พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นเถาองุ่นแท้

           เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นชาวสวน กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผล พระองค์จะทรงตัดทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิดเพื่อให้เกิดผลมากขึ้น ท่านทั้งหลายก็สะอาดอยู่แล้วเพราะวาจาที่เรากล่าวกับท่าน ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเราเถิด ดังที่เราดำรงอยู่ในท่าน กิ่งองุ่นเกิดผลด้วยตนเองไม่ได้ถ้าไม่ติดอยู่กับเถาองุ่นฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะเกิดผลไม่ได้ ถ้าไม่ดำรงอยู่ในเราฉันนั้น เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเรา และเราดำรงอยู่ในเขา ก็ย่อมเกิดผลมาก เพราะถ้าไม่มีเรา ท่านก็ทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา ก็จะถูกโยนทิ้งไปข้างนอกเหมือนกิ่งก้านและจะเหี่ยวแห้งไป กิ่งก้านเหล่านั้นจะถูกเก็บไปทิ้งในไฟและถูกเผา ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในเรา และวาจาของเราดำรงอยู่ในท่าน ท่านอยากได้สิ่งใด ก็จงขอเถิด และท่านจะได้รับ พระบิดาของเราจะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์เมื่อท่านเกิดผลมากและกลายเป็นศิษย์ของเรา
(ยอห์น 15:1-8)








วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ไม่สนใจพระคัมภีร์เท่ากับไม่สนใจพระคริสตเจ้า

น.เยโรม มีเทวดาคอยช่วยขณะแปลพระคัมภีร์
         นักบุญเยโรม  เป็นองค์อุปถัมภ์ของการศึกษาพระคัมภีร์  เพราะท่านเป็นผู้รวบรวมหนังสือพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู , กรีก, และลาตินเอาไว้เป็นร้อยๆฉบับ  ท่านแปลคัมภีร์ไบเบิลเป็นภาษาลาติน  และยังได้เขียนความคิดเห็นในบางบทของพระคัมภีร์อีกด้วย  ท่านจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญในพระคัมภีร์อย่างแท้จริง
น.เยโรมยังเป็นที่รู้จักกันดีจากวาทะคำคมของท่านที่ว่า  ไม่สนใจพระคัมภีร์เท่ากับไม่สนใจพระคริสตเจ้า  คำคมนี้บอกเราว่าพระศาสนจักรสนใจศึกษาพระคัมภีร์เป็นเวลาช้านานแล้ว 
ยังมีความคิดเห็นของท่านอันเป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับหนังสืออิสยาห์  น.เยโรมเรียกประกาศกอิสยาห์ว่าเป็นทั้งอัครสาวกและผู้แพร่ธรรม  เพราะอิสยาห์ได้กล่าวถึงพระคริสตเจ้าไว้เป็นจำนวนมาก  ก่อนที่พระองค์จะทรงบังเกิดมา  ท่านเขียนไว้ว่า : 
ข้าพเจ้าแปลพระคัมภีร์ตามที่ควรกระทำ  เพื่อทำตามพระบัญชาของพระคริสตเจ้าที่ว่า “จงค้นหาในพระคัมภีร์ จงแสวงหาแล้วท่านจะพบ  พระคริสตเจ้าไม่ได้ตรัสกับข้าพเจ้าเหมือนดังเช่นที่ตรัสกับชาวยิว” พวกท่านผิดพลาด ที่ไม่รู้จักพระคัมภีร์และไม่รู้จักฤทธิ์อำนาจของพระเป็นเจ้า  ตามที่นักบุญเปาโลกล่าวไว้  พระคริสตเจ้าคือฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าและเป็นพระปรีชาญาณของพระองค์  ดังนั้น  การไม่สนใจพระคัมภีร์ก็เท่ากับไม่สนใจพระคริสตเจ้า
เพราะฉะนั้น  ข้าพเจ้าจะเลียนแบบพ่อบ้านที่ฉลาด  ผู้ที่นำเอาเครื่องใช้ในบ้านทั้งเก่าและใหม่ออกมาใช้  และได้กล่าวกับเจ้าสาวของเขาในบทเพลงซาโลมอนว่า  “ฉันได้เก็บเครื่องใช้ทั้งเก่าและใหม่ไว้ให้แก่เธอ สุดที่รักของฉัน”  ด้วยเหตุนี้โปรดอนุญาตให้ข้าพเจ้าอธิบายถึงอิสยาห์  เพื่อพิสูจน์ว่าท่านไม่ได้เป็นแต่เพียงประกาศกเท่านั้น  แต่เป็นผู้แพร่ธรรมและเป็นอัครสาวกด้วย  เพราะท่านกล่าวถึงตัวท่านเองและกล่าวถึงผู้แพร่ธรรมคนอื่นว่า “เท้าของผู้ประกาศข่าวดีช่างสวยงามยิ่งนัก และเท้าของผู้ประกาศสันติภาพก็สวยงามด้วย  พระเจ้ายังได้ตรัสกับท่านอิสยาห์เหมือนกับว่าท่านเป็นอัครสาวกดังนี้  “เราจะส่งใครไป  ใครจะไปหาประชากรของเรา?”  และท่านตอบพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่  โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด”
คงไม่มีใครคิดว่า ข้าพเจ้าตั้งใจจะอธิบายทุกตอนของหนังสือพระคัมภีร์อันยิ่งใหญ่นี้ด้วยคำเทศน์เพียงสั้นๆ  เพราะในหนังสือนั้นบรรจุเรื่องราวลึกลับทุกอย่างขององค์พระผู้เป็นเจ้า  ในพระคัมภีร์มีคำทำนายว่า  เอ็มมานูเอลจะบังเกิดจากหญิงพรหมจารีย์และจะทำกิจการอันน่ามหัศจรรย์และเครื่องหมายต่างๆ  ยังทำนายถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์  การถูกฝังและการกลับคืนชีพจากความตายในฐานะพระผู้ไถ่ของมนุษย์ทุกคน  ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ  ตรรกะ หรือจริยศาสตร์  เพราะสิ่งใดที่เหมาะสมคู่ควรต่อพระคัมภีร์  สิ่งใดที่สามารถสื่อในภาษามนุษย์และเป็นที่เข้าใจต่อมนุษย์ได้  สิ่งนั้นได้ถูกบรรจุอยู่ในหนังสืออิสยาห์  สำหรับเรื่องราวลึกลับนี้ท่านผู้เขียนได้เป็นพยานด้วยตัวท่านเองเมื่อท่านเขียนว่า “ ท่านจะได้เห็นนิมิตสิ่งต่างๆทุกเรื่อง  เหมือนอักษรที่จารึกอยู่ในม้วนหนังสือที่ปิดผนึก  เมื่อพวกเขาจะนำหนังสือไปยื่นให้แก่ผู้ปรีชาฉลาด  และกล่าวแก่เขาว่า  จงอ่านหนังสือนี้  และผู้นั้นจะตอบว่า  ข้าพเจ้าอ่านไม่ได้  เพราะหนังสือถูกปิดผนึกไว้  แต่เมื่อม้วนหนังสือถูกนำไปยื่นให้ผู้โง่เขลาและบอกเขาว่า  จงอ่านหนังสือนี้  เขาจะตอบว่า  ฉันอ่านไม่ได้  เพราะฉันอ่านหนังสือไม่ออก”
ข้อความนี้เป็นเหตุให้ผู้ใดอ่อนล้าหรือ  ขอให้เขาฟังสิ่งที่อัครสาวกพูดเถิด : ให้ประกาศกสองหรือสามคนพูด แล้วให้อีกคนหนึ่งแปลความหมาย  แต่ถ้าหากการเผยแสดงนั้นมาถึงผู้ใดที่อยู่ที่นั้น  ก็ให้คนแรกเงียบก่อน  พวกเขาทั้งหมดจะเงียบหรือพูดพร้อมกันได้อย่างไรเล่า?  ถ้าพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่กำลังพูด  ทุกสิ่งก็จะเต็มไปด้วยปรีชาญาณและความรอบรู้  แต่หาใช่การสั่นสะเทือนของอากาศจากเสียงของมนุษย์และไปถึงหูของพวกเขาที่ทำให้พวกเขาเข้าใจ  แต่เป็นเพราะพระเป็นเจ้าที่ตรัสในจิตใจของประกาศกต่างหาก  ดังเช่นที่ประกาศกอีกองค์หนึ่งกล่าวไว้  “เป็นทูตสวรรค์ที่พูดภายในตัวข้าพเจ้า  จงร้องในหัวใจของเราว่า  อับบา  พระบิดา  และข้าพเจ้าจะฟังสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสในตัวของข้าพเจ้า”

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การสวดภาวนา

       การสวดภาวนาเป็นกุญแจไขไปสู่ความรอด  น.ออกุสตินกล่าวว่า  “ผู้ที่สวดภาวนาอย่างดี  มีชีวิตที่ดี  ผู้ที่มีชีวิตที่ดี ก็จะตายดี  และผู้ที่ตายดีทุกๆอย่างก็จะดีหมด” 
        น.อัลฟองโซก็พูดในทำนองเดียวกัน  “ผู้ที่สวดภาวนามากๆจะได้รับการช่วยให้รอด  ผู้ที่ไม่สวดภาวนาจะถูกสาปแช่ง  ผู้ที่สวดภาวนาน้อย  ก็อยู่ในสถานะอันตรายต่อความรอดนิรันดรของเขา”   
        ท่านนักบุญยังกล่าวอีกว่า  ในโลกนี้ไม่มีคนที่แข็งแรงหรือคนที่อ่อนแอ  มีแต่คนที่รู้จักสวดภาวนาและคนที่ไม่สวดภาวนา  กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ  การสวดภาวนาคือความเข้มแข็งของเราในทุกเวลาและทุกสถานที่

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี (ตอนที่ 3)

ที่อารามคณะคอนเซ็ปชั่นนิสต์ ในควิโต  ปัจจุบันคือประเทศเอกวาดอร์  แม่พระทรงประจักษ์แก่ซิสเตอร์มาเรียนา  คุณแม่อธิการของอารามนี้....(อ่านต่อ)

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อิวานกา อิวานโกวิค

อิวานกา อิวานโกวิค  เป็นเด็กหญิงคนแรกที่เห็นแม่พระเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 1981.....(อ่านต่อ)   

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การอวยพรของพระสันตปาปาฟรังซิส


ระหว่างการเสด็จเยี่ยมตอนใต้ของอิตาลีบริเวณ แคว้นคาลาเบรีย  พระสันตะปาปาทรงหยุดรถกลางทางเพื่ออวยพรสตรีที่เป็นอัมพาตซึ่งแม่ของเธอพามาเฝ้าข้างถนน  วีดีโอถูดโพสค์ออนไลน์โดยครอบครัวชาวอีตาเลียน

สาส์นแม่พระวันที่ 2 - 25 มิ.ย. 2014

สาส์นแม่พระประทานแก่ มารีจา 25 มิ.ย.

ลูกที่รักทั้งหลาย 
พระเป็นเจ้าสูงสุดทรงประทานพระหรรษทานแก่แม่  ทำให้แม่สามารถคงอยู่กับลูกและนำทางลูกในการสวดภาวนาเพื่อไปสู่หนทางแห่งสันติภาพ  หัวใจและวิญญาณของพวกลูกกระหายในสันติภาพและความรัก  กระหายในพระเป็นเจ้าและความชื่นชมยินดีของพระองค์  เพราะฉะนั้น, ลูกน้อยทั้งหลาย, จงสวดภาวนา , สวดภาวนา , สวดภาวนา  ในการสวดภาวนาลูกจะค้นพบปรีชาญาณในการดำเนินชีวิต  แม่ขออวยพรลูกทุกคนและจะแทรกแซงเข้าช่วยเหลือลูกแต่ละคนเฉพาะพระพักตร์องค์พระบุตรเยซูของแม่ 
ขอขอบใจลูกที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
                                                 -------------------------------------------------
                                                          สาส์นแม่พระประทานแก่ มีรยานา 2 มิ.ย. 2014
ลูกที่รักทั้งหลาย
        แม่เรียกลูกทุกคนและยอมรับลูกทุกคนให้เป็นลูกของแม่  แม่กำลังสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะได้ยอมรับแม่และความรักของแม่ในฐานะมารดาของลูก  แม่เป็นหนึ่งเดียวกับลูกทุกคนในดวงใจของแม่ 
        แม่ได้มาอยู่ท่ามกลางพวกลูกและอวยพรลูก  แม่รู้ว่าลูกปรารถนาการปลอบประโลมใจจากแม่เพราะแม่รักลูกและเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือเพื่อลูก 
        แม่ขอร้องลูกให้เป็นหนึ่งเดียวกับแม่ในองค์พระบุตรของแม่และกลายเป็นอัครสาวกของแม่  เพื่อที่จะสามารถเป็นดังนี้ได้  แม่จึงเรียกร้องลูกให้เริ่มอีกครั้งหนึ่งในความรัก  ความรักมิอาจมีได้โดยไม่สวดภาวนา – สวดภาวนามิอาจมีได้โดยไม่มีการให้อภัย  เพราะความรักคือการสวดภาวนา – และการให้อภัยคือความรัก 
        ลูกๆทั้งหลายของแม่  พระเป็นเจ้าทรงสร้างลูกเพื่อที่จะรัก  และลูกจะรักเพื่อที่จะให้อภัย  การสวดภาวนาทุกครั้งที่ออกมาจากความรัก จะรวมลูกให้เป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระบุตรของแม่และองค์พระจิต  แล้วพระจิตเจ้าจะทรงส่องสว่างแก่ลูกทำให้ลูกเป็นอัครสาวกของแม่ – อัครสาวก – ซึ่งจะทำทุกสิ่งในพระนามของพระเป็นเจ้า  พวกเขาจะกระทำด้วยกิจการและไม่ใช่ด้วยคำพูดเท่านั้น  เพราะพวกเขารักองค์พระบุตรของแม่และมีความเข้าใจในหนทางแห่งความจริงซึ่งนำพวกเขาไปสู่ชีวิตนิรันดร  จงสวดภาวนาเพื่อนายชุมพาบาลของลูกด้วย  เพื่อท่านจะได้นำทางลูกด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ในหนทางแห่งความจริงและความรัก – หนทางแห่งองค์พระบุตรของแม่
ขอขอบใจลูก

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

น้ำท่วมใหญ่ทำให้เกิดน้ำตก



น้ำมากมาย       กระจายกล่น    ล้นภูผา
ทะลักมา           มหาศาล           ต้านไม่ไหว
อัคคีหรือ          จะหาญสู้           อุทกภัย
ผู้มักใหญ่         ฤาจะสู้               ผู้ใฝ่ดี
น้ำกระเซ็น       เป็นฝอยฟุ้ง      รุ้งแพรวพราย
วาดลวดลาย    เป็นเส้นสาย     ใสสดสี
เหมือนดังเช่น  น้ำใจ                มิตรไมตรี
นำสุขี               สู่ชีวิ                 ของผองชน

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การแห่ศีลมหาสนิทในที่สาธารณะ



โอ ศีลบูชามหาสนิท  โอ  ศีลศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
ขอเชิญร่วมกัน   สรรเสริญพระองค์  เทิดเทินพระเกียรตินิรันดร์

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี (ตอนที่ 2)

ที่อารามคณะคอนเซ็ปชั่นนิสต์ ในควิโต  ปัจจุบันคือประเทศเอกวาดอร์  แม่พระทรงประจักษ์แก่ซิสเตอร์มาเรียนา  คุณแม่อธิการของอารามนี้....(อ่านต่อ)

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติการสมโภชพระวรกายพระโลหิตของพระคริสตเจ้า

ตามธรรมเนียมดั้งเดิมนั้น พระศาสนจักร(Latin Church) ทำการสมโภชพระวรกายพระโลหิตของพระคริสตเจ้าตรงกับวันพฤหัสบดีหลังวันอาทิตย์สมโภชพระตรีเอกภาพ วันนี้ถือเป็นวันสมโภช (Solemnity –วันฉลองขั้นสูงสุด) เพราะเป็นวันที่พระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท .....(อ่านต่อ)





วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

น.โฟสตินา-นิมิตของนรก

“ดิฉัน ซิสเตอร์ โฟสตินา  โควาสกา  โดยคำสั่งของพระเป็นเจ้า  ดิฉันได้ลงไปในขุมนรก.....(อ่านต่อ) 

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เม็ดจูกอเรจ์ - อิวาน ดราจิซิวิค

อิวาน ดราจิเซวิค :
ผมจะไม่ลืมวันนั้นเลยตลอดชีวิตของผม  ผมคิดว่าผมมีอายุน้อยลง 5 ปีหลังจากวันนั้น  ขณะนั้นผมไม่สามารถเดินไปข้างหน้าหรือถอยหลัง  ขาของผมมันพันกัน  แต่ชั่วขณะหนึ่ง  ผมวิ่งข้ามไปเหนือพุ่มไม้ซึ่งไม่ใช่เกิดจากกำลังของผม   มันเหมือนกับตัวของพวกเราลอยไป  เราไม่รู้สึกเจ็บเลย  เราเข้าไปใกล้พระนาง  เข้าไปใกล้  ที่แขนซ้ายของพระนางทรงอุ้มพระกุมารเยซู  พระนางใช้มือขวาปกที่ศีรษะของเรา  และพระนางตรัสเป็นครั้งแรก
“ลูกที่รัก  แม่มาอยู่กับลูก  แม่เป็นแม่ของลูก  อย่ากลัวสิ่งใดเลย  แม่จะปกป้องลูก  จะช่วยลูก  จะนำทางลูก”
แต่การจะสงบใจนั้นเป็นเรื่องยาก
เด็กหญิงคนหนึ่งที่อยู่กับพวกเราซึ่งดูผ่อนคลายมากกว่าใคร ได้ถามพระนางว่า “ท่านเป็นใครคะ  ท่านมีชื่อว่าอะไร?” และพระนางตรัสตอบว่า
 “แม่คือราชินีแห่งสันติภาพ  และแม่มาที่นี่เพราะพระเป็นเจ้าทรงส่งแม่มา  ลูกๆที่รักของแม่  สันติภาพ , สันติภาพ และสันติภาพเท่านั้น  จะต้องมีสันติภาพ  ลูกๆที่รักของแม่  สันติภาพต้องครองราชย์ระหว่างพระเป็นเจ้าและมนุษย์และระหว่างปวงชน  ลูกๆที่รัก  โลกนี้และมนุษยชาติกำลังอยู่ในอันตรายอันใหญ่หลวง  มีการกระทำที่จะทำลายตัวเอง”
             นั่นคือพระดำรัสแรกของแม่พระ  นั่นเป็นสาส์นแรกของพระนางที่ประทานแก่พวกเรา  ประทานแก่โลก  ในวันนั้นซึ่งเป็นวันที่สอง  เราได้ตระหนักแน่ชัดว่าพระนางคือแม่ของเรา  และมาจนถึงทุกวันนี้มีพวกเราเพียงสามคนที่ได้เห็นแม่พระทุกวัน - (อิวาน ดราจิเซวิค ในคาลามาซู มิชิแกน 2012)

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

นักคณิตศาสตร์ พอล แอดิส


พอล แอดิส ( Paul Erdös) เป็นนักคณิตศาสตร์อัจฉริยะชั้นนำของโลกคนหนึ่ง  เกิดในฮังการี  มีเชื้อสายยิว  ในวัยเด็กก็มีความคิดเกินอายุ   เห็นความเป็นอนิจจังของชีวิต จึงทุ่มเทความคิดในสิ่งที่ตนคิดว่ายั่งยืน นั่นคือความจริงทางคณิตศาสตร์  อายุ 5 ขวบ ก็เข้าใจแนวคิดของระบบเลขจำนวนลบด้วยตัวเอง ได้รับปริญญาเอกตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ดปี
แอดิสสามารถจำผลงานทางคณิตศาสตร์และแหล่งอ้างอิงได้อย่างมากมาย   แต่กลับหลงลืมรายละเอียดในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ครั้งหนึ่งแอดิสถามนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งว่าเขามาจากไหน นักคณิตศาสตร์ท่านนั้นตอบว่ามาจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา  แอดิส ถามต่อว่า "โอ้ ! ถ้าอย่างนั้นคุณต้องรู้จักเพื่อนที่แสนดีของผมที่ชื่อ เอเลียต แมนเดอร์สัน (Elliot Manderson) ล่ะสิ" นักคณิตศาสตร์คนนั้นตอบกลับมาว่า "ก็ผมไงล่ะครับ เอเลียต  แมนเดอร์สัน เพื่อนที่แสนดีของท่าน"
แอดิสเป็นผู้ที่มีเมตตาจิตด้วย   เขาให้เงินทุนแก่เด็กนักเรียนที่ยากจนหลายคน
ครั้งหนึ่งแอดิสทราบเรื่องราวของ เกลน วิทนีย์ (Glen Whitney) ซึ่งเป็นนักเรียนที่เรียนดีแต่ขัดสน วิทนีย์ ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่ไม่มีเงินเดินทางแม้จะพยายามเก็บออมเต็มที่แล้วก็ตาม
แอดิสได้จัดการพบปะกับ วิทนีย์ และให้ยืมเงินพันดอลล่าร์ โดยบอกว่าค่อยให้คืนเมื่อสามารถจบการศึกษาและมีงานมีการทำ
ต่อมา วิทนีย์ เรียนจนจบปริญญาเอก และสอนที่ University of Michigan จึงติดต่อกับแอดิส เพื่อขอคืนเงินพันดอลลาร์นี้ แต่ท่านตอบกลับไปว่า "จงใช้เงินนี้ เหมือนกับที่ผมเคยใช้" สร้างความตื้นตันใจให้กับ วิทนีย์ เป็นอย่างยิ่ง
            ในเวลาต่อมา วิทนีย์ ได้ถือเป็นหน้าที่ของเขาที่จะสนับสนุนทางการเงินต่อนักคณิตศาสตร์รุ่นเยาว์ที่มีความจำเป็น
            แอดิส  ไม่แต่งงาน  ไม่สะสะเงิน  เขาได้รับเงินเดือนมากพอจะเลี้ยงชีวิต  แต่เขานำเงินส่วนเกินให้เป็นทุนแก่เด็กนักเรียนหรือไม่ก็ตั้งเป็นเงินรางวัลผู้ที่แก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของเขาได้   เขาไม่มีบ้าน  เขาใช้ชีวิตอย่างคนจรจัดไปพักบ้านเพื่อนที่ทำวิจัยด้วยกัน  ซึ่งทุกคนยินดีต้อนรับเขา  แอดิสอุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับคณิตศาสตร์ที่เขารัก  เขาเสียชีวิตในวัย 83 ปี

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี (ตอนที่ 1)

ที่อารามคณะคอนเซ็ปชั่นนิสต์ ในควิโต  ปัจจุบันคือประเทศเอกวาดอร์  แม่พระทรงประจักษ์แก่ซิสเตอร์มาเรียนา  คุณแม่อธิการของอารามนี้....(อ่านต่อ)

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อาหาร10อย่างที่ไม่ควรทานมากเกินไป

บรรดาอาหารสารพัดชนิดที่มีให้หาซื้อกันได้อย่างเสรีนั้น มีคุณประโยชน์แตกต่างกัน อีกทั้งปริมาณที่กินเข้าไปด้วย นั่นคือ ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน แต่ควรกินอยู่ด้วยความพอดี ยึดทางสายกลางเป็นหลัก
เคล็ดลับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์จีน ว่าด้วยเรื่องอาหารการกิน 10 อย่าง ที่ไม่ควรกินมากเกิน มีดังนี้

1. ไข่เยี่ยวม้า ไข่เยี่ยวม้ามีส่วนประกอบของตะกั่วการกินไข่เยี่ยวม้าปริมาณมากๆ และบ่อยๆ อาจเกิดพิษจากสารตะกั่ว นอกจากนั้นยังทำให้การดูดซึมแคลเซียมลดน้อยลง เกิดภาวะขาดแคลเซียม ทำให้กระดูกผุได้
2. ปาท่องโก๋ กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้มเป็นส่วน ประกอบ และในสารส้มมีส่วนประกอบของตะกั่วการกินปาท่องโก๋ทุกวันจะทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารตะกั่ว ซึ่งเป็นพิษต่อสมองและเซลล์ประสาท ทำให้เสื่อมเร็ว เป็นโรคความจำเสื่อมนอกจากนี้ย้งทำให้คอแห้ง เจ็บคอโดยเฉพาะคนที่ร้อนในง่าย
3. เนื้อย่าง ประเภทต่างๆเนื้อที่ถูกรม ย่างไฟ จะเกิดสารเบนโซไพริน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง
4. ผักดอง การกินผักดอง หรือของหมักเกลือนานๆ จะเกิดการสะสมของเกลือโซเดียม ทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดโรคความดันเลือดสูง และโรคหัวใจได้ง่ายนอกจากของหมักดองยังมีสารก่อมะเร็ง แอมโมเนียมไนไตรต์
5. ตับหมู ตับหมู 1 กิโลกรัม มีโคเลสเตอรอลมากกว่า 400 มิลลิกรัม การกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลปริมาณสูงมากๆ นานๆ จะทำ ให้หลอดเลือดแข็งตัว มีความเสี่ยง ต่อโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดทางสมอง รวมถึงโรคมะเร็งด้วย
6. ผักขม, ผักปวยเล้ง ผักขม, ผักปวยเล้งมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ แต่มีกรดออกซาเลตมาก จะทำให้มีการขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก เกิดภาวะขาดแคลนแคลเซียมและสังกะสี
7. บะหมี่สำเร็จรูป บะหมี่สำเร็จรูปหลายชนิดมีสารกันบูด สารปรุงแต่งรสที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายการกินบะหมี่สำเร็จรูปบ่อยๆ จะทำให้ขาดสารอาหารและเกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย
8. เมล็ดทานตะวัน เมล็ดทานตะวันมีส่วนประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว การกินเมล็ดทานตะวันปริมาณมาก จะทำให้ระบบเมตาบอลิซึมของไขมันผิดปกติ ทำให้มีการสะสมไขมันที่ตับได้ เป็นอันตรายต่ออวัยวะตับ
9. เต้าหู้หมัก, เต้าหู้ยี้ กระบวนการหมักเต้าหู้ มีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่ายนอกจากนี้ ยังมีสารย่อยสลายโปรตีน ไฮโดรเจนซัลไฟล์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
10. ผงชูรส คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินกว่า 6 กรัมต่อวัน จะทำให้กรดกลูตามิกในเลือดสูง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของ ประจุแคลเซียมและแมกนีเซียม เกิดอาการปวดศีรษะ ใจสั่น คลื่นไส้ นอกจากนี้ มีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ด้วย

ที่กล่าวมาเป็นภูมิปัญญาโบราณ ความเชื่อที่สืบทอดปฏิบัติกันมา ปัจจุบันมีการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายมากขึ้น
ที่มา : facebook มูลนิธิหมอชาวบ้าน

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Our Beautiful World



Our beautiful world  by John Denver’s classic
You fill up my senses,
like a night in a forest,
like the mountains in Spring time,
like a walk in the rain,
like a storm in the desert,
like a sleepy blue ocean,
you fill up my senses,
come fill me again.

Come let me love you,
let me give my life to you.

Let me drown in your laughter,
let me die in your arms.

Let me lay down beside you,
let me always be with you.

Come let me love you,
come love me again.

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แม่พระแห่งกัวดาลูเป (ตอนที่ 6)

พระเป็นเจ้าทรงประทานเครื่องหมายหลายอย่างให้แก่เรา  เพื่อทำให้เราแน่ใจและมีความเชื่อที่มั่นคง  เครื่องหมายเหล่านี้  อาทิเช่น  ผ้าห่อพระศพแห่งเมืองตูริน  พระธาตุร่างกายของนักบุญหลายองค์ที่ไม่เน่าเปื่อย  แผ่นศีลมหาสนิทที่กลายเป็นเนื้อและโลหิตแท้ๆ  รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ  ... อ่านทั้งหมด

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บทเทศน์บนภูเขา

ปัญหาเกิดกับผู้อ่านพระคัมภีร์ตอนมหาบุญลาภ หรือ ความสุขแท้แปดประการ  เพราะคำที่ใช้คือ “Bless-ed” ซึ่งเป็นคำวิเศษณ์  เมื่อก่อนทางไทยแปลว่า “เป็นบุญของ”  แต่ปัจจุบันแปลว่า “มีความสุข”  .....อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ของขวัญแด่พระสันตปาปา


เมื่อผู้นำประเทศต่างๆมาเยี่ยมพระสันตปาปาฟรังซิสที่วาติกัน  ก็มักจะมีของขวัญเล็กๆน้อยๆมามอบแด่พระองค์ด้วย.......อ่านต่อ

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์


การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าทำให้ธรรมล้ำลึกแห่งปาสกาเสร็จสิ้นสมบูรณ์  พระองค์ทรงแสดงแก่เราว่าพระองค์จะไปที่ไหน และเรามีความหวังจะได้ไปสู่ที่นั่นเช่นเดียวกับพระองค์  ณ.ที่นั้นพระองค์ดำรงอยู่ในนิรันดรภาพทั้งสภาวะมนุษย์ที่มีร่างกายและสภาวะพระเจ้า  ทรงแสดงให้เราเห็นสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ที่จะปรากฏเป็นจริงที่ซึ่ง “พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเรา  ไม่มีความตายอีกต่อไป ไม่มีเสียงคร่ำครวญและความโศกเศร้า” (วว. 21:4)