>>อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระเจ้าทรงกำหนดให้ถวายพระเกียรติแก่พระมารดาของพระองค์


นักบุญอังแซม(St. Anslem)เตือนเราว่า เราอาจได้รับพระเมตตาจากพระนางมารีย์ได้เร็วกว่าจากพระเยซูเจ้า เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระผู้พิพากษาที่สามารถตัดสินลงโทษ ในขณะที่พระนางมารีย์ทรงแสดงพระเมตตาในฐานะองค์อุปถัมภ์ แต่มิได้หมายความว่าพระนางมารีย์ทรงมีอำนาจมากกว่าพระเยซูเจ้า เพราะเรารู้ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดองค์เดียวของเรา และพระองค์เพียงผู้เดียวที่ทรงสามารถประทานความรอดแก่เราได้โดยอาศัยบุญบารมีแห่งพระมหาทรมานของพระองค์ 
หลายสิ่งที่เราวอนขอจากพระเจ้าและไม่ได้รับ แต่เมื่อสิ่งเหล่านั้นถูกวอนขอผ่านทางพระนางมารีย์และเราก็ได้รับ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะพระเจ้าทรงประสงค์เช่นนี้เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระมารดาของพระองค์
ในบทที่ 5 ของหนังสือเล่มแรกของการเปิดเผยของเธอ, นักบุญบริดจิตแห่งสวีเดนได้ยินพระเยซูเจ้าตรัสกับพระมารดาในลักษณะนี้ว่า "ขอพระมารดาจงแสดงคำวอนขอใดๆที่ถูกปฏิเสธแก่ลูกเถิด สิ่งใดก็ตามที่พระมารดาทรงปรารถนา,ลูกจะไม่ปฏิเสธเลย ทรงรู้เถิดว่า,ลูกสัญญาที่จะฟังคำวอนขอทุกอย่างของผู้ใดก็ตามที่วอนขอจากลูกในพระนามของพระมารดาถึงแม้พวกเขาจะเป็นคนบาป ถ้าหากเพียงแต่พวกเขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขชีวิตของพวกเขา"
สิ่งเดียวกันนี้ได้รับการเปิดเผยแก่นักบุญเกอร์ทรูดเมื่อเธอได้ยินพระผู้ไถ่ของเราให้คำมั่นกับพระมารดาของพระองค์ว่าพระองค์ทรงมอบอำนาจให้พระนางแสดงพระเมตตาต่อคนบาปที่เคารพพระนามของพระมารดาไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่พระนางทรงพอพระทัย

วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระรูปที่น่ารักของพระเยซูกุมาร


พระรูปหายากและศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูกุมารอยู่ในอ้อมแขนของคุณยายนักบุญอันนา โดยมีพระนางมารีย์,พระมารดาของพระองค์ยืนมองพระองค์อยู่ 
ข่างน่าเอ็นดูน่ารัก🙏🙏🙏

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

นักบุญแห่งปาดัว


นักบุญแอนโทนีมีความกระตือรือร้นตลอดชีวิตในการไถ่กู้วิญญาณให้พ้นจากคำสาปแช่งชั่วนิรันดร์ ประชาชนหลายคนที่ตระหนักถึงอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ของการสารภาพบาปกับนักบุญแอนโทนี แอนโทนีปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะโปรดศีลอภัยบาปแก่พวกเขา
ครั้งหนึ่งชายคนหนึ่งซึ่งดำเนินชีวิตในบาปได้มาพบกับแอนโทนีและขอคำแนะนำจากท่านนักบุญ วิญญาณชั่วร้ายหลายดวงมีอิทธิพลต่อชายผู้นี้และพวกมันควบคุมเขาอย่างเต็มที่ เขารู้สึกว่าตนกำลังอยู่ในนรกบนผ่นดิน เขาห่างไกลจากพระเจ้าและพระศาสนจักรมากแล้ว ใบหน้าของเขาจึงดูซีดเซียวและมืดมน เขาเปิดใจกับแอนโทนี ในขณะที่สารภาพบาป,เขาสำนึกผิดถึงระดับที่ไม่สามารถสารภาพบาปต่อไปได้ แอนโทนีแนะนำให้เขาเขียนบาปของเขาและนำมาให้ท่าน ชายผู้นี้จึงนำรายชื่อบาปที่เขาเขียนขึ้นไปให้แอนโทนี แอนโทนีปลอบโยนเขาว่า "พระเจ้าไม่ทรงระลึกถึงอดีตอันเลวร้ายของมนุษย์ พระองค์จะลงโทษเฉพาะคนบาปที่ไม่กลับใจและยังคงทำบาปต่อไป" แอนโทนี่อ่านบาปทีละข้อ และชายคนนั้นก็พยักหน้ายืนยัน ขณะที่กระบวนการนี้ดำเนินอยู่ บาปที่แอนโทนีกำลังอ่านอยู่ก็หายไปจากกระดาษ และแผ่นกระดาษก็กลับกลายเป็นแผ่นกระดาษว่างเปล่า ชายผู้นั้นได้รับการอวยพรจากแอนโทนีและกลับบ้านในสภาพคนใหม่ 
เมื่อใดก็ตามที่แอนโทนีเทศน์, เขาจะถือไม้กางเขนขนาดเล็กไว้ในมือ เขารักเมืองปาดัวและทำงานเพื่อความก้าวหน้าทางวัตถุและจิตวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงถูกเรียกด้วยความรักจากผู้คนว่า "นักบุญแห่งปาดัว"

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วิญญาณในไฟชำระถูกละเลย


ในสมัยก่อน, เคยมีการเยี่ยมสุสาน มีการสวดภาวนาที่นั่นเพื่อรับพระคุณการุณญ์,ทำให้วิญญาณดวงหนึ่งสามารถตรงไปยังสวรรค์ได้
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ความศรัทธาต่อนักบุญโยเซฟ


คำพูดของนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา

"ดิฉันขอชักชวนให้มนุษย์ทุกคนมีความศรัทธาต่อนักบุญผู้รุ่งโรจน์ผู้นี้ (บักบุญโยเซฟ) เพราะดิฉันรู้จากประสบการณ์อันยาวนานว่าท่านได้รับพระพรทุกอย่างจากพระเจ้าเพื่อมอบให้แก่เรา ดิฉันไม่เคยได้ยินเลยว่าผู้ที่มีความศรัทธาอย่างแท้จริงต่อท่านนักบุญและให้เกียรติแด่ท่านด้วยการรับใช้ท่านแล้วจะไม่มีความก้าวหน้าในด้านคุณธรรม เพราะท่านนักบุญจะคอยช่วยเหลือเป็นพิเศษสำหรับวิญญาณเหล่านั้นที่ยกย่องให้เกียรติท่าน บัดนี้เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ดิฉันเริ่มวอนขอบางอย่างจากท่านนักบุญในวันสมโภชของท่าน และดิฉันก็ได้รับเสมอ หากคำวอนขอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ท่านนักบุญจะแก้ไขเพื่อประโยชน์อันใหญ่ยิ่งของเรา...ดิฉันวอนขอความรักจากพระเจ้าให้แก่ผู้ที่ไม่เชื่อในดิฉัน แล้วท่านนักบุญก็จะค้นพบวิธีมอบความดีอันยิ่งใหญ่แก่ดิฉัน เป็นผลจากการวางใจในท่านนักบุญผู้รุ่งโรจน์ผู้นี้และมีความศรัทธาต่อท่านนักบุญ..."

วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2566

พระนางมารีย์,ดวงดาราแห่งท้องทะเล


ใครเล่าจะไม่มั่นใจในพระแม่ เพราะพระแม่ทรงช่วยเหลือแม้กระทั่งผู้ที่สิ้นหวัง
>>>อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2566

คำทำนายของนักบุญยอห์น บอสโก


จะถึงเวลาที่ปีศาจจะหว่านความบาดหมางในบรรดาผู้ที่ใกล้ชิดกับพระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์
>>>อ่านต่อ

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2566

คำแนะนำเกี่ยวกับการสู้รบฝ่ายจิต


จงต่อสู้เสมอด้วยความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่าเราอยู่กับลูก อย่าถูกชี้นำด้วยความรู้สึก, เพราะมันไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของลูกเสมอไป แต่บุญกุศลทั้งหมดของลูกอยู่ที่การเชื่อฟังคำแนะนำของผู้แนะนำฝ่ายจิตของลูกเสมอแม้ในสิ่งเล็กน้อยที่สุด เราจะไม่หลอกลวงลูกด้วยความสุขและการปลอบโยน ตรงกันข้าม จงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ จงรู้ไว้เถิดว่าเวลานี้ลูกอยู่บนเวทีที่ยิ่งใหญ่ซึ่งทั้งสวรรค์และโลกกำลังเฝ้าดูลูกอยู่ จงต่อสู้ด้วยความกล้าหาญเยี่ยงอัศวิน เพื่อที่เราจะได้ตอบแทนลูก อย่ากลัวเกินควร เพราะลูกไม่ได้อยู่คนเดียว (ไดอารี่, 1760) 
คำภาวนาของดิฉัน(นักบุญโฟสตินา) 
ขอบพระคุณพระเจ้าข้า,พระเยซูเจ้า,สำหรับคำแนะนำการสู้รบฝ่ายจิตของพระองค์ การเผยแพร่สาส์นแห่งพระเมตตาของพระองค์เป็นการสู้รบที่ยิ่งใหญ่ แต่ด้วยพระหรรษทานของพระองค์และการประทับอยู่ของพระองค์,ลูกต้องการสู้รบเยี่ยงอัศวิน;

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ผู้ช่วยส่วนตัวของคุณพ่อปีโอ


รูปถ่ายของคุณพ่อปีโอกับบราเดอร์บิล มาร์ติน nbsp;
วิลเลียม(บิล) มาร์ติน William (Bill) Martin จากบรุกลิน, นิวยอร์ก ได้พบกับคุณพ่อปีโอ ครั้งแรกเมื่อเขาเดินทางไปที่ San Giovanni Rotondo ในปี 1959 บิลไปเยี่ยมคุณพ่อปีโออีกครั้งในปี 1964 การได้อยู่ต่อหน้าคุณพ่อปีโอนั้นทำให้จิตใจของเขาเบิกบานมาก เมื่อถึงเวลากล่าวคำอำลา,บิลพบว่ามันเป็นการยากมากที่จะจากไป 
ขณะที่บิลกำลังรอรถบัสที่จะพาเขาไปที่ Foggia บราเดอร์คนหนึ่งของคณะคาปูชินวิ่งมาหาเขาและบอกเขาว่าคุณพ่อปิโอต้องการให้เขาอยู่ที่อารามต่อไป บิลมีความสุขมากที่ทราบข่าวนี้ เขากลายเป็นฟรังซิสกันชั้นที่สามและหลังจากนั้นทุกคนก็รู้จักในนามบราเดอร์บิล 
หลังจากคุณพ่อโอมรณภาพ, บิลได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์และได้รับนามว่าคุณพ่อโจเซฟ ปิอุส 
บราเดอร์บิล กลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณพ่อปีโอและทำงานใกล้ชิดกับท่านทุกวัน บ่ายวันหนึ่ง เขากับคุณพ่อปีโอนั่งอยู่ด้วยกันที่ระเบียงแดดนอกห้องพักของคุณพ่อปีโอ เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ ต่างคนต่างหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง บราเดอร์บิลกำลังคิดกับตัวเองว่าเป็นพระพรอันยิ่งใหญ่ที่เขาสามารถใช้เวลาใกล้ชิดกับคุณพ่อปีโอได้มากขนาดนี้ เขารู้ว่าเขาโชคดีแค่ไหนและเขาสงสัยว่าใครได้รับพระหรรษทานอันวิเศษนี้ เป็นคุณพ่อปีโอหรือแม่พระที่เป็นผู้ประทานพระหรรษทานนี้? แม้ว่าบราเดอร์บิล จะไม่ได้เปิดเผยความคิดของเขากับคุณพ่อปีโอ แต่ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น คุณพ่อปีโอก็หันมาหาเขาและพูดว่า “เป็นแม่พระ”
#Catholic 4 Life

วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ปีศาจพยายามทำลายพระศาสนจักร


ปีศาจถูกบังคับให้บอกความจริงโดยพระแม่มารีย์ในการประกอบพิธีขับไล่ปีศาจ
>>>อ่านต่อ

วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2566

จำเป็นต้องประกาศพระวาจา


สิงโตคำรามแล้ว ผู้ใดจะไม่กลัวบ้าง? พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแล้ว ผู้ใดจะไม่ประกาศพระวาจา? ....อาโมส 3,3:8, 
“หากสัตว์โลกทั้งปวงหวาดกลัวและตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงคำรามของสิงโตฉันใด เราจะไม่ประกาศพระวาจาได้อย่างไรเมื่อพระเจ้าตรัสสั่งให้เราพูดและบอกผู้คนถึงความทรมานที่รอพวกเขาอยู่”  
นักบุญเจอโรม อธิบาย Amos, 3, 3-8   

"ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงล่อลวงข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็ยอมให้ถูกล่อลวง พระองค์ทรงพลังเหนือข้าพเจ้าและทรงมีชัยชนะ ข้าพเจ้าเป็นที่น่าหัวเราะวันยังค่ำ ทุกคนเยาะเย้ยข้าพเจ้า ทุกครั้งที่พูด ข้าพเจ้าต้องร้องขอความช่วยเหลือ ตะโกนว่า “แย่แล้ว ตายแน่” 
เพราะพระวาจาของพระยาห์เวห์เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าต้องอับอายและถูกเยาะเย้ยอยู่ตลอดวัน แม้ข้าพเจ้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่คิดถึงพระองค์ และจะไม่พูดในพระนามของพระองค์อีก” แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีไฟเผาอยู่ในใจ อัดอยู่ในกระดูกของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพยายามควบคุมไฟนี้ไว้จนอ่อนเปลี้ย แต่ก็ควบคุมไว้ไม่ไหว 
.....เยเรมีย์ 20:7-9